ตรัง - พ่อแม่ชาวตรังพอใจหลังเข้าร้องกองปราบให้ช่วยคลี่คลายคดีลูกชายเสียชีวิตปริศนา โดยเตรียมส่งชุดลงพื้นที่ มั่นใจไม่เกิน 15 วัน จับคนร้ายได้แน่ พร้อมเชื่อเต็มร้อยเป็นการฆาตกรรม ไม่ใช่ถูกไฟช็อต
วันนี้ (24 ก.ค.) นายเวียง สิทคชวัน อายุ 57 ปี พร้อมด้วย นางเครือวัลย์ สิทคชวัน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 9 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง และ นายเจือ ปราบเขต ซึ่งเป็นลุง กล่าวถึงผลการเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อตำรวจกองปราบปราม ในคดีที่ นายธนวิชญ์ หรือหมู สิทคชวัน อายุ 24 ปี ลูกชายที่เสียชีวิต บริเวณคลองสาธารณะ หลังบ้านพักประมาณ 350 เมตร โดยตำรวจ สภ.รัษฎา และแพทย์เวรโรงพยาบาลรัษฎา ระบุสาเหตุการตายว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้าช็อต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
แต่ต่อมา ทางครอบครัวติดใจสาเหตุการตาย จึงส่งศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายใหม่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) จ.สงขลา และผลการผ่าพิสูจน์ระบุว่า ตายเนื่องจากสมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุของแข็งไม่มีคม ซึ่งขัดแย้งกับผลสรุปของตำรวจ และหมอในพื้นที่ จนทางครอบครัวได้มีการเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อตำรวจกองปราบปราม โดยระบุว่าลูกชายถูกฆาตรกรรม และอาจเกี่ยวพันกับลูกชายบุญธรรมของตำรวจในพื้นที่ อีกทั้งคดีผ่านมาแล้วกว่า 5 เดือน ทางตำรวจในพื้นที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ และเกรงตำรวจไม่ทำงานนั้น
โดย นางเครือวัลย์ พร้อมด้วย นายเวียง สิทคชวัน แม่และพ่อของผู้ตาย กล่าวว่า ทางครอบครัวพอใจมากต่อการเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมที่กองปราบปราม เนื่องจากนอนไม่หลับ และยังทำใจไม่ได้ต่อการเสียชีวิตของลูกชาย แต่เชื่อมั่นในผลการผ่าพิสูจน์ของหมอ ม.อ.สงขลา ที่ระบุว่า ลูกชายตายเนื่องจากสมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุของแข็งไม่มีคม จึงไม่ใช่ตายเพราะไฟช็อตแน่นอน ซึ่งในวันนั้นแม่เป็นคนไปพบคนแรก โดยได้ทักท้วงตำรวจและหมอแล้วแต่เขาไม่สนใจ
ส่วนแผลรอยไหม้ที่ร่างของลูกชายเชื่อว่า เกิดจากแสงแดดเผา แต่เนื่องตนเองเป็นชาวบ้านจะหาหลักฐานจากไหนมายืนยัน ซึ่งล่าสุด ตำรวจกองปราบก็ยืนยันว่า จะส่งกำลังเข้ามาที่บ้านในเร็วๆ นี้ จึงมั่นใจว่าหากตำรวจทำงานจริง ไม่เกิน 15 วัน จะต้องจับคนร้ายได้แน่ เพราะมีตัวละครไม่กี่คน อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาชัดในวันหน้าว่า ลูกชายถูกฆาตกรรมจริง จะเอาผิดตำรวจในพื้นที่หรือไม่นั้น ทางครอบครับขอดูผลสรุปก่อน และยังไม่ได้คิดไว้
จากนั้น พ่อแม่ และลุงของผู้ตาย พาผู้สื่อข่าวไปดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง เริ่มจากเสาไฟฟ้าที่ได้ติดตั้งคัตเอาต์ไว้ และต่อสายไฟลากไปตลอดแนวจนถึงลำคลอง แต่ยังไม่ได้เปิดคัตเอาต์ ดังนั้น กระแสไฟจึงยังไม่ได้เดินผ่าน ส่วนที่รั้วริมคลองได้ชี้ให้ดูม้วนสายไฟที่เพิ่งแกะออกจากกล่อง โดยยังไม่ได้ตัดปลายสาย และต่อพ่วงกับเครื่องสูบน้ำ ดังนั้น จึงยังไม่มีกระแสไฟเดินผ่านเช่นกัน ทำให้ทางครอบครัวยืนยันว่า จากลักษณะนี้เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะถูกไฟช็อตอย่างแน่นอน นอกจากนั้น ยังมีรองเท้าแตะของลูกชายหายไป 1 ข้างด้วย ซึ่งถ้าหากลูกชายไม่ถูกฆ่า รองเท้าจะหายไปได้เช่นไร