ยะลา - ด่านพรมแดนเบตงคึกคัก กลุ่มแรงงานมุสลิมไทยทยอยเดินทางกลับบ้าน เตรียมร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา ในวันอาทิตย์ที่ 11 ส.ค.นี้ จนท.เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลรักษาความปลอดภัย
วันนี้ (9 ส.ค.) บรรยากาศบริเวณด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา และด่านเปิงกาลัยฮูลุ ประเทศมาเลเซีย เป็นไปอย่างคึกคัก มีกลุ่มแรงงานไทยที่ขายแรงงานในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ต่างทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา ตามที่จุฬาราชมนตรีประกาศ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2562 กับครอบครัวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการตรวจเอกสารเข้าเมือง และบัตรประจำตัวประชาชนอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาในพื้นที่จากกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุ และเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
เนื่องจากชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนใหญ่นิยมไปทำงานที่ร้านอาหารในประเทศมาเลเซีย เป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเทศกาลวันฮารีรายอ บรรดาคนงานต่างๆ นับหมื่นคน ได้ทยอยกลับมาบ้านเกิดเพื่อเฉลิมฉลองวันฮารีรายอ และเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวในช่วงเทศกาลฮารีรายอที่จะมาถึงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะนั่งรถประจำทางจากชายแดนประเทศมาเลเซีย เข้าตัวเมืองเบตง เพื่อมาส่งที่คิวรถแท็กซี่และรถตู้ จนในวันนี้ต้องใช้รถเสริม เนื่องจากบรรดาคนงานต่างๆ ได้เฝ้ารอรถประจำทางที่ไปส่งอำเภอต่างๆ ขณะเดียวกันก็มีญาติพี่น้องนำรถมารับ โดยมีของกินของใช้เอากลับมามากมาย เพราะบรรดาคนงานต่างๆ เหล่านี้ ใน 1 ปีจะกลับบ้านเพียง 2 ครั้ง คือ วันฮารีรายออีดิ้ลฟิตรี และฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา
พ.ต.ท.สุกรี ปลัดสามะ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลฮารีรายออีดิ้ลอัฎฮา คาดว่าจะมีแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ซึ่งการให้บริการในช่วงนี้ได้เปิดช่องบริการทุกช่องทาง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่แรงงานไทย จะมีเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตามจุดบริเวณด่านพรมแดนเบตง ต้องมีการเข้มงวดในการตรวจสอบยานพาหนะที่ผ่านไปมาเพื่อเป็นการป้องกัน และเฝ้าระวังการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะวัตถุต้องสงสัยที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะลักลอบเพื่อมาก่อเหตุในพื้นที่
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารได้มีการลาดตระเวนบนเส้นทางหลักมากขึ้น อีกทั้งถนนสายรองยังเพิ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสนับสนุนช่วยระงับเหตุ พร้อมทั้งด่านตรวจความมั่นคงในพื้นที่เสี่ยง โดยเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ระดมกำลังอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นในห้วงเทศกาลดังกล่าว เนื่องจากยังคงเกิดเหตุขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอยู่ในห้วงวันชาติมาเลเซีย ซึ่งมักจะเกิดเหตุก่อกวนสร้างสถานการณ์เชิงสัญลักษณ์ ซึ่งกลุ่มแนวร่วมอาจจะฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ และลอบก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ เพื่อเป็นการแสดงออกว่ากลุ่มขบวนการยังคงมีศักยภาพเหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่
