xs
xsm
sm
md
lg

ตชด.พร้อมชาวบ้านจุฬาภรณ์ 9 เข้าเยี่ยมผู้นำชุมชนเผ่าอัสลี หลังป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ยะลา - ตชด.พร้อมชาวบ้านจุฬาภรณ์ 9 อ.ธารโต จ.ยะลา รุดเข้าเยี่ยมผู้นำชุมชนเผ่าอัสลี กลุ่มบ้านฮาลา หลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย

วันนี้ (10 ก.ย.) เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “ทางเดินแห่งความสุข” ได้แชร์คลิปวีดีโอพร้อมด้วยภาพนิ่งและคำบรรยายขณะเดินทางเข้าไปในป่าฮาลาบาลา พื้นที่ ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ที่บ้านจุฬาภรณ์ 9 พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ได้รับทราบข่าวว่า ผู้ใหญ่ของชนเผ่าอัสลีซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มชนเผาอัสลีกลุ่มบ้านฮาลา ได้ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งตับมาเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้ว

โดยทาง ด.ต.ปรมินทร์ นาทองเจริญสุข สังกัดหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่ในฐานปฏิบัติการดูแลรักษาป่าพระนามาภิไธยป่าฮาลาบาลา และมีความรู้จักสนิทสนมกับผู้ใหญ่ผู้นำชนเผ่าอัสลีกลุ่มดังกล่าว พร้อมกับกลุ่มชาวบ้านจุฬาภรณ์ 9 และผู้ที่รู้จักผู้ใหญ่ได้มีการหารือกันในกลุ่ม จนมีผู้บริจาคน้ำมันกัญชามาให้จำนวน 2 ขวด เพื่อนำไปช่วยรักษาผู้ใหญ่
 

 
ทั้งนี้ จากการสอบถามในเบื้องต้นเกี่ยวกับอาการป่วยของผู้ใหญ่ทราบว่า ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ชาวบ้านได้ทราบข่าวว่าผู้ใหญ่ล้มป่วยจึงได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลธารโต จ.ยะลา และได้รับการรักษาในขั้นต้นจนทราบอาการจากแพทย์ว่า ผู้ใหญ่ได้ป่วยด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย จากนั้นเมื่อผู้ใหญ่ทราบก็ขออนุญาตให้ชาวบ้านนำตัวกลับบ้านในถิ่นฐานที่อาศัยอยู่ในป่าฮาลาบาลา เพราะเป็นห่วงครอบครัวและญาติ ทั้งยังมีวัตถุประสงค์อยากจะมีชีวิตในห้วงเวลาสุดท้ายภายในถิ่นที่อยู่อาศัยของตนเอง ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำตัวกลับไปยังบ้านที่อาศัยอยู่

จนในวันนี้ ด.ต.ปรมินทร์ นาทองเจริญสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมด้วยชาวบ้าน และกลุ่มผู้ที่รู้จักผู้ใหญ่ ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยมยังทับที่อยู่อาศัย โดยเมื่อไปถึง พบว่า ผู้ใหญ่ได้นอนพักอยู่ในทับด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรยด้วยอาการป่วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนและผู้ที่เดินทางไปเยี่ยมจึงได้นำน้ำมันกัญชาที่ได้รับบริจาคมามอบให้แก่ผู้ใหญ่และญาติ พร้อมทั้งแนะนำวิธีการใช้ในการรักษา
 

 
โดยจากการสอบถาม ด.ต.ปรมินทร์ นาทองเจริญสุข ได้ทราบข้อมูลในเบื้องต้นว่า หลังจากที่ทราบข่าวก็ได้เดินทางเข้าไปเพื่อเยี่ยมผู้ใหญ่พร้อมด้วยน้ำมันกัญชา จำนวน 2 ขวด ที่มีผู้ส่งมาให้ โดยได้เดินทางด้วยเรือจากบ้านจุฬาภรณ์ 9 ไปยังจุดที่ชนเผ่าอัสลีอาศัยอยู่ โดยต้องเดินทางไปด้วยเรือระยะทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร จากนั้นได้เดินเท้าเข้าไปในป่าอีกกว่า 1 กิโลเมตร จึงพบที่อยู่อาศัยของกลุ่มอัสลี โดยกลุ่มดังกล่าวมีชนเผ่าอัสลีอายอยู่ประมาณ 15-18 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นญาติของผู้ใหญ่ที่กำลังล้มป่วยอยู่ในขณะนี้ 

ซึ่งด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต่อผู้ใหญ่ หรือผู้นำกลุ่มชนเผ่าอัสลีแห่งนี้ ชาวบ้านจุฬาภรณ์ 9 ทำเพียงแค่การรอรับฟังข่าวสารจาก นายดิง เพียงคนเดียวของกลุ่ม ที่สามารถจะสื่อสารกับชาวบ้านจุฬาภรณ์ 9 ได้ และชาวบ้านต่างก็หวังให้ผู้ใหญ่ได้หายป่วยจากโรคภัยดังกล่าว
 




กำลังโหลดความคิดเห็น