รอง ปธ.แพทย์ชนบทในฐานะอาจารย์พิเศษจี้ “อธิการบดี-ประชาคม มวล.” แก้วิกฤตตัดไม้และขุดดินแบบล้างภาพทุจริต

 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “หมอจุ๊ก” รองประธานชมรมแพทย์ชนบท ในฐานะอาจารย์พิเศษคณะแพทย์ ร่อน จม.เปิดผนึก 2 ฉบับ จี้ “อธิการบดี-ประชาคม ม.วลัยลักษณ์” แก้วิกฤตการลอบตัดไม้ทำลายป่าและขุดดินในรั้วสถาบันอย่างโปร่งใส ชี้ต้องให้สังคมมีส่วนร่วมแท้จริง เพื่อล้างภาพทุจริตคอร์รัปชัน
 
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา ในฐานะรองประธานชมรมแพทย์ชนบท อีกทั้งยังเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อชุมชน เพื่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ที่หน้าแฟนเพจส่วนตัวที่ใช้ชื่อจริง เป็นจดหมายเปิดผนึกถึง อธิการบดีและประชาคมชาวมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ไว้ 2 ฉบับในช่วง 2 วันมานี้ โดยล่าสุด ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 3 ส.ค.2562 กับฉบับแรกลงวันที่ 2 ส.ค.2562
 
ทั้งนี้ เป็นจดหมายเปิดผนึกที่ “หมอจุ๊ก” เขียนถึงเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับปัญหาที่มีการตัดไม้ทำลายป่าและขุดดินจำนวนมากในรั้วสถาบัน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ขณะเดียวกัน ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีก็ได้ให้นิติกรของมหาวิทยาลัยยื่นฟ้องศาลผู้ที่นำภาพและข้อความไปโพสต์แล้ว 3 ราย คือ นายทรงวุฒิ พัฒแก้ว นายกสมาคมศิษย์เก่า นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล อดีตนายกสมาคมศิษย์เก่า และนายวรา จันทร์มณี นักวิชาการอิสระด้านการมีส่วนร่วมของสังคม สำหรับเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกทั้ง 2 ฉบับนั้น จดหมายฉบับที่ 2 มีเนื้อหาประกอบด้วย
 

 
จดหมายฉบับที่ 2 ถึงอธิการบดีและประชาคมชาววลัยลักษณ์ เรียนอธิการบดีและประชาคมชาวมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ที่เคารพ
 .
เมื่อวาน (2 ส.ค.) ทางผู้บริหารได้ให้สัมภาษณ์สื่อ ผู้จัดการออนไลน์ จึงทำให้ทราบข่าวดีว่า ทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการตัดต้นไม้แล้ว แต่โดยรวมการแก้ปัญหาครั้งนี้ยังมีอาการน่าเป็นห่วงครับ
 
ผมในฐานะอาจารย์พิเศษของคณะแพทยศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ ซึ่งได้รับเชิญไปสอนประสบการณ์การทำงานกับนักศึกษาแพทย์ของ ม.วลัยลักษณ์บ้าง สิ่งที่ผมสอนนักศึกษาแพทย์ไม่ว่าที่วลัยลักษณ์หรือที่ไหนๆ ผมจะบอกเสมอว่า “เราเป็นแพทย์ เราต้องอยู่กับชุมชน เราต้องไม่ใช่เทวดา ต้องไม่ผูกขาดเรื่องสุขภาพไว้ที่เรา แต่เราต้องเปิดพื้นที่เปิดการสนทนาให้ชาวบ้านและคนที่มีจิตสาธารณะมาช่วยกันเรื่องสุขภาพ สร้างการมีส่วนร่วม ให้เขาเข้ามาช่วยกันสร้างสุขภาพ สร้างบ้านสร้างเมืองได้” นี่คือชุดความคิดของผมที่สอนน้องๆ แพทย์ 
 
กลับมาที่เรื่องการตัดต้นไม้ใน ม.วลัยลักษณ์ ที่เกิดมานานหลายเดือนหรืออาจจะหลายปีแล้ว สิ่งที่น่าดีใจคือ ผู้บริหารได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จริงแล้ว อันนี้ก็ถือว่าผู้บริหารไม่ได้ละเลยต่อเสียงสะท้อนของสาธารณะ แต่ที่ยังไม่ดีพอคือ คณะกรรมการชุดนี้ยังเป็นเฉพาะบุคลากรของมหาวิทยาลัย ยังไม่เปิดการมีส่วนร่วมให้มีบุคคลภายนอกที่สังคมเชื่อมั่นมามีส่วนร่วม ซึ่งความจริงการมีส่วนร่วมนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
 
กระผมเองด้วยความเคารพต่อชาวประชาคม ม.วลัยลักษณ์ ผมคิดว่าวิกฤตครั้งนี้คือโอกาส โอกาสของประชาคมชาววลัยลักษณ์ทั้งอาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา จะเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมกันสร้างความตื่นตัวในการทำให้มหาวิทยาลัยนั้นเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวขจีที่น่าอิจฉาที่สุดในโลก รวมทั้งเป็นการเปิดบทบาทนักศึกษา และสร้างจิตสำนึกต่อนักศึกษาวลัยลักษณ์ผู้เป็นอนาคตของสังคมไทยด้วย
 .
แต่แน่นอนว่า “การเปิดกว้างมีส่วนร่วม ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่ผู้บริหารจะถูกวิพากษ์วิจารณ์บ้าง” ซึ่งก็ต้องยอมรับว่านี่คือ พื้นฐานความเป็นประชาธิปไตย
 .
เราไม่ควรให้เรื่องการตัดไม้ทำลายป่าครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องราวของ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับอธิการบดี โดยมีสาธารณชนเป็นผู้ดูและรับรู้ผลลัพธ์ในตอนท้ายเท่านั้น เพราะนั่นจะเหมือนการทำการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของโรงงาน ที่ชาวบ้านรอบโรงงานจะได้อ่านก็เมื่อการศึกษาเสร็จแล้วเท่านั้น การยอมรับต่อผลการสอบสวนก็จะมีน้อย ผลการสอบสวนที่มีคนรับรู้และมีส่วนร่วมอย่างจำกัด ก็จะมีข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะที่จำกัด ไม่สะท้อนความจริงทั้งหมดด้วยเช่นกัน
 
การเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมสำหรับประชาคมวลัยลักษณ์และสาธารณชนอย่างกว้างขวาง จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำยิ่ง และเป็นหนึ่งในบทเรียนการสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม deliberative democracy ที่นักวิชาการสอนคนอื่นให้ทำ แต่ตนเองทำเป็นหรือเปล่าผมก็ไม่รู้
 
ผมในฐานะอาจารย์พิเศษก็หวังครับว่า การสูญเสียป่าและต้นไม้ที่ได้ถูกตัดไปแล้วไม่รู้กี่ร้อยกี่พันต้นนั้น จะไม่ใช่เฉพาะการจับคนผิดสองสามคนมาลงโทษ แต่จะต้องสามารถสร้างข้อตกลงใหม่ กำหนดทิศทางการพัฒนาใหม่อย่างมีส่วนร่วมของประชาคมชาววลัยลักษณ์ ที่จะสร้างพื้นที่วลัยลักษณ์ให้เขียวขจีอย่างที่สุด จนเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวขจีที่สุดของคนไทยครับ
 .
ด้วยความเคารพอย่างสูง นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ 3 สิงหาคม 2562
 
 

 
 
ส่วนจดหมายเปิดผนึกฉบับแรกมีเนื้อหาดังนี้
 .
จดหมายถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และประชาคมชาววลัยลักษณ์ทุกท่าน เรียนอธิการบดี อาจารย์สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และประชาคมชาวมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่เคารพทุกท่าน
 
กระผมติดตามข่าวการตัดโค่นต้นไม้ในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ที่ถูกตัดอย่างต่อเนื่องมาหลายเดือน เป็นข่าวที่น่าเศร้า เพราะการตัดต้นไม้เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่ป่าที่มีเนื้อที่หลายพันไร่ของมหาวิทยาลัย ที่ยังไม่ได้มีการนำพื้นที่มาก่อสร้างหรือใช้ประโยชน์ใดๆ
 
การตัดต้นไม้ยืนต้นเหล่านี้มีศิษย์เก่าที่รักสถาบัน ได้นำภาพและเหตุการณ์มาบอกกล่าวต่อสาธารณะ แต่แทนที่ทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จะขอบคุณบรรดาศิษย์เก่าเหล่านี้ ที่แฉความไม่ชอบมาพากลในมหาวิทยาลัยที่มีคนมาแอบตัดไม้ แต่เขาเหล่านั้นกลับถูกทางมหาวิทยาลัยแจ้งความฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท 
 
โดยส่วนตัวผมเอง ผมไม่เชื่อว่าท่านอธิการบดีจะมีส่วนร่วมในการเห็นชอบให้ทำการตัดต้นไม้เหล่านี้ โดยส่วนตัวผมเองก็ไม่เชื่อว่าท่านอธิการบดีจะสั่งฟ้องต่อศิษย์เก่าที่รักสถาบัน แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาในเดือนสองเดือนนี้ ทำให้ผมกลับไม่แน่ใจว่าผมคิดถูกหรือไม่ ดูเหมือนว่าท่านอธิการบดีอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องช่วยปกป้องคนทำผิดที่ตัดต้นไม้ในมหาวิทยาลัย จนหลายคนสับสนว่า หรือท่านเผลอเป็นคนอนุมัติให้มีการตัดต้นไม้เหล่านั้นเองหรือเปล่า 
 
การตัดต้นไม้อย่างต่อเนื่องครั้งนี้ นอกจากประเด็นเรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังมีประเด็นเรื่องที่ว่าไม้ที่ตัดนั้น เป็นการลักลอบตัด หรือมีการจัดจ้างการตัดไม้ตามระเบียบพัสดุ หรืออนุญาตให้ตัดโดยไม่ชอบด้วยระเบียบหรือไม่ มีใครไหมที่อนุมัติให้มีการตัดไม้เหล่านี้ ไม้ที่ตัดไปมีการนำไปขายหรือไม่ หากมีการขายแล้วรายได้เข้ากระเป๋าของมหาวิทยาลัยไหม หากไม่มีการขายแล้วจะตัดไปทำไม ไม้ที่ถูกตัดไปมีจำนวนเท่าไหร่ แล้วมหาวิทยาลัยไม่รู้หรอกหรือว่ามีคนมาแอบตัดไม้
 
คำถามเหล่านี้ล้วนเกี่ยวเนื่องกับข้อชวนสงสัยในประเด็นการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ทางท่านอธิการบดีควรต้องออกมาชี้แจงหรือสร้างความกระจ่างให้แก่สังคม 
 
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้นไม้ก็มีชีวิต เขาควรมีสิทธิที่จะไม่ถูกตัดโดยไร้เหตุผล แม้ต้นไม้จะพูดไม่ได้ แต่ประชาคมชาววลัยลักษณ์นั้นพูด ถาม แสดงออกแทนต้นไม้ได้
 
ขอให้ประชาคมชาววลัยลักษณ์ได้ออกมาร่วมตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ด้วยครับ ช่วยกันถามท่านอธิการบดีด้วยว่า ทำไมท่านถึงเฉยๆ และช่วยท่านอธิการบดีให้มีความกล้าหาญในการจัดการความไม่ชอบมาพากลในครั้งนี้ด้วย อย่าให้คนตัดต้นไม้และคนสั่งตัดต้นไม้ลอยนวล
.
นี่คือเกียรติภูมิแห่งมหาวิทยาลัยลักษณ์ที่สังคมกำลังจับตามอง 
.
ด้วยความเคารพอย่างสูง นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ 2 สิงหาคม 2562 #จดหมายถึงอธิการบดี #ม.วลัยลักษณ์ #หยุดตัดต้นไม้