นครศรีธรรมราช - ลูกเจ้าสำนักทรงเจ้า ใช้มีดปาดคอพี่เลี้ยงร่างทรงเลือดทะลัก วิ่งหนีตายทุรนทุรายเลือดท่วม กู้ภัยเข้าช่วยอาการวิกฤต ตำรวจตามรวบมือมีดทันควัน
วันนี้ (27 ก.ค.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิไต้เต๊กเซี่ยงตึ๊ง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เข้าช่วยเหลือคนถูกเชือดคอ ดิ้นทุรนทุรายอยู่ริมถนนสายทุ่งใหญ่ เขาพนม บ้านไทรงาม หมู่ที่ 11 ต.ท่ายาง ทราบเพียงแต่ว่าชื่อนายบ่าว ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง อายุประมาณ 18-19 ปี สภาพมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณลำคอดิ้นทุรนทุรายในขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามช่วยห้ามเลือด นำตัวส่งโรงพยาบาลทุ่งใหญ่ ซึ่งต่อมา แพทย์ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว และรีบส่งต่อมายัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตเนื่องจากพบว่าหลอดลมเกือบขาดสะบั้น
ทั้งนี้ ร.ต.อ.พงษ์วุฒิ วุฒิพงษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับ ร.ต.อ.ธวัชชัย ยั่งยืน ร.ต.อ.นนทวัช รัตนนิพนธ์ รอง สว.สส. และเดินตามรอยเลือดไปเรื่อยๆ ห่างไป 60 เมตร พบว่าสำนักร่างทรงชื่อศาลเจ้าไต่เซี่ย ฮุกโจ้ว บ้านเลขที่ 43 หมู่ 11 ต.ท่ายาง มีเลือดเต็มพื้น จึงสอบสวนนายยันยงค์ จันทรัตน์ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน และเจ้าของสำนักทรง ได้ความว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพี่เลี้ยงร่างทรงให้ในขณะที่ทำพิธี ทราบเพียงชื่อเล่นว่าบ่าว
พยานในที่เกิดเหตุแจ้งต่อฝ่ายสืบสวนว่า คนก่อเหตุสวมเสื้อสีแดง สวมกางเกงขาสั้นสีดำ วิ่งเข้าป่าสวนยางหลังสำนักทรง ด.ต.วรเดช ลิ่มบุตร เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงวิ่งไปในสวนยางดังกล่าวทันที พบผู้ต้องสงสัยไม่สวมเสื้อนอนหมอบอยู่กับพื้นหญ้า จึงสั่งให้ยืนขึ้นพร้อมทั้งหยิบเสื้อมาสวมใส่ เป็นเสื้อยืดสีแดง ตามที่พยานแจ้งเบาะแส สอบถามชื่อคือ นายประมวล จันทรัตน์ หรือแบงก์ อายุ 22 ปี ลูกชายของนายยันยงค์ เจ้าของสำนักทรง จึงสอบสวน
นายแบงก์ รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุเชือดคอนายบ่าว เนื่องจากก่อนเกิดเหตุตนมีเรื่องทะเลาะกับนายบ่าว โดยนายบ่าว ได้ด่าบุพการี จึงทนไม่ไหวคว้ามีดพกยาว 5 นิ้ว ปาดคอไป 1 ครั้ง ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไป ส่วนนายบ่าว หลังจากถูกตนเชือดคอแล้ว ได้วิ่งหนีไปบนถนนทุรนทุรายจนมีคนมาช่วยเหลือ หลังจากนั้น นายประมวล ได้นำเจ้าหน้าที่ไปยังจุดทิ้งมีด และทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอน ส่วนนายบ่าว นั้นล่าสุดพบว่าอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต