xs
xsm
sm
md
lg

จบดรามาเครื่อง “ไมโครสโคป” รวน ของบไม่ได้ หมอโพสต์รับบริจาค สุดท้ายมีแววได้แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -จบทันใจ ดรามาซื้อ “ไมโครสโคป” หลังหมอโพสต์ขอบริจาคแทนเครื่องเก่าที่เริ่มมีปัญหา ใช้งานมาเกือบ 20 ปี ของบตามระบบถูกผลักตกทุกครั้ง ผู้ช่วยเลขา รมช.สธ.เผยโอกาสได้งบมีสูง

จากกรณี นายแพทย์บุญเลิศ ศรีไพโรจน์กุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ ศัลยกรรมประสาท ประจำ รพ.วชิระภูเก็ต ตัดสินใจโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อหลายวันก่อน เพื่อขอรับเงินบริจาคจากประชาชนจัดซื้อเครื่อง “กล้องจุลศัลยกรรม หรือ กล้องไมโครสโคป” ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการผ่าตัดสมอง กระดูกสันหลัง และงานต่อหลอดเลือดทดแทนตัวเดิมที่มีอายุเก่าแก่ถึง 17 ปี เนื่องจากเครื่องเก่าที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2545 เสียงร้องดัง “ปี๊ดๆ” สนั่นแบบรวนๆ ซึ่งที่ผ่านมา เคยซ่อมแซมมาแล้ว แต่เนื่องจากเป็นเครื่องรุ่นเก่า อะไหล่หายาก ค่าซ่อมแพงขึ้นตลอด ก็ต้องทนใช้กันมา ท่ามกลางคือภาวะกดดันของเครื่อง ทั้งเรื่องของเสียงดัง โฟกัสเครื่องทำไม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ปล่อยไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อการผ่าตัดคนไข้ เพราะงานที่ต้องผ่าตัดลึก และละเอียด เช่น ในสมอง การโฟกัสจึงสำคัญมาก

อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวออกไปมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก รวมทั้งมีข่าวออกทางสื่อทาง ทำให้เรื่องดังกล่าวทราบไปถึงเจ้ากระทรวงว่าการสาธารณสุข และมีผู้ใหญ่ได้ขอให้ทางนายแพทย์บุญเลิศ ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป และจะมีการหารือกันในเรื่องของการจัดหางบประมาณ เพื่อนำมาจัดซื้อ

ซึ่งหลังจากได้รับการร้องขอให้ลบโพสต์ดังกล่าว ทางนายแพทย์ก็ได้เข้าไปแก้ไขโพสต์ใหม่ โดยระบุว่า “ศัลยแพทย์จะมีความสุขก็ต่อเมื่อคนไข้ที่เราผ่าตัดรักษาสามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตอย่างปกติที่ควรจะเป็น วัยรุ่นต่างชาติรายนี้ ขับรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุชนหมดสติเลือดออกในสมอง ถูกส่งมาที่ รพ.วชิระภูเก็ต เนื่องด้วยไม่มีญาติ ไม่มีคนรับผิดชอบค่ารักษา แต่ต้องผ่าตัด เราไม่สนใจอยู่แล้วต้องเอาคนไข้ให้รอดก่อน เราจึงให้การรักษาไปก่อนเลย พ่อและแม่รีบบินมาจากต่างประเทศด้วยความทุกข์ใจ และเป็นห่วงว่าผลของการรักษาจะไม่ดีจึงมีความกังวลใจเป็นอันมาก

แต่โชคดีที่การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี และผลเป็นที่น่าพอใจ คำชมต่างๆ ทีมห้องผ่าตัด ทีมพยาบาลที่ ICU และที่ตึกศัลยกรรมประสาท ห้องพิเศษ ตึกหลวงพ่อแช่ม ทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟู เวรเปล และสหวิชาชีพต่างๆ รวมถึงศูนย์ต่างประเทศ สมควรได้รับคำชมเชยเช่นเดียวกัน

อยากบอกให้รู้ว่า รพ.วชิระภูเก็ตของเราดูแลคนไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติไหน ยากดี มีจน ร่ำรวยล้นฟ้า ยากจนติดดิน การศึกษาใดๆ ไม่เลือกศาสนา เรารับทั้งภูเก็ต พังงา ระนอง รับส่งต่อไกลๆ จากแม่กลองนู่น ก็เคยมี รักษาโดยไม่ถามเรื่องเงินทอง (ถึงแม้ รพ.ของเราจะติดลบเป็นอันดับหนึ่งของเขต 11 ฮาาา เพราะเรารักษาโรคที่มีความซับซ้อนมาก) และนี่เป็นความสุขใจของเรา

ปล.กล้องผ่าตัดทางสมองของเราใช้มาแค่เกือบยี่สิบปีแล้ว เริ่มรวน เกเร บ่อยๆ คิดทางบวกว่าดีเหมือนกัน พังเมื่อไรจะได้ก็สบายเสียที ไม่ต้องผ่ารีเฟอร์อย่างเดียว

ผมได้รับการร้องขอให้ลบโพสต์ออก ผมจึงขอแก้ไขข้อความบางส่วนและเอารูปบัญชี รพ.ออกไป และให้รอเงินบริจาคจากการวิ่งของพี่ตูน (อนาคต รมต. สาธารณสุข ฮาา) ในเดือนตุลาคมทางฝั่งอันดามันเสียก่อน เพื่อให้เกิดความสบายใจของทุกๆ ฝ่ายนะครับ อย่างไรก็ตาม ขอเรียนด้วยความจริงใจว่า รพ.ใกล้บ้านของท่านอาจมีความต้องการเครื่องไม้เครื่องมือที่สำคัญ ที่ใช้ช่วยชีวิตผู้คนในจังหวัดของท่าน

วันสำคัญใดๆ ก็ตาม เช่น วันคล้ายวีนเกิด วันครบรอบแต่งงาน วันพระ ท่านอาจเจียดปัจจัยส่วนเกินของท่านทำบุญให้ รพ.ประจำจังหวัดของท่านบ้างนะครับ ขออนุโมทนาบุญ และผมได้ทำหน้าที่ของผมแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังมีการแก้ไขโพสต์ปรากฏว่ายังมีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและร่วมบริจาคเข้ามาจำนวนมาก

ขณะที่ นายเรวัตร อารีรอบ ผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบปัญหาที่หมอโรงพยาบาลวชิระออกมาโพสต์ถึงเรื่องเครื่อง “ไมโครสโคป” ที่เริ่มมีปัญหาและขาดความแม่นยำในการโฟกัส ว่า ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้ให้ตนซึ่งเป็นผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประสานข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งประสานหารือกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขถึงปัญหาและความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดหางบประมาณจัดซื้อเครื่องมือผ่าตัดสมองโดยเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อ โดยในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ตนจะลงมาประชุมร่วมกับทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตในการจัดทำแผนงานโครงการ ซึ่งเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไข

ขณะที่นายแพทย์เฉลิมพล สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ทราบปัญหาเรื่องเครื่อง “ไมโครสโคป” มาโดยตลอด ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลและทางคุณหมอพยายามที่จะเสนอของบประมาณในการจัดซื้อ แต่ก็ไม่ได้รับงบ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า งบที่ได้รับการจัดสรรให้โรงพยาลมีจำนวนน้อย ส่วนงบที่ได้รับการบริจาคผ่านมาทางมูลนิธิก็ไม่สามารถที่จะนำไปจัดซื้อเครื่องที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากๆ ได้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันเรื่องของการของบอื่นๆ เข้ามาดูแล แต่ทางคุณหมอที่ออกมาโพสต์อาจจะเกิดความน้อยใจที่งบเสนอไปตกไปทุกครั้ง ในขณะที่เครื่องซึ่งใช้งานมานานก็เริ่มรวน ทำงานไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการโพสต์ทางผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีก็ได้ประสานมาแล้ว และในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เพื่อประชุมหารือจัดแผนวางแผนในการจัดหาครุภัณฑ์ขาดแคลนเร่งด่วน ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

ขณะที่ นพ.บุญเลิศ เคยให้สัมภาษณ์ ว่า แต่ละปีโรงพยาบาลทั้งหมดของเขตจะได้รับงบมาก้อนหนึ่งประมาณ 50 ล้านบาท แต่จะต้องแข่งกันนำเสนอความจำเป็น เพื่อดึงงบก้อนนั้นมาลงที่โรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตก็ทำ เพื่อของบมาซื้อเครื่องไมโครสโคป แต่ก็ทำได้ระดับหนึ่ง เพราะแต่ละโรงพยาบาล และแต่ละแผนก รวมถึงใน รพ.วชิระภูเก็ตเอง ต่างมีความจำเป็นต้องจัดซื้ออุปกรณ์มาช่วยชีวิตคนทั้งสิ้น และเครื่องดังกล่าวราคาสูง รุ่นเล็กอยู่ที่ 18 ล้านบาท รุ่นใหญ่ 23 ล้านบาท การซื้อเครื่องใหม่จึงต้องรอไปก่อน

ที่ผ่านมา ต้องใช้วิธีซ่อมบำรุง ล่าสุดเมื่อปี 2555 และพบว่าเครื่องตกรุ่นไปแล้ว การหาอะไหล่ทำได้ยาก ค่าซ่อมบำรุงก็แพงขึ้นทุกครั้งไป ที่ผ่านมาหมอต้องอยู่กับสถานการณ์เครื่องรวนมาตลอด บางทีก็มีเสียงดัง และการโฟกัสมีประสิทธิภาพไม่ดีเท่าที่ควร ปล่อยไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อการผ่าตัดคนไข้ เพราะงานที่ต้องผ่าตัดลึก และละเอียด เช่น ในสมอง การโฟกัสจึงสำคัญมาก แต่งบที่ขอไม่ผ่าน

ในตอนนี้ รอไม่ได้แล้ว เพราะวชิระภูเก็ตเป็นโรงพยาบาลศูนย์ฝั่งอันดามัน งานผ่าตัดสมอง เช่น เส้นเลือดโป่งพองในสมอง เนื้องอก และกระดูกสันหลัง งานต่อเส้นเลือดอวัยวะต่างๆ ต้องใช้กล้องไมโครสโคป ตัวนี้ ขณะเดียวกัน ก็ต้องรับคนไข้จาก รพ.กระบี่ ระนอง และพังงา รวมถึง รพ.ป่าตอง รวมแล้วมีคนไข้ต้องเข้ารับการผ่าตัดแต่ละปีจำนวนมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น