ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ชี้แนวโน้มลงทุนโรงแรมในภูเก็ตโตต่อเนื่อง ท่องเที่ยวซบไม่มีผล กลุ่มทุนยังมั่นใจศักยภาพภูเก็ต คาดอีก 2 ปี เพิ่ม 40-50 แห่ง กว่า 2 หมื่นห้อง การเปลี่ยนมือเกิดต่อเนื่อง ทุนจีนต้องการสูงแต่ต้องลงทุนเอง 100 เปอร์เซ็นต์ กว้านซื้อคอนโดฯ วิลล่าหรู รับกลุ่ม FIT
นายก้องเกียรติ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผย “ผู้จัดการออนไลน์ภาคใต้” ถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ต ว่า ขณะนี้ภูเก็ตอยู่ในช่วงโลว์ซีซัน ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นมา ซึ่งปกติแล้วโลว์ซีซันนักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตจะลดลงอยู่แล้ว แต่ในปีนี้สถานการณ์การท่องเที่ยวซบเซากว่าปีที่ผ่านมามาก โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคมที่ผ่านมา ตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20-30 จึงทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของภูเก็ตเงียบเหงามาก
หลังจากสถานการณ์ท่องเที่ยวซบเซาอย่างหนัก ผู้ประกอบการเองได้มีการปรับตัวในการทำตลาดมากขึ้น โดยการจัดโปรโมชันลดราคาห้องพักจากราคาปกติที่ขายกันไม่ต่ำกว่า 20-30% จึงทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จองเข้ามาในเดือนสิงหาคมนี้ขยับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อยู่ในระดับเดียวกับตัวเลขในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทำให้การจองห้องพักของโรงแรมหน้าหาดป่าตอง โรงแรมตามแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงโรงแรมระดับแนวหน้าของภูเก็ตบางแห่งถูกจองเต็มแล้ว ส่วนโรงแรมทั่วๆ ไป อัตราการจองห้องพักในเดือนสิงหาคมตัวเลขได้ขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้เคียงกับเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จากการที่ผู้ประกอบการได้จัดโปรโมชันลดราคา รวมไปถึงการมอบวอชเชอร์เพิ่มความคุ้มค่าในการเข้าพักของโรงระดับ 5 ดาวขึ้นไป
โดยนักท่องเที่ยวที่กลับมาท่องเที่ยวในภูเก็ตมีทั้งจีนที่เป็น FIT กลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย และอินเดีย ที่ตัวเลขเพิ่มสูงมาก ซึ่งคาดว่าภาพรวมอัตราการเข้าพักโรงแรมในภูเก็ตเดือนสิงหาคมนี้ ไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยละ 60-70 แต่ไม่นับรวมถึงโรงแรมที่ไม่ได้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่อัตราการเข้าพักยังต่ำอยู่ และในเดือนสิงหาคมนี้ จังหวัดภูเก็ตจะมีกิจกรรมที่คิดว่าจะสามารถดึงคนไทยและนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาภูเก็ตในหลายกิจกรรมด้วยกัน เช่น การจัดการคอนเสิร์ต ICONIC ที่สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ ททท. และ อบจ.จัดขึ้น เทศกาลกุ้งมังกรตลอดเดือนสิงหาคมนี้ รวมไปถึงการแข่งขันเซิร์ฟบอร์ด ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการสร้างการเคลื่อนไหวให้เกิดขึ้นในภูเก็ต เป็นการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายนจะเป็นอีกหนึ่งเดือนที่คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าภูเก็ตจะลดลง ซึ่งขณะนี้ทางผู้ประกอบดารกำลังทยอยออกโปรโมชันดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ต เนื่องจากการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันนั้นนิยมจองก่อนการเดินทางไม่นาน ผู้ประกอบการออกโปรโมชันในสัปดาห์นี้จะเห็นผลทันทีภายใน 7 วัน
นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ยังกล่าวถึงภาพรวมการลงทุนด้านโรงแรมของภูเก็ต หลังจากการท่องเที่ยวที่ซบเซามากสำหรับโลว์ซีซันนี้ ว่า ถึงแม้ว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะไม่คึกคักเท่าที่ควรหลังจากเข้าสู่โลว์ซีซัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนด้านโรงแรมในภูเก็ตแต่อย่างใด การลงทุนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงแรมที่มีการวางแผนก่อสร้าง ผ่าน EIA และได้รับใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว มีการก่อสร้างตามแผนที่วางไว้ทุกแห่ง ไม่มีโรงแรมใดยกเลิกก่อสร้างหลังสถานการณ์ท่องเที่ยวซบเซา และยังมีกลุ่มนักลงทุนที่ได้ประกาศตัวจะเข้ามาลงทุนในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งมีการคาดกันว่าในปี 2021 จะมีโรงแรมเกิดขึ้นในภูเก็ตอีก 40-50 แห่ง ห้องพักรวมไม่ต่ำกว่า 20,000 ห้อง ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นภูเก็ตจะมีห้องพักไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 120,000 ห้องอย่างแน่นอน และยังไม่รวมโรงแรมที่มีการรีแบรนด์ใหม่ให้ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติมองว่าภูเก็ตยังมีศักยภาพด้านการลงทุนอีกมาก ยังเป็นพื้นที่ที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจโรงแรม และมั่นใจว่าการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนจะมองการเติบโตในอีก 5-10 ปีข้างหน้าในการตัดสินใจลงทุน ไม่ได้มองแค่ช่วงโลว์ซีซันที่ซบเซาเท่านั้น
“กลุ่มทุนที่ขยายการลงทุนโรงแรมเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตนั้นหลากหลายมาก โดยเฉพาะนักลงทุนไทยกลุ่มทุนในตลาดหลักทรัพย์ ที่เข้ามาลงทุนและให้ทางอินเตอร์เชนเข้ามาบริหารแทน รวมไปถึงนักลงทุนในท้องถิ่นภูเก็ตและทุนต่างชาติ ที่มองเห็นศักยภาพของภูเก็ตที่คาดกันว่าการท่องเที่ยวจะโตขึ้นเรื่อยๆ” นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวและว่า
สำหรับห้องพักโรงแรมในภูเก็ตขณะนี้น่าจะมีอยู่ประมาณ 100,000 ห้อง และโดยส่วนตัวคิดว่ายังไม่โอเวอร์ซัปพลาย โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซันที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ความต้องการห้องพักในภูเก็ตยังสูงอยู่ อัตราการเข้าพักไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยละ 70 แต่จะมีปัญหาในช่วงโลว์ซีซันที่นักท่องเที่ยวเข้ามาน้อย ในขณะที่ห้องพักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่นักท่องเที่ยวไม่เพิ่ม จะทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมต่ำลงเรื่อยๆ ซึ่งจะเข้าไปสู่การแข่งขันกันลดราคาค่าห้องพัก ผู้ประกอบการโรงแรมไม่สามารถตั้งราคาที่สูงได้ ก็จะส่งผลให้การทำกำไรในธุรกิจโรงแรมลดลง ส่งผลให้ภูเก็ตได้นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อลดลง”
นายก้องศักดิ์ ยังกล่าวถึงการกรณีที่มีการประกาศขายโรงแรมในภูเก็ตหลังท่องเที่ยวซบเซา ว่า การประกาศขายโรงแรมในภูเก็ตเกิดขึ้นในช่วงโลว์ซีซันทุกปีอยู่แล้ว และมีโรงแรมในภูเก็ตจำนวนไม่น้อยที่มีการประกาศและจะขายเมื่อได้ราคาดี เพราะการขายโรงแรมถือเป็นเรื่องปกติของการลงทุน เมื่อขายได้กำไรดีก็ไปลงทุนเพิ่มในจุดอื่นๆ เป็นการเพิ่มมูลค่าในทรัพย์สินโดยเฉพาะนักลงทุนที่มาจากที่อื่น ถ้าขายแล้วได้กำไรก็ขายอยู่แล้ว และที่ผ่านมาราคาที่ขายได้จะเป็นราคาที่เจ้าของต้องการ ไม่มีการขายแบบขาดทุน จึงทำให้มีการเปลี่ยนมือในธุรกิจโรงแรมของภูเก็ตอยู่เรื่อยๆ ซึ่งกลุ่มทุนที่เข้ามาซื้อจะเป็นกลุ่มทุนคนไทยจากกรุงเทพฯ ที่มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตซึ่งมีการสอบถามเข้ามาจำนวนมาก
และอีกกลุ่มที่เห็นชัดเจนที่ต้องการเข้ามาลงทุนด้านโรงแรม ที่พักในภูเก็ต คือ กลุ่มทุนชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในปัจจุบันกลุ่มทุนจากจีนสนใจเข้ามาลงทุนด้านโรงแรม ที่พักในภูเก็ตสูงมาก แต่กลุ่มทุนจีนต้องการซื้อโรงแรมที่อยู่หน้าหาด วิวสวย ผลประกอบการดี ซื้อแล้วสามารถทำธุรกิจต่อได้เลย ซึ่งโรงแรมกลุ่มนี้เจ้าของเดิมจะไม่ขาย แต่โรงแรมที่ประกาศขายก็จะอยู่ในทำเลที่นักลงทุนจีนไม่ต้องการ เช่น ไม่อยู่ติดชายหาด ถ้าย่านป่าตองก็จะเป็นโรงแรมที่อยู่ในถนนสาย 2 หรือสาย 3 ที่ผลกประกอบการไม่เป็นที่พอใจ หรือไม่ก็เป็นโรงแรมที่ยังไม่มีใบอนุญาต ที่เจ้าของคิดว่าไม่สามารถดำเนินการขอใบอนุญาตได้ เป็นต้น
“โรงแรมที่อยู่ในทำเลไม่ค่อยดี ไม่มีใบอนุญาต ที่เจ้าของต้องการขายมีจำนวนไม่น้อยในภูเก็ต ที่ยังไม่สามารถขายออกได้ เพราะนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติในปัจจุบันจะซื้อแต่โรงแรมที่มีใบอนุญาตเท่านั้น” นายก้องศักดิ์ กล่าวและว่า
ปัจจุบัน กลุ่มทุนจีนเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อการลงทุนด้านโรงแรม ที่พักในภูเก็ตเป็นจำนวนมาก แต่ยังติดปัญหาในเรื่องกฎหมายการลงทุน เนื่องจากนักลงทุนจีนจะไม่ร่วมทุนกับคนไทย จะลงทุนเอง 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการใช้คนไทยที่เชื่อใจได้มาลงทุนแทน ซึ่งจะเห็นว่าในขณะนี้คนจีนเข้ามาซื้อที่พักทั้งที่เป็นคอนโดมิเนียม พูลวิลล่า บ้านหรู บางแห่งสร้างเพื่อขายกลุ่มทุนจีนโดยเฉพาะ โดยนักท่องเที่ยวจีนจะซื้อเพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตแบบ FIT เช่น วิลล่าหรูหลังละ 40 ล้านบาท ขายกันแค่คืนละ 20,000 บาทเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากจีนนิยมพักแบบนี้สูงมาก
