xs
xsm
sm
md
lg

ผกก.ท่าแซะ สั่งติดตู้แดงดูแลความปลอดภัยครอบครัว “บุญแทน” ทีมจับ “บิลลี่” หลังถูก “ดาบแท่ง” ข่มขู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ชุมพร - ผกก.สภ.ท่าแซะ สั่งติดตู้แดงกรณีพิเศษดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง เมีย พ่อ แม่ “บุญแทน” อดีตเจ้าหน้าที่อุทยานฯ หนึ่งในทีมจับกุม “บิลลี่” หลังเข้าแจ้งความถูก “ดาบแท่ง” ข่มขู่คุกคาม พร้อมขอให้ตำรวจคุ้มครอง





กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สืบสวนการหายตัวไปของ นายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ตรวจจับมีน้ำผึ้งป่า หลังถูกปล่อย นายบิลลี่ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 จนถึงปัจจุบันนาน 5 ปี จนกระทั่ง ดีเอสไอได้มาพบหลักฐานชิ้นส่วนกระดูก 2 ชิ้น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร 1 ถัง เหล็กเส้น 2 เส้น ถ่านไม้ 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน ถูกนำไปทิ้งถ่วงน้ำไว้ใต้สะพานแขวน ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 ก.ย.62 นางลัดดาวรรณ บุษราคัม อายุ 32 ปี บ้านอยู่ตำบลท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ภรรยาของ นายบุญแทน บุษราคัม อดีตพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ ที่หายตัวตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวานนี้ได้นำคลิปเสียงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อ พ.ต.ท.สมบูรณ์ พุ่มจร สว.(สอบสวน) สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า มี “ดาบแท่ง” สังกัด บช.ภ.7 ได้โทรศัพท์มาที่ผู้แจ้งเมื่อวันที่ 3 ก.ย.62 ช่วงเวลา 11.00 น. “ดาบเท่ง” ได้พูดข่มขู่ ว่า หัวหน้าอี่ (นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร) ขู่ฆ่านายบุญแทน สามีตน และพูดเกลี้ยกล่อมให้บุญแทนไปเป็นพยานให้แก่หน่วยดีเอสไอ โดยดีเอสไอจะมีเงินเดือนให้และคุ้มครองความปลอดภัยให้ ถ้าไม่มาจะไม่รับรองความปลอดภัย

ต่อมา วันที่ 4 ก.ย.62 “ดาบแท่ง” ได้ไปที่บ้านบิดา มารดา ของผู้แจ้ง และข่มขู่ว่าทางฝ่ายหัวหน้าชัยวัฒน์ ลงขัน ว่า จะให้นายบุญแทน รับผิดคดีทั้งหมดเพียงผู้เดียวในการชี้เป้า ซึ่งทำให้บิดา มารดา ของผู้แจ้งเกิดอาการกลัว ผู้แจ้งจึงมาให้พนักงานสอบสวนลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อผู้ข่มขู่ แค่อยากให้แจ้งจะได้มีบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และมีการส่งหลักฐานซีดีบันทึกเสียง เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 15 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

นอกจากนั้น นางลัดดาวรรณ ยังได้ทำหนังสือถึง ผกก.สภ.ท่าแซะ ขอกำลังตำรวจท้องที่ไปคอยตรวจสอบ คุ้มครองความปลอดภัยตนเอง พร้อมกับบิดา มารดา ที่บ้านพักอยู่อาศัยด้วย เนื่องจากหวาดกลัวความไม่ปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุถูก “ดาบแท่ง” พูดจาข่มขู่คุกคามในลักษณะดังกล่าว

นายจเร เขาทอง อายุ 65 ปี บิดาของนางลัดดาวรรณ กล่าวถึงกรณี “ดาบเท่ง” มาหาที่บ้านพูดจาลักษณะข่มขู่คุกคามว่า คนเราอยู่ในศาสนาพุทธ จะต้องมีความยุติธรรม พูดอะไรพูดให้ตรงพูดให้จริงอย่ามาข่มขู่กันถือว่าผิดกฎหมาย ถ้าตนเอาเรื่องก็สามารถดำเนินการได้แต่ตนไม่ทำ คุณปฏิบัติหน้าที่ของคุณก็ทำไปแต่อย่ามาทำพูดจาข่มขู่กันแบบนี้ จะให้ตนไปหานายบุญแทน ให้มามอบตัว เหมือนให้ตนไปเอาคนร้ายมามอบตัว ตนจะไปหามาจากที่ไหนเป็นการพูดจาบังคับข่มขู่ตนทำไม่ถูกต้อง

ด้าน พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.ท่าแซะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า หลังจากที่นางลัดดาวรรณ บุษราคัม อายุ 32 ปี มาแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอกำลังคุ้มครองความปลอดภัย ซึ่งตำรวจจะต้องดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนทุกคนอยู่แล้ว จึงได้สั่งการให้ตำรวจไปติดตั้งตู้แดงที่บ้านของ นางลัดดาวรรณ เป็นกรณีพิเศษแล้ว พร้อมกับให้รถยนต์สายตรวจ รถจักรยานยนต์สายตรวจ ออกตรวจเป็นระยะๆ ตามวงรอบตลอดทั้งกลางวันกลางคืน พร้อมกับให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือสายตรงที่สามารถโทร.หาตนได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่นางลัดดาวรรณ


กำลังโหลดความคิดเห็น