ตรัง - 2 หนุ่มเพื่อนรักชาว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เกิดทะเลาะวิวาทกันอย่างหนัก ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้ปืน .38 จ่อยิงหัวไม่ยั้งจนดับคาที่ภายในร้านสนุกเกอร์ แล้วตัดสินใจเข้ามอบตัว พบสาเหตุจากปัญหาส่วนตัวของทั้งคู่ที่เกิดมานานแล้ว
วันนี้ (17 ก.ย.) ร.ต.อ.มนตรี สงคง ร้อยเวร สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายภายในร้านห้วยยอดสนุกเกอร์ ซึ่งเป็นของสมาคมชาวพัทลุง-ตรัง เลขที่ 81 และ 83 ถนนเทศบาลห้วยยอด ซอย 13 ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งอยู่ด้านหลัง สภ.ห้วยยอด เพียง 200 เมตร จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด และ พ.ต.ท.รัฐกร ภักดีวานิช รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ห้วยยอด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานห้วยยอด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรัง เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบภายในร้านสนุกเกอร์ดังกล่าว ซึ่งมีโต๊ะสนุกเกอร์ จำนวน 3 โต๊ะเท่านั้น
โดยบนพื้นพบศพ นายชัชชวิทย์ หรือชาติ ทิพย์มาศ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/18 ถนนเทศารัษฎา ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สภาพศพถูกจ่อยิงเข้าที่ศีรษะจนหมดแมกกาซีน จำนวน 5 นัด ด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 เสียชีวิตคาที่ ท่ามกลางความตกตะลึงของวัยรุ่นที่เดินทางไปเล่นสนุกเกอร์ไม่ต่ำกว่า 10 คน ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุมี นายวีระยุทธ ทรัพย์สิน หรือกุ๊กไก่ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ถนนเทศบาล 5 ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านสนุกเกอร์ดังกล่าว และเป็นผู้ลงมือลั่นไกยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งภายในรังเพลิงพบปลอกกระสุน จำนวน 5 ปลอก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายวีระยุทธ หรือกุ๊กไก่ มือยิงมาสอบปากคำที่ สภ.ห้วยยอด โดยแจ้งข้อหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานอย่างละเอียดเพื่อไว้ประกอบสำนวนคดี จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตามมาเก็บคราบเขม่าดินปืนจากมือนายวีระยุทธ ผู้ต้องหาที่ สภ.ห้วยยอด ด้วย ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำหลายปาก
พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายกับผู้ต้องหา และครอบครัวสนิทสนมกันเป็นอย่างดี เข้าออกไปเที่ยว และกินเหล้าร่วมกันภายในร้านสนุกเกอร์เป็นประจำ ส่วนชนวนเหตุเกิดจากปัญหาขัดแย้งส่วนตัวนานแล้ว เนื่องจากผู้ตายเข้ามาทำให้ครอบครัวของผู้ต้องหาแตกแยก ทำให้ผู้ต้องหาถูกพี่ชาย และพ่อต่อว่าอยู่เป็นประจำ โดยคืนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ถูกพี่ชายต่อว่ามาอีก เมื่อมาเจอกันในร้านสนุกเกอร์ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง จนผู้ต้องหาบันดาลโทสะชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมา ยิงใส่ผู้ตายไปประมาณ 4-5 นัด จนเสียชีวิตดังกล่าว
