xs
xsm
sm
md
lg

ไม่รอด! หนุ่มรัสเซียถูกขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าไทย เปลี่ยนชื่อ-สกุล เข้ามาเปิดร้านอาหารที่เกาะสมุย ถูกรวบตัวพร้อมผลักดันกลับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุราษฎร์ธานี - หนุ่มรัสเซียถูกจับในคดีไม่มีใบอนุญาตทำงาน ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ พร้อมถูกส่งกลับเมื่อปี 2559 ล่าสุด เปลี่ยนชื่อนามสกุล เดินทางมาใหม่เปิดร้านอาหารรัสเซียที่เกาะสมุย ไม่รอด ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบุกรวบได้เป็นครั้งที่ 2 พร้อมขึ้นบัญชีแดงห้ามเข้าถาวร


วันนี้ (7 ส.ค.) พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายและสั่งการให้ ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล และ ร.ต.อ.อรุณ มุสิกิ้ม รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด.ต.ปัญกิตติ์ ราชู ผู้บังคับหมู่งานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมชุดสืบสวน เดินทางเข้าทำการจับกุมและควบคุมตัว นายโบรนิสลาฟ ทีเรีย เนฟกี หรือนายบอริส เพดรอฟ อายุ 48 ปี สัญชาติรัสเซีย ภายหลังจากที่สืบทราบว่า เป็นบุคคลต้องห้ามที่เคยถูกขึ้นแบล็กลิสต์ บัญชีแดง ห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง 2522

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปที่ร้านอาหารรัสเซียแห่งหนึ่งในย่านชายหาดละไม หมู่ 3 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่นายโบรนิสลาฟ ทีเรีย เนฟกี หรือนายบอริส เพดรอฟ สัญชาติรัสเซีย ยืนอยู่หน้าร้านอาหาร พร้อมได้นำตัวไปสอบปากคำที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด่านเกาะสมุย

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก นายโบรนิสลาฟ ทีเรีย เนฟกี หรือนายบอริส เพดรอฟ สัญชาติรัสเซีย เป็นบุคคลคนเดียวกัน จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติ และพบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย ในข้อกล่าวหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือ Work Permit จึงได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพิกถอนพร้อมขึ้นแบล็กลิสต์ พร้อมผลักดันกลับประเทศ เมื่อปี 2559

ต่อมา ผู้ต้องหารายนี้ได้เปลี่ยนนามสกุล เป็นของยาย และเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่ใบหน้าเดิม เพื่อใช้เป็นข้อมูลในหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน และได้เดินทางย้อนกลับมาในประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และกลับมาเปิดร้านอาหารรัสเซียบนเกาะสมุอีกครั้ง ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามและสืบหาจนพบ พร้อมได้ควบคุมตัว นำส่งไปกักกันที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู กรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการเพิกถอนวีซ่าและผลักดันออกนอกราชอาณาจักรเป็นการถาวรต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น