xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาค 4 สั่งคุมเข้มพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันการสร้างสถานการณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ยะลา - แม่ทัพภาค 4 สั่งบูรณาการกำลังคุมเข้มด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ด่านพรมแดนด้าน อ.เบตง จ.ยะลา ป้องกันไม่ให้คนร้ายใช้เป็นเส้นทางเข้ามาสร้างสถานการณ์ในประเทศไทย

วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนประเทศมาเลเซีย ด้านกิ่งอำเภอปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง ได้ตั้งด่านตรวจเข้มบุคคล และนักท่องเที่ยว รวมทั้งกระเป๋าสัมภาระ ยานพาหนะทุกชนิดที่ผ่านด่านพรมแดนไทยเข้ามาอย่างละเอียด ภายหลังผู้ก่อการร้ายยังคงก่อเหตุ และเดินหน้าท้าทายอำนาจรัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล หลังจากที่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่กรุงเทพฯ ขึ้น เนื่องมาจากผู้ก่อการร้ายได้หาช่องโหว่ และความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการเข้าออกต่อไป
 

 
ทั้งนี้ ภายหลังจาก พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับถึงมาตรการควบคุมพื้นที่ชายแดน เพื่อให้เป็นไปตามแผนสกัดกั้น โดยได้มีการบูรณาการทั้งกำลัง และเครื่องมือเฝ้าตรวจ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพด้านงานข่าวตามแนวชายแดน และมีความพร้อมในการใช้กำลังเชิงรุก ควบคุมป้องกัน ลาดตระเวน ซุ่มเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อควบคุมพื้นที่ ช่องทางท่าข้าม และควบคุมบุคคลที่ผ่านเข้าออกตลอดแนวชายแดน

โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายกับช่องทาง และท่าข้ามที่ผิดกฎหมาย ทั้งยังตั้งด่านซ้อนด่านบนเส้นทางตอนใน เพื่อป้องกันและตรวจสอบบุคคล โดยทุกคนที่เข้าออกผ่านด่านชายแดนจะต้องผ่านการตรวจอย่างละเอียด ผ่านเครื่องตรวจ Walk Through โดยได้จัดกำลังทหารพรานหญิงมาช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจค้นสัมภาระต่างๆ และอีก 3 เดือนข้างหน้า จะนำเครื่องตรวจสอบใบหน้าบุคคลมาใช้ให้ครอบคลุมทุกด่านในพื้นที่ต่อไป

นอกจากนี้ การตรวจตราตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจดูแลเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ถึงความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการของเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกหน่วยต้องบูรณการการทำงานกัน โดยขอความร่วมมือประชาชน และขออภัยในความไม่สะดวก เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม
 





กำลังโหลดความคิดเห็น