พังงา - ชาวพังงาร่วมคืน “ช้างร้องไห้” กลับสู่ไพรพฤกษ์ เฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10 หลังพบใกล้สูญพันธุ์
ที่บริเวณเขาท่ากะได อ.กะปง จ.พังงา นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายวิบูลศักดิ์ ศันสนียเมธา ผอ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพังงา นายชูศักดิ์ สระมุณี นายอำเภอกะปง นำส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น นักศึกษา และประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมปลูกต้นปาล์มช้างร้องไห้ ในพื้นที่ป่า ริมถนนสายพังงา-กะปง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา 28 กรกฎาคม 2562
นายวิบูลศักดิ์ ศันสนียเมธา กล่าวว่า การปลูกปาล์มช้างร้องไห้ เฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10 ในผืนป่าบนเขาท่ากะไดครั้งนี้ เกิดขึ้นจากโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องจากพระราชดำริฯ ซึ่งวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพังงา ได้คำนึงถึงความสำคัญของปาล์มช้างร้องไห้ ซึ่งเป็นปาล์มหายากสกุลหนึ่งของไทย มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของประเทศไทย คือ ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี ลงไปถึงประเทศมาเลเชีย ที่ปัจจุบันมีสถานะใกล้สูญพันธุ์
ทางวิทยาลัยฯ จึงได้ริเริ่มขยายพันธุ์พร้อมกับนำไปปลูกในถิ่นที่เคยมีชุกชุม เป็นการสร้างจิตสำนึกให้คนในท้องถิ่นให้ความสำคัญ และหวงแหนในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชประจำถิ่น พร้อมเตรียมพัฒนาเขาท่ากะได เป็นจุดท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติต่อไป
ที่บริเวณเขาท่ากะได อ.กะปง จ.พังงา นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายวิบูลศักดิ์ ศันสนียเมธา ผอ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพังงา นายชูศักดิ์ สระมุณี นายอำเภอกะปง นำส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น นักศึกษา และประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมปลูกต้นปาล์มช้างร้องไห้ ในพื้นที่ป่า ริมถนนสายพังงา-กะปง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา 28 กรกฎาคม 2562
นายวิบูลศักดิ์ ศันสนียเมธา กล่าวว่า การปลูกปาล์มช้างร้องไห้ เฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10 ในผืนป่าบนเขาท่ากะไดครั้งนี้ เกิดขึ้นจากโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องจากพระราชดำริฯ ซึ่งวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพังงา ได้คำนึงถึงความสำคัญของปาล์มช้างร้องไห้ ซึ่งเป็นปาล์มหายากสกุลหนึ่งของไทย มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของประเทศไทย คือ ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี ลงไปถึงประเทศมาเลเชีย ที่ปัจจุบันมีสถานะใกล้สูญพันธุ์
ทางวิทยาลัยฯ จึงได้ริเริ่มขยายพันธุ์พร้อมกับนำไปปลูกในถิ่นที่เคยมีชุกชุม เป็นการสร้างจิตสำนึกให้คนในท้องถิ่นให้ความสำคัญ และหวงแหนในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชประจำถิ่น พร้อมเตรียมพัฒนาเขาท่ากะได เป็นจุดท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติต่อไป
