ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เพจต้านรัฐเรียกร้องให้องค์กรกลางพิสูจน์ยาที่ฉีดเข้าร่างกาย “อับดุลเลาะ” บอกทหารเฝ้าติดขอบเตียง ห้ามญาติเข้าเยี่ยม เปิดโพสต์เก่าญาติ บอกแพทย์แจ้งจะฉีดสีตรวจสาเหตุ มีผลข้างเคียงไตอาจวาย-น้ำท่วมปอด ญาติเข้าเยี่ยมได้ตามระเบียบ รพ. ทหารเข้าทุก 2 ชั่วโมง
จากกรณี นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 32 ปี ชาวบ้าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัวไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แล้วหมดสติระหว่างถูกควบคุมตัวจนต้องส่งตัวเข้าห้องไอซียู โรงพยาบาลปัตตานี ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่ามีภาวะสมองบวม จากการขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน ต่อมา แพทย์ได้ส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลานั้น
วานนี้ (25 ก.ค.) ในโลกโซเชียล ได้มีเพจ Patani Kita ที่ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการลงข้อมูลที่โจมตีเจ้าหน้าที่รัฐมาตลอดได้โพสต์ให้สมาชิกช่วยกันแชร์เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เปิดหลักฐานจากกล้องวงจนปิดภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร และกล่าวหาว่า แม้แพทย์มีจรรยาบรรณ แต่ที่ไม่มีจรรยาบรรณคือคนที่กดดันแพทย์ Patani Kita รายงานด้วยว่า อาการของนายอับดุลเลาะ เริ่มแย่ อาการวิกฤต ไม่ตอบสนองใดๆ ไตวายและม่านตาไม่ตอบสนอง ขอให้องค์กรกลางมาพิสูจน์ยาที่ฉีดเข้าในร่างกายเป็นยาชนิดใดบ้าง
“คนสามจังหวัดภาคใต้เริ่มไม่ไว้วางใจแพทย์หรือพยาบาล เพราะเริ่มผิดปกติตั้งแต่ทหารเข้าถึงชิดขอบเตียง และห้ามญาติเฝ้า!!! สงสัย?” Patani Kita เขียนไว้เช่นนี้ ทั้งนี้ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์ไปแล้ว 5,700 กว่าครั้ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายโมฮำมัด รอฮมัด ญาตินายอับดุลเลาะ เคยโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.ว่า แพทย์ได้มาแจ้งให้ญาติๆ ทราบและลงชื่อยินยอมว่า ต้องฉีดสีเข้าร่างกายเพื่อตรวจหาสาเหตุ ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงคือ อาจทำให้ไตวาย น้ำท่วมปอด ทั้งนี้ มีคนมาบอกกล่าวในช่องคอมเมนต์ว่าเป็นการฉีดสีเพื่อเอกซเรย์สมอง เพื่อให้เห็นรอยชัดขึ้น และแพทย์ต้องบอกผลข้างเคียง ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง
ส่วนเรื่องการเข้าเยี่ยม นายโมฮำมัด ได้เคยโพสต์ไว้ว่า ได้มีการหารือกันระหว่างญาติ แพทย์ และทหารที่มาเฝ้าว่า ญาติจะเข้าเยี่ยมได้ตามระเบียบการเยี่ยมผู้ป่วยของโรงพยาบาล ส่วนทหารจะเข้าไปทุก 2 ชั่วโมง เนื่องจากนายอับดุลเลาะ อยู่ในการควบคุมตัวตามกฎหมายพิเศษ
