xs
xsm
sm
md
lg

DSI และ ปทส.นำทีมบุกตรวจสอบโกดังเก็บแร่แบไรต์ 2 แห่ง ที่สงขลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - DSI และ ปทส. นำทีมบุกตรวจสอบโกดังเก็บแร่แบไรต์ 2 แห่ง ในพื้นที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา หลังสืบสวนพบความเชื่อมโยงเป็นแร่ที่มาจากเหมืองศศิน ที่กำลังเป็นคดีความจากการเช่าพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

วันนี้ (2 ส.ค.) พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ส่วนงานเสริมสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรธรรมชาติ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. พร้อมด้วย ร.อ.กลวิตร บุนนาค ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และ พ.ต.ท.กิตวรุตม์ พุฒนวล สว.กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กอ.รมน.จ.สงขลา เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จ.สงขลา และตำรวจ สภ.สิงหนคร รวมกว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบโกดังเป้าหมาย จำนวน 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.2 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา
 

 
หลังจากแนวทางการสืบสวนในเชิงลึก ทราบว่า เป็นโกดังที่ใช้เก็บแร่แบไรต์ที่มีต้นทางมาจากเหมืองแร่ศศิน อ.ลอง จ.แพร่ ซึ่งกำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติ เนื่องจากมีการเช่าพื้นที่ช่วงต่อที่ไม่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นคดีความมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา และล่าสุด วานนี้ (1 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจบริษัทในพื้นที่ จ.สระบุรี ที่มีการรับซื้อแร่มาจากเหมืองดังกล่าว และทราบว่ามีเส้นทางการข่นส่งแร่แบไรต์ลงมาทางภาคใต้ที่ จ.สงขลา จึงมีการเดินทางลงมาติดตามตรวจสอบ

โดยจุดแรกเป็นโกดังไม่มีชื่อ ตั้งอยู่เลขที่ 4/2 ม.2 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งทางบริษัท Blue Dot Enterprise Limited ซึ่งจากข้อมูลระบุว่า ได้รับซื้อแร่มาจาทางเหมืองแร่ศศิน โดยจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบเพียงแค่ยาม 1 คน คอยเฝ้าโกดังเอาไว้ ขณะที่ภายในโกดังพบเพียงแร่แบไรต์ที่บรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กขนาดใหญ่ จำนวน 10 ถุง น้ำหนักรวม 15 ตันเท่านั้น
 

 
จากนั้นได้มีการประสานให้ทางผู้จัดการที่ทำหน้าที่ดูแลโกดังแห่งนี้มาชี้แจงในเวลาต่อมา ซึ่งให้การว่า เพียงแต่ทำหน้าที่ในการส่งแร่แบไรต์ให้แก่ทางบริษัทแท่นขุดเจาะที่บริเวณท่าเรือที่อยู่ห่างออกไปราว 4 กิโลเมตร โดยทุกอย่างทำตามคำสั่งของบริษัท Blue Dot และโกดังแห่งนี้ได้มีการบอกเลิกสัญญาเช่าด้วยวาจาไปเมื่อวานนี้แล้ว หลังเริ่มเช่ามาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากประสบภาวะขาดทุน และแร่แบไรต์ที่เหลืออยู่เป็นของเหลือที่รอคำสั่งจากบริษัทว่าจะให้ส่งกลับไปหรือไม่

ส่วนอีกโกดังเป็นของบริษัท เกียเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 15/30 ม.2 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา ห่างจากโกดังหลังแรกราว 300 เมตร โดยพบแร่แบไรต์จำนวนมาก รวมประมาณ 4,000 ตัน โดยถูกส่งมากจากบริษัทแม่ที่ จ.สระบุรี โดยเบื้องต้นทราบว่า มีทั้งแร่แบไรต์ที่รับมาจากเหมืองแร่ไนไทยที่เชื่อว่ามาจากเหมืองศศิน และลาว
 

 
สำหรับโกดังทั้ง 2 แห่ง ใน อ.สิงหนคร ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างแร่ส่งให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมตรวจสอบ และทำการอายัดเอาไว้ทั้งหมดในเบื้องต้น พร้อมกับจะมีการเรียกตรวจเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับโกดัง รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของแร่ทั้งหมดจากบริษัทแม่อีกครั้ง ก่อนที่จะมีการสรุปและแจ้งข้อหาดำเนินคดีทันทีหากพบว่ามีความผิดจริง

นอกจากนี้ ทาง DSI ยังได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณท่าเทียบเรือของ ปตท.สผ. ที่อยู่ห่างออกไปราว 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นไซโลเก็บแร่ของบริษัทในเครือของเกียเอ็นเนอร์ยี่ และเก็บตัวอย่างแร่มาตรวจสอบ แต่ไม่สามารถอายัดเอาไว้ได้ เนื่องจากตัวแร่ได้มีการถ่ายเทลงที่เก็บไปแล้ว ซึ่งจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
 





กำลังโหลดความคิดเห็น