xs
xsm
sm
md
lg

กรมประมงผนึกกำลัง CP-TRUE สร้างปะการังเทียม ส่งมอบชุมชนสงขลา-นราธิวาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กรมประมง ลงพื้นที่ จ.สงขลา ผนึกกำลังบริษัท CP และ TRUE สร้างปะการังเทียม 1,000 แท่ง ส่งมอบชุมชนสงขลา และนราธิวาส สนองพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันนี้ (12 ก.ย.) ที่บริเวณสวนป่าทักษิณ (บริเวณชายฝั่งทะเลตลาดประชารัฐบ่อตรุ) อ.ระโนด จ.สงขลา พล.ร.ต.ภูมิพันธ์ นิลกำแหง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 นายวิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง นายธนาวุฒิ กุลจิตติชนก ประมงจังหวัดสงขลา นายเรวัตร คงประดิษฐ์ ประมงจังหวัดนราธิวาส และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมส่งมอบปะการังเทียม จำนวน 1,000 แท่ง ให้แก่ผู้แทนชุมชนประมงจังหวัดสงขลา และนราธิวาส ภายใต้ความร่วมมือการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและฟื้นฟูการประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการการปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำ จำนวน 1 ล้านตัว และลงเรือไปร่วมสังเกตการณ์การจัดวางปะการังเทียม บริเวณชายฝั่งทะเล ต.บ่อตรุ อ.ระโนด จ.สงขลา

ทั้งนี้ จากข้อตกลงภายใต้ความร่วมมือเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและฟื้นฟูการประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืนนั้น เป็นไปตามภารกิจของกรมประมง ตามมาตรา 12 ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และพระราชกำหนดการประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ในการกำหนดนโยบาย และกำกับดูแลการบริหารจัดการด้านการประมง โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ซึ่งการจัดสร้างปะการังเทียมถือเป็นเครื่องมือทางการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน สามารถเป็นแหล่งอนุรักษ์ แหล่งทำการประมง และสร้างอาชีพให้แก่ชาวประมงพื้นบ้านได้จริง
 

 
นายวิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การจัดวางปะการังเทียม ร่วมกับบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท ทรูคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปี 2560 โดยมีการจัดวางปะการังเทียมที่ ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา และ ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี โดยใช้วัสดุแท่งคอนกรีต ขนาด 1.5x1.5x1.5 เมตร จำนวนรวม 1,000 แท่ง

ภายหลังการจัดวางปะการังเทียมไปแล้ว 2 ปี ผลกรประเมินพบว่า มีสัตว์น้ำหน้าดิน หรือสัตว์น้ำชนิดเกาะติดขนาดใหญ่บนผิวปะการังเทียม จำนวน 12 ชนิด ปลา 35 ชนิด ซึ่งเป็นปลาเศรษฐกิจ 22 ชนิด เช่น ปลาเก๋า ปลากะพง ปลาอินทรี เป็นต้น ส่วนสัตว์น้ำที่จับได้โดยเครื่องมือประมงพื้นบ้านมีจำนวน 181 ชนิด เป็นปลา 128 ชนิด ปู กุ้ง กั้ง หมึก และอื่นๆ รวม 53 ชนิด การเพิ่มขึ้น และความหลากหลายของทรัพยากรสัตว์น้ำเหล่านี้จะส่งผลให้ชุมชนประมงมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำประมงพื้นบ้านไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า การพื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำด้วยการจัดวางปะการังเทียมนั้นมีความเหมาะสม
 

 
สำหรับการจัดวางปะการังเทียมในวันนี้ (12 ก.ย.) เป็นการจัดสร้างปะการังเทียมแหล่งเล็ก ใช้วัสดุแท่งคอนกรีต ขนาด 1.5x 1.5x1.5 เมตร นำไปจัดวางเพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำตามแนวชายฝั่งทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์ จำนวน 2 แหล่ง 2 จังหวัด ได้แก่ แหล่งที่ 1 ใช้ปะการังเทียม จำนวน 500 แท่ง พร้อมทุ่นลอย 3 ทุ่น จัดวางบริเวณทะเลหน้าชายฝั่ง ต.บ่อตรุ อ.ระโนด จ.สงขลา ครอบคลุมพื้นที่ 0.32 ตารางกิโลเมตร และแหล่งที่ 2 ใช้ปะการังเทียม จำนวน 500 แท่ง พร้อมทุ่นลอย 4 ทุ่น จัดวางบริเวณทะเลหน้าชายฝั่ง ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ครอบคลุมพื้นที่ 0.005 ตารางกิโลเมตร

ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่มีการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การจัดวางปะการังเทียมในครั้งนี้จะก่อให้เกิดผลดีแก่การทำประมงชายฝั่งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทั้ง จ.สงขลา และ จ.นราธิวาส มีการจัดสร้างปะการังเทียมจังหวัดละ 7 แหล่ง และในอนาคตหากชุมชนประมงมีความต้องการ ก็จะมีการดำเนินการเพิ่มเติมขึ้นอีก
 

 
รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การจัดสร้างปะการัวเทียมนั้น กรมประมงได้ดำเนินการตามพระราชเสาวณีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย เลี้ยงตัว วางไข่ และหลบภัยของสัตว์น้ำ โดยเริ่มจัดสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 อย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน กรมประมงได้ดำเนินการจัดสร้างปะการังเทียม เพื่อให้เป็นแหล่งทำการประมงในพื้นที่ 20 จังหวัดชายทะเล รวม 584 แหล่ง ครอบคลุมพื้นที่ 2,063.13 ตารางกิโลเมตร

ซึ่งผลการจัดสร้างพบจำนวนประชากรสัตว์น้ำเพิ่มจำนวนมากขึ้น มีสัตว์น้ำในอดีตที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจแล้วหายไปได้กลับมามีขึ้นอีกมากมาย พร้อมฝากถึงพี่น้องชาวประมงทุกคนว่า ขอให้ใช้ทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ให้รัก และหวงแหนในทรัพยากรพื้นถิ่นของตน เพื่อให้ลูกหลานไทยได้มีสัตว์น้ำไว้ใช้อย่างยั่งยืน
 




กำลังโหลดความคิดเห็น