xs
xsm
sm
md
lg

รพ.ม.อ.หาดใหญ่ขอให้ลบภาพบิลเงินสดค่ารถขนศพ “อับดุลเลาะ” 7,000 บาท หวั่นถูกวิจารณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภาพจากเฟซบุ๊ก Mohammat Rahmat ญาตินายอับดุลเลาะ
 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - แฉ รพ.ม.อ.หาดใหญ่ ติดต่อญาติลบภาพบิลเงินสดค่ารถขนศพ “อับดุลเลาะ” กลับบ้าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หวั่นถูกวิพากษ์วิจารณ์ นักวิชาการสงสัย รพ.เรียกเก็บเงินค่ารักษาเพิ่มจากสิทธิบัตรทอง

จากกรณีที่ นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ บุคคลต้องสงสัยที่หมดสติขณะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร เมื่อวันที่ 20 ก.ค. จนแพทย์ต้องนำเข้าห้องไอซียู ในเช้ามืดวันที่ 21 ก.ค. ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อเช้ามืดวันนี้ (25 ส.ค.) ที่ห้องไอซียู รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ รพ.สงขลานครินทร์ ออกแถลงการณ์สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากปอดอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรง (severe pneumonia) และมีภาวะพิษเหตุติดเชื้อ (septic shock) นั้น

วันนี้ (27 ส.ค.) ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Chalita Bundhuwong ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องบัตรทองและการนำร่างของนายอับดุลเลาะ กลับบ้าน โดยในส่วนของการนำศพนายอับดุลเลาะ กลับบ้านที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นั้น ดร.ชลิตา กล่าวว่า ญาติและเพื่อนขอความอนุเคราะห์รถของโรงพยาบาล โดยประสานผ่านแพทย์ที่มาชันสูตร โดยขอความอนุเคราะห์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ตอนแรกเหมือนว่าจะได้ แต่ต่อมา รพ.แจ้งว่ารถไม่ว่างสักคัน พร้อมเสนอรถเอกชนที่มารับสัมปทานจาก รพ. โดยมีพนักงานขับรถของ รพ.เป็นคนขับ แต่งชุดฟอร์มของ รพ. เสื้อสีฟ้า มีตราโรงพยาบาล และมีบัตรติดเสื้อ คิดค่าบริการ 7,000 บาท นอกจากนี้ แพทย์ยังแจ้งว่า หากไม่ต้องการเสียค่าบริการ รพ.จะติดต่อรถของหน่วยงานทหารให้ แต่ญาติและเพื่อนไม่เอา

ก่อนหน้านี้ มีพยาบาลคนหนึ่งมาติดต่อเสนอรถขนศพอีกเจ้าหนึ่งให้ บอกว่าราคาถูกกว่า พร้อมให้นามบัตรติดต่อ แต่ของรายนี้คนขับจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ รพ. ซึ่งการที่ญาติและเพื่อนตัดสินใจเช่ารถที่มาสัมปทานจาก รพ.ก็ต้องการขนร่างของอับดุลเลาะ ไปในสภาพที่ดีด้วยรถที่มีอุปกรณ์พร้อมและมีความปลอดภัยแก่ญาติที่นั่งไปด้วยหลายคน รวมทั้งต้องการให้มีเจ้าหน้าที่ของ รพ.เป็นพนักงานขับรถ เนื่องจากจะได้แสดงตัว หากมีด่านตรวจเรียกถามข้อมูล

“ทราบว่าเมื่อวานนี้ รพ.ติดต่อให้ญาติและเพื่อนช่วยลบใบสำคัญรับเงินค่ารถออกจากโพสต์ในเฟซบุ๊ก โดยให้เหตุผลว่าการโพสต์ใบเสร็จค่ารถอาจทำให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์ รพ.ในแง่มุมต่างๆ เช่น ทำไมค่าเช่ารถถึงแพง การสัมปทานรถขนส่งศพนี้เป็นระบบที่เป็นทางการของ รพ.หรือไม่ หรือทำไมจึงไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงินที่เป็นทางการมากกว่าบิลเงินสดให้แก่ญาติได้ แต่ทั้งญาติและเพื่อนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องลบภาพและสเตตัสดังกล่าว เพราะนี่คือข้อเท็จจริง โดยญาติและเพื่อนก็จำเป็นที่จะต้องรายงานให้สังคมที่ติดตามเรื่องของอับดุลเลาะ ได้ทราบความคืบหน้าในด้านต่างๆ” ดร.ชลิตา กล่าว

ในส่วนของบัตรทองนั้น ดร.ชลิตา ระบุว่า เมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน รพ.สงขลานครินทร์เรียกเก็บเงินค่าอาหารเหลวทางสาย โดยเรียกว่า “ค่านม” อ้างว่าเกินสิทธิในการรักษาพยาบาลบัตรทอง ซึ่งเมื่อทราบเรื่องก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ จึงปรึกษานายนิมิตร์ เทียนอุดม เอ็นจีโอที่มีบทบาทในการผลักดันบัตรทองและเป็นเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัดิการ ซึ่งนายนิมิตร์ ยืนยันว่า รพ.ไม่มีสิทธิเรียกเก็บเงินและกำชับว่าอย่าจ่ายโดยเด็ดขาด พร้อมกับประสานสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ในทันที และ สปสช.ก็โทร.ประสานกับญาติของอับดุลเลาะ จนในที่สุด รพ.แจ้งว่าไม่ต้องจ่ายแล้ว

ดร.ชลิตา กล่าวว่า วันที่ 24 ส.ค. หนึ่งวันก่อนการเสียชีวิต รพ.เรียกเก็บค่าวัสดุทางการแพทย์อีก 989 บาท ซึ่งตอนนั้นมีเพียงภรรยานายอับดุลเลาะ อยู่ ไม่มีคนให้คำปรึกษา เธอจึงได้จ่ายไป ที่สำคัญหลังจากที่นายอับดุลเลาะ เสียชีวิต รพ.ได้แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนเกินจำนวน 13,000 บาท ที่ต้องชำระก่อนที่จะมีการชันสูตรและเคลื่อนศพกลับบ้าน ตนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้แจ้งต่อพยาบาลว่าได้เคยประสานกับ สปสช.แล้ว และพยาบาลก็ให้พวกเราวิ่งไปมาไปประสานกับอีกแผนกที่เกี่ยวข้องที่อีกตึกหนึ่ง เช้ามืดวันนั้นก็ประสานนายนิมิตร์ อีกครั้ง และพวกเราตั้งใจว่ายังไงก็จะไม่ให้ญาติจ่าย จนในที่สุด รพ.แจ้งว่าไม่ต้องจ่ายแล้ว

“ประเด็นที่เป็นข้อสงสัยของดิฉันก็คือ ทำไม รพ.ถึงพยายามเรียกเก็บเงิน รพ.ไม่ทราบถึงสิทธิที่ครอบคลุมของบัตรทองหรือ แล้วถ้าหากว่าเป็นชาวบ้านคนอื่นที่ไม่รู้ข้อมูล ไม่มีช่องทางการขอคำปรึกษา ไม่ทักท้วง พวกเขาก็ต้องจ่ายใช่ไหม ทำไม รพ.จึงไม่หาทางปกป้องสิทธิประโยชน์ให้คนไข้ให้มากที่สุดก่อนการออกบิลเรียกเก็บเงิน” ดร.ชลิตา กล่าว
 
ภาพจากเฟซบุ๊ก Chalita Bundhuwong



กำลังโหลดความคิดเห็น