xs
xsm
sm
md
lg

ปล้นทอง “นาทวี” เอี่ยวไฟใต้! ผบช.ภ.9 ยกพฤติกรรมคล้ายคดี “วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์” เมื่อปี 60

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผบช.ภ.9 เผยหลังประชุมคาดปล้นร้านทองเกี่ยวไฟใต้ ชี้พฤติกรรมคนร้ายคล้ายคดีปล้นเต็นท์รถ “วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์” เมื่อเดือน ส.ค.2560 คาดอีก 2 วันจะมีความชัดเจนมากกว่านี้ เผยทรัพย์สินทั้งหมดที่ถูกกวาดไปราว 85.71 ล้านบาท

จากกรณีคนร้ายพร้อมอาวุธบุกปล้นร้านทอง “ห้างทองสุธาดา” กลางตลาดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา วานนี้ (24 ส.ค.) โดยก่อนที่คนร้ายจะทำการปล้นนั้น ได้จี้รถตู้โดยสารประจำทาง เส้นทางหาดใหญ่-ปัตตานี จากพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มาใช้ก่อเหตุปล้นร้านทองดังกล่าวนั้น

วันนี้ (25 ส.ค.) พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่ สภ.นาทวี ว่า เจ้าหน้าที่ทั้งใน จ.สงขลา และปัตตานีให้น้ำหนักเชื่อมโยงว่า คดีปล้นร้านทองในครั้งนี้เกี่ยวกับคดีความมั่นคงถึง 80% ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ถึงจะฟันธงและสรุปได้ โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า หลังจากได้ดูพื้นที่เกิดเหตุและพฤติกรรมของคนร้าย เมื่อมองย้อนหลังกลับไปเหมือนกับคดีปล้นเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ ใน อ.นาทวี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2560 คือ มีการปล้นรถมาก่อนแล้วนำมาใช้ก่อเหตุ

“ขอเวลา 2 วัน น่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับตัวคนร้าย เพราะต้องรอผลการตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนพยานที่มีอย่างน้อย 17-20 คน อีกทั้งจุดเกิดเหตุมีหลายจุด ทั้งจุดปล้นรถที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จุดที่คนร้ายนัดรวมตัวรับคนขึ้นรถมาปล้น ซึ่งต้องตรวจทุกจุดอย่างละเอียด โดยเฉพาะรถตู้คันที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งได้ส่งไปตรวจเก็บลายนิ้วแฝงและร่องรอยของคนร้าย ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 แล้ว รวมทั้งเส้นทางในการก่อเหตุของคนร้าย พบว่า ขับรถมาจากแยกดอนยาง อ.หนองจิก หลังก่อเหตุเสร็จก็หนีนำรถไปทิ้งไว้ในพื้นที่สวนยางหมู่ 4 ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี พร้อมทองที่ขโมยไป” พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าว

ผบช.ภ.9 กล่าวด้วยว่า การปล้นร้านทองในครั้งนี้ วางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นอย่างดี ทั้งคนที่ทำหน้าที่ปล้นรถและคุมคนขับรถเอาไว้ อีกกลุ่มหนึ่งก็เอารถมาส่งให้ทีมปล้นร้านทอง โดยในส่วนของทีมปล้นน่าจะมี 12 คน บางคนแต่งกายเป็นผู้หญิง แฝงตัวเป็นลูกค้ามาเคาะประตูร้านทอง เพื่อให้เปิดประตู ที่ต้องเปิดจากด้านในและดันประตูเอาไว้ จากนั้นคนร้ายที่ถืออาวุธปืนสงครามก็บุกเข้าไปในร้าน ส่วนกรณีที่คนร้ายสวมชุดคล้ายทหารนั้น คนร้ายไม่ได้แต่งกายด้วยชุดทหาร อาจจะมีบางคนที่สวมเสื้อลายพรางและนุ่งกางเกงยีนส์ ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารเหมือนกับที่ไปก่อเหตุสร้างความไม่สงบ

พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ จำนวน 3 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กค 1828 ปัตตานี ซึ่งถูกขโมยมาเช่นกันนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณเดียวกับที่ทิ้งรถตู้ ซึ่งอาจจะขับมารับคนร้าย แต่รถเกิดเสียจึงทิ้งเอาไว้ ส่วนอีก 2 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 1 กค 1827 ปัตตานี และรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ทะเบียน ขทอ 640 ปัตตานี ที่คนร้ายจี้เอาไปจากใต้ถุนบ้านเลขที่ 13/1 หมู่ 11 ต.นาทวี อ.นาทวี ซึ่งยังไม่พบรถทั้ง 2 คัน แต่ได้แจ้งเตือนให้เป็นรถอันตรายแล้ว

ผบช.ภาค 9 ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของรายละเอียดอื่นของคดี ทั้งกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีคนในร่วมด้วยหรือไม่ หรืออดีตลูกจ้าง เพราะคนร้ายรู้ทุกอย่างภายในร้านเป็นอย่างดี และลงมืออย่างง่ายดาย ในเรื่องนี้ก็ต้องสอบสวนเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยมาสอบสวนทุกคน

ก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้า ผบช.ภ.9 ได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของการตรวจสอบทองคำภายในร้าน รวมทั้งเครื่องเพชรและทองคำแท่งที่คนร้ายขโมยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 85,710,000 บาท โดยเป็นทองรูปพรรณน้ำหนัก 2,400 บาท แยกเป็นทองที่วางขายหน้าร้าน 2,300 บาท มูลค่า 62 ล้านบาท ทองที่ลูกค้านำมาจำนำ 1,000 บาท มูลค่า 23 ล้านบาท แหวนเพชรสร้อยคอเพชร มูลค่า 500,000 บาท และทองคำแท่ง 5 แท่ง มูลค่า 101,000 บาท
 


กำลังโหลดความคิดเห็น