นครศรีธรรมราช - คลิป พ.ต.ท.ซดเหล้าในกองร้อยเป็นพิษ ผบก.ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 สั่งย้ายแล้ว เผยเหตุเครียดหนักซึมเศร้าขอย้ายกลับบ้านหวังดูแลภรรยาป่วยหนักแต่ไม่เป็นผล ซ้ำร้ายภรรยาป่วยจนตาย
วันนี้ (15 ก.ย.) ภายหลังจากการเผยแพร่และส่งต่อคลิปวิดีโอชายคนหนึ่งนั่งดื่มสุราอยู่ในห้องทำงาน โดยถูกระบุว่า ชายคนดังกล่าวเป็นนายตำรวจยศพันตำรวจโท สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนเป็นที่สนใจของสังคมอย่างมาก โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการติดตามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบข้อมูลที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา
โดยพบว่าเจ้าหน้าที่ภายในกองกำกับการซึ่งได้แจ้งว่าไม่สามารถให้สัมภาษณ์ใดๆ ได้ เนื่องจากเป็นอำนาจของผู้กำกับการเท่านั้น ซึ่งอยู่ในระหว่างเดินทางไปราชการต่างจังหวัด แจ้งได้เพียงว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นที่สำนักงานของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 422 ภายในกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 โดยขณะนี้ผู้บังคับบัญชาได้มีคำสั่งย้ายนายตำรวจที่ปรากฏในคลิปไปประจำที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 จังหวัดสงขลาแล้ว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ธุรการกำลังพลกำลังทำหนังสือส่งตัวไปตามคำสั่ง
พ.ต.อ.วัฒนา เพ็งแก้ว ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปราชการการ ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ระบุว่า นายตำรวจที่ปรากฏอยู่ในคลิปนั้นถือเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีประวัติการทำงานดีนายหนึ่ง ได้เติบโตจากชั้นประทวนจนผ่านเข้ามาเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร ครั้งแรกไปประจำการที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน 22 จ.อุบลราชธานี
ต่อมา ได้ขอทำเรื่องย้ายขอกลับภูมิลำเนาเพื่อไปดูแลภรรยาที่ป่วยหนักรักษาตัวอยู่ที่ ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี รวมทั้งดูแลครอบครัว แต่ได้มีคำสั่งโยกย้ายและก็ได้มีคำสั่งย้ายมาประจำที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน 42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง ทำให้นายตำรวจรายนี้มีความเครียดอย่างมากด้วยความเป็นห่วงครอบครัว และก่อนหน้านี้ไม่นาน ภรรยาได้เสียชีวิตลง ทำให้เริ่มมีความเศร้า น้อยใจและเครียดหนัก จึงเริ่มดื่มเหล้าในระหว่างทำงาน
“โดยก่อนหน้านี้ มีเรื่องร้องเรียนมาแล้วได้เรียกมาพูดคุยว่ากล่าวตักเตือน แต่ยังคงมีการดื่มเหล้าอย่างต่อเนื่อง จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกองบังคับการขอให้โยกย้ายนายตำรวจรายนี้กลับภูมิลำเนาตามการร้องขอ เพื่อลดความเครียด และสามารถทำงานได้ดีขึ้น แต่มีการถ่ายภาพแล้วส่งต่อจนเกิดเป็นเรื่องราวขึ้น ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนไปแล้ว” ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดน 42 กล่าว
