สุราษฎร์ธานี - ชาวประมงปลื้ม! จับปูทะเลได้มากขึ้น หลังทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งร่วมกับชุมชนบ้านหาดสมบูรณ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผลักดันเพาะขยายพันธุ์ปูม้าปล่อยคืนสู่ทะเลไปแล้วกว่า 200 ล้านตัว
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่ธนาคารปูม้า บ้านหาดสมบูรณ์ หมู่ที่ 3 ต.วัง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยนายปิยะ แซ่เอีย ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ได้ร่วมกันปล่อยลูกพันธ์ปูม้าลงสู่อ่าวท่าชนะ จำนวน 2 ล้านตัว
โดยนายปิยะ กล่าวว่า ตนและกลุ่มชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านได้รวมตัวกันจัดตั้งธนาคารปูม้าขึ้นหลังจากออกจับปูในทะเล และพบว่าปูม้าที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจได้มีการลดปริมาณไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การออกทะเลแต่ละครั้งมักจะขาดทุนรายได้ไม่พอรายจ่าย แต่หลังจากทางชุมชนได้รวมตัวกันจัดตั้งธนาคารปูม้าขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2561 โดยรับซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปูม้าจากชาวประมง และนำมาพักฟื้นจนออกลูกออกมาและนำไปปล่อยลงสู่ทะเล ซึ่งในปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันได้ปล่อยลูกปูไปแล้วกว่า 200 ล้านตัว
ประกอบกับทางทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 สุราษฎร์ธานีได้มาสนับสนุนแนะนำการทำบ้านปลาตามแนวพื้นที่ชายฝั่งทะเล ให้ลูกปูที่หลบอาศัยจึงทำให้มีปูม้าในพื้นที่ปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถจับสัตว์น้ำได้มากขึ้น และมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว
ในขณะที่นายวิชัย กล่าวว่า ทางทรัพยากรทางทะเลพร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนทางด้านอุปกรณ์ เช่น ถังบรรจุแม่พันธุ์ปูขนาด 50 ลิตร ที่จะนำมาเข้าธนาคาร เครื่องมือต่างๆ เพื่อทำให้ลูกปูที่จะปล่อยกลับทะเลมีโอกาสรอดมากขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางชุมชนปล่อยลูกปูที่เกิดได้เพียง 7 วันลงทะเลทำให้การรอดตายมีไม่มากนัก
ดังนั้น เตรียมสนับสนุนในเรื่องความรู้ การอนุบาลลูกปูที่เพิ่งเกิด รวมไปถึงเรื่องอาหารเพื่อให้ลูกปูที่เพิ่งเกิดมีความแข็งแรง เมื่อนำไปปล่อยลงสู่ทะเลจะมีปริมาณรอดเพิ่มมากขึ้น ในส่วนแม่พันธุ์ปูม้า ชาวชุมชนได้ร่วมกันบริจาคให้แก่ธนาคารปูม้าฟรีโดยไม่คิดราคาเพื่อความยั่งยืนของอาชีพชาวประมงพื้นบ้านในอนาคตต่อไป
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่ธนาคารปูม้า บ้านหาดสมบูรณ์ หมู่ที่ 3 ต.วัง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยนายปิยะ แซ่เอีย ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ได้ร่วมกันปล่อยลูกพันธ์ปูม้าลงสู่อ่าวท่าชนะ จำนวน 2 ล้านตัว
โดยนายปิยะ กล่าวว่า ตนและกลุ่มชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านได้รวมตัวกันจัดตั้งธนาคารปูม้าขึ้นหลังจากออกจับปูในทะเล และพบว่าปูม้าที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจได้มีการลดปริมาณไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การออกทะเลแต่ละครั้งมักจะขาดทุนรายได้ไม่พอรายจ่าย แต่หลังจากทางชุมชนได้รวมตัวกันจัดตั้งธนาคารปูม้าขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2561 โดยรับซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปูม้าจากชาวประมง และนำมาพักฟื้นจนออกลูกออกมาและนำไปปล่อยลงสู่ทะเล ซึ่งในปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันได้ปล่อยลูกปูไปแล้วกว่า 200 ล้านตัว
ประกอบกับทางทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 สุราษฎร์ธานีได้มาสนับสนุนแนะนำการทำบ้านปลาตามแนวพื้นที่ชายฝั่งทะเล ให้ลูกปูที่หลบอาศัยจึงทำให้มีปูม้าในพื้นที่ปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถจับสัตว์น้ำได้มากขึ้น และมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว
ในขณะที่นายวิชัย กล่าวว่า ทางทรัพยากรทางทะเลพร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนทางด้านอุปกรณ์ เช่น ถังบรรจุแม่พันธุ์ปูขนาด 50 ลิตร ที่จะนำมาเข้าธนาคาร เครื่องมือต่างๆ เพื่อทำให้ลูกปูที่จะปล่อยกลับทะเลมีโอกาสรอดมากขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางชุมชนปล่อยลูกปูที่เกิดได้เพียง 7 วันลงทะเลทำให้การรอดตายมีไม่มากนัก
ดังนั้น เตรียมสนับสนุนในเรื่องความรู้ การอนุบาลลูกปูที่เพิ่งเกิด รวมไปถึงเรื่องอาหารเพื่อให้ลูกปูที่เพิ่งเกิดมีความแข็งแรง เมื่อนำไปปล่อยลงสู่ทะเลจะมีปริมาณรอดเพิ่มมากขึ้น ในส่วนแม่พันธุ์ปูม้า ชาวชุมชนได้ร่วมกันบริจาคให้แก่ธนาคารปูม้าฟรีโดยไม่คิดราคาเพื่อความยั่งยืนของอาชีพชาวประมงพื้นบ้านในอนาคตต่อไป
