สตูล - ทสม.เกาะสาหร่ายชี้ชาวบ้านกังวลหญ้าทะเลไม่พอเลี้ยงพะยูน ยื่นหนังสือรายงาน ผวจ.สตูล ถึงผลการอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเล เผยผลการประชุมร่วมประชาชนและราชการที่เกี่ยวข้อง วาง 8 มาตรการอนุรักษ์พะยูน และสัตว์ทะเลหายากอื่นๆ
วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดสตูล นายอดุลย์ ชนะบัณฑิต ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ต.เกาะสาหร่าย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล นำหนังสือรายงานผลการอนุรักษ์พะยูนสัตว์ทะเลหายากและรักษาหญ้าทะเลในพื้นที่เกาะสาหร่าย ซึ่งเป็นอาหารของพะยูน ยื่นต่อนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผวจ.สตูล เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนร่วมอนุรักษ์ดูแลพะยูนและหญ้าทะเลให้ยั่งยืนต่อไป
นายอดุลย์ กล่าวว่า สิ่งที่ชาวบ้านและชุมชนกังวลคือ เรื่องของหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของพะยูน เมื่อพะยูนเพิ่ม หญ้าทะเลจึงเป็นที่ต้องการ แต่มีปริมาณไม่เพียงพอ ทั้งนี้ จากกรณีที่มีการตรวจพบพะยูนเสียชีวิตจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา กองทัพเรือ ภาคที่ 3 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.เขต 3) ได้เชิญผู้แทนส่วนราชการต่างๆ ใน ศรชล. และส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทางฝั่งทะเลอันดามันส่วนใหญ่ ทั้งทหารเรือ ตำรวจน้ำ และพลเรือน มาร่วมหารือแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ บก.ทรภ.3 จ.ภูเก็ต ได้สรุปสาระสำคัญเป็นมติที่ประชุมได้ดังนี้ (1) แบ่งพื้นที่ให้หน่วยต่างๆ รับผิดชอบในการเฝ้าระวังและตรวจตรา โดยเฉพาะแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งที่พักอาศัยของพะยูน
(2) ทรภ.3 จะให้การสนับสนุนในการดูแลพะยูนน้อย “มาเรียม” และ “ยามีล” ตามที่ได้รับการร้องขอ และตามศักยภาพที่มีอยู่ (3) จะวางทุ่นแจ้งเตือนให้ทราบตำบลที่แหล่งหญ้าทะเลและที่อยู่อาศัยของพะยูน เพื่อป้องกันเรือประมงพื้นบ้านไม่ให้ล้ำเข้าไปในพื้นที่ (4) จะประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับเครื่องมือทำการประมงที่ผิดกฎหมายและที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลหายาก ไม่เฉพาะแต่พะยูน แต่รวมถึงเต่าทะเล ปลาโลมา และสัตว์ทะเลหายากอื่นๆ ด้วย (5) แต่ละหน่วยงานจะช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน รวมทั้งเสริมสร้างและปลุกจิตสำนึกตามแนวชายฝั่งทะเล โดยให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา และตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากอย่างยั่งยืนต่อไป
(6) ให้มีการบูรณาการด้านการข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมการล่าสัตว์ทะเลหายาก หรือที่เป็นภัยคุกคามอื่นๆ แล้วรายงานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาดำเนินการต่อไป (7) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และมีการลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างรุนแรง เพื่อยับยั้งพฤติกรรมลอกเลียนแบบ และ (8) ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องสำรวจ ตรวจสอบ และป้องกันไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียออกมาจากโรงงานบริเวณใกล้แหล่งที่พักอาศัยของสัตว์ทะเลหายาก
นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า หลังจากยื่นเรื่องแล้ว จ.สตูล ยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือในการร่วมกันอนุรักษ์พะยูน โอกาสนี้ อยากให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ช่วยหนุนเสริมกิจกรรมของชุมชนในการอนุรักษ์ ในส่วนของชาวบ้าน ชุมชน ก็อยากให้มีการตระหนักเพิ่ม โดยเฉพาะเครื่องมือประมง ควรเป็นเครื่องมือที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการพะยูน อีกด้านหนึ่งของนักท่องเที่ยว อยากให้รักษากติกาของชุมชน โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งมีการอนุรักษ์พะยูน เต่าทะเล โลมา อยากให้ศึกษาความเป็นอยู่ของสัตว์เหล่านั้นก่อนจะลงไปท่องเที่ยว ทั้งนี้ เพื่อให้พะยูนอยู่คู่กับท้องทะเล เพราะที่ใดมีพะยูน นั่นจะเป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของท้องทะเล
ทั้งนี้ เครือข่าย ทสม.ต.เกาะสาหร่าย ได้ร่วมอนุรักษ์และดูแลพะยูนและหญ้าทะเลในพื้นที่ของตำบล โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านตันหยงอุมา และหมู่ที่ 2 บ้านบากันใหญ่ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพะยูน เต่าทะเล และเป็นแหล่งหญ้าทะเลตั้งแต่อดีต และผลจากการร่วมกันอนุรักษ์ดูแลรักษาของชุมชน ปัจจุบันทำให้พะยูนเพิ่มปริมาณ และจากการเก็บข้อมูลสำรวจมีอยู่ประมาณ 10 กว่าตัว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี