แถลงการณ์ “พรรคประชาชาติ” ต่อกรณีความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “พรรคประชาชาติ” ออกแถลงการณ์ต่อกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา เกิดเหตุลอบวางระเบิดทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่บ้านตะโล๊ะดือหลง บ้านย่อยของบ้านป่าหวัง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 4 นาย แรงระเบิดทำให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่พังเสียหายไป 1 คัน

ต่อเนื่องด้วยเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบลที่ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นผลให้เจ้าหน้าที่ อส.ชคต.เสียชีวิต 4 นาย เจ็บสาหัส 3 นาย บาดเจ็บอีก 3 นาย นับเป็นความสูญเสียต่อเนื่องที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในครึ่งปีหลังนี้

ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบรรดาญาติมิตร ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับสวัสดิการ ปูนบำเหน็จ ให้บำนาญ ให้เต็มที่จากภาครัฐ ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามหลักการกฎหมาย หลักมนุษยชนอันดีที่ยังมีอีกมาก

และขอฝากความปรารถนาดีไปยังผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย ทุกเหล่า ต่อการให้การดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้อยู่ในความปลอดภัย ยึดหลักการปฏิบัติงานมิให้เกิดความเสี่ยง ความสูญเสีย ให้ดียิ่งขึ้นไป

ผมมีความวิตกกังวลใจอย่างมากต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าจะมีสัญญาณหลายประการที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในพื้นที่ ทั้งในเรื่องความมั่นคงของชีวิต ทรัพย์สิน ที่เป็นเรื่องประจักษ์ทางกายภาพ และยังขยายไปยังการสร้างความเกลียดชังระหว่างประชาชน เกิดความหวาดระแวงเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะพี่น้องพุทธศาสนิก และพี่น้องมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่ ที่ผมเชื่อว่าต่างก็มีจุดประสงค์ดีในการสร้างเสริมสันติสุขในพื้นที่ มีความรักในบ้านเกิดไม่น้อยไปกว่ากัน จะทำอย่างไรให้บ้านเกิด ให้พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีสันติสุข ดูจะเป็นคำถามที่ประชาชนทั้งหมดนั้นขบคิดมาแทบจะทุกวันอยู่แล้ว

แต่ดูเหมือนยิ่งเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น คำตอบที่ประชาชนจะให้หรือจะได้นั้น กลับเลือนรางกลายเป็นความรุนแรงทางอารมณ์ที่ต้องการตอบโต้ด้วยวิธีการ หรือความคิดของตน ทั้งวิธีการรุนแรงโต้กลับ หรือการสบถคำ แสดงออกถึงความรังเกียจระหว่างกัน ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง แตกต่างจากอดีตวันวานที่ไม่เคยเกิดเรื่องราวแย่ๆ แบบนี้โดยทั่วไปในสังคมมาก่อน

อย่างไรก็ดี คำตอบที่ผมเองก็เห็นด้วย ประชาชนทั้งหลายก็สะท้อนมาตรงกัน นั่นคือ “ความยุติธรรม” ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดูจะแห้งหายกลายเป็นพื้นที่ที่ถูกตั้งคำถามเรื่องความยุติธรรมมากที่สุดระดับประเทศ

เพราะที่นี่มีคำถามเรื่องความยุติธรรมขึ้นทุกวัน บางวันก็มีคำถามในเรื่องของความเหมาะสม หรือที่แย่ที่สุด คือการรู้สึกละอายใจในการเป็นพลเมืองไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญก็บัญญัติไว้ถึงความเท่าเทียมกัน แต่ในพื้นที่แห่งนี้กลับกลายมีความรู้สึกสองมาตรฐานเกิดขึ้นต่อเนื่องเชื่อมกัน

ฉะนั้น “การได้มาซึ่งความยุติธรรม” นั้น จะต้องเป็นโจทย์หลักที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ต้องขบคิดและให้ความสำคัญมากที่สุดเป็นพื้นฐานไว้ก่อน การใดๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความยุติธรรมอันได้รับการยอมรับจากประชาชนแล้ว ล้วนต้องให้ความสำคัญ และถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเขาต้องการสิ่งนี้มากที่สุด

จะว่าไปแล้วปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นประเด็นใหญ่ระดับชาติ เราสูญเสียไปมากมายทั้งชีวิตของข้าราชการทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร รวมไปถึงผู้นำศาสนา ทั้งพระสงฆ์ พระคุณเจ้า โต๊ะอิหม่าม ประชาชนผู้มีความสามารถ ยังไม่นับรวมถึงงบประมาณภาษีประชาชนที่ถูกจ่ายไปด้วยเหตุผลในการแก้ไขความไม่สงบนี้ในหลักแสนล้านบาท ซึ่งหากนำเงินภาษีส่วนนี้ไปบำรุงประเทศก็คงได้โอกาสอีกมาก ความสะดวกก็ไม่น้อยเลย จินตนาการแค่นี้ก็พอจะมองเห็นว่ามันสูญเสียมากมายจริงๆ

ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลใหม่นี้จะต้องทบทวนมาตรการ วิธีการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ยกเครื่อง” เบื้องต้นที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการใช้วิธีการนอกกฎหมายทุกรูปแบบ เน้นหลักตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะหลักมนุษยชน อดทน อดกลั้น ระมัดระวังอย่าได้สร้างประเด็นอ่อนไหวจนกลายเป็นเงื่อนไข ต้องมาตามแก้ไขปัญหากัน ซึ่งมันใช้เวลานานมาก เกรงว่าจะไม่คุ้มกัน

ทั้งนี้ ยังต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกศาสนา มีส่วนร่วมมากขึ้น ผมเองก็อยากเห็นพื้นที่การร่วมงานกันของพี่น้องไทยพุทธ ไทยมุสลิม เชื่อว่าน่าจะเกิดบรรยากาศดีๆ สร้างความเข้าอกเข้าใจได้มากขึ้นแน่นอน

ในนามของพรรคประชาชาติ จะทำหน้าที่ร่วมด้วยช่วยกันแก้ไขปัญหาในประเด็นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเต็มความสามารถ เราจะวิเคราะห์ข้อมูล รับฟังความคิดเห็นของประชาชน นำเสนอทางออกที่ดีให้ทางรัฐ ร่วมกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ เพราะอย่างไรที่สุดแล้วประชาชนย่อมได้รับประโยชน์จากความร่วมไม้ร่วมมือกัน และเมื่อนั้นสังคมก็จะก้าวไปสู่ “สันติสุข” สมความคาดหวังของประชาชนอย่างแน่นอน

แถลงการณ์พรรคประชาชาติ ต่อกรณีความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

เหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นับเป็นประเด็นใหญ่ระดับประเทศที่เป็นเหตุให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ปัญหาความมั่นคงในชีวิตประชาชน การสร้างความเกลียดชังไม่ไว้วางใจกัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน ปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ และไม่เท่าเทียม เป็นต้น ซึ่งได้สร้างความเสียหายทั้งชีวิต ทรัพย์สิน โอกาส และความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐอย่างต่อเนื่อง

แม้จะเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม และเด็ดขาดที่นำโดยหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อันมีอำนาจ ม.44 ในการปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่ปรากฏถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นของสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบเพิ่มขึ้น สร้างความวิตก และไม่ปลอดภัยแก่ประชาชนจวบจนปัจจุบัน ทั้งกรณีทำร้ายชีวิต ทรัพย์สิน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนเป็นจำนวนมาก อาทิ เหตุการณ์การล้อมหมู่บ้านแหร จังหวัดยะลา การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จังหวัดปัตตานี การลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารพราน จังหวัดยะลา และล่าสุดคือการโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบล จังหวัดปัตตานี

ทั้งนี้ พรรคประชาชาติ เชื่อว่าความรุนแรงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเรียกร้องขอให้รัฐดำเนินการดังต่อไปนี้เป็นการเร่งด่วน
• คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน เจ้าหน้าที่ทุกกลุ่ม ทุกศาสนา อย่างเท่าเทียมกัน
• ทบทวนมาตรการในการแก้ไขปัญหาทั้งระบบโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ผูกขาดเฉพาะหน่วยงานทางความมั่นคงเท่านั้น
• ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับพลเรือน (ทุกกลุ่ม ทุกศาสนิก) โดยคณะกรรมการดังกล่าวจำเป็นต้องมีตัวแทนพลเรือนเป็นส่วนใหญ่ มีองค์ประกอบที่มีความน่าเชื่อถือ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการแสวงหาข้อเท็จจริง และเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ในการตรวจสอบต่างๆ ตามหลักสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง ตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชน เพื่อยกระดับความสามารถในการแก้ไขปัญหาให้เป็นที่ยอมรับ สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนเพิ่มมากขึ้น

พรรคประชาชาติ มีความความห่วงใยต่อทุกเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อันเป็นสิ่งที่ทำลายความมั่นคงในชีวิตประชาชน ก่อให้เกิดความลำบากในการใช้ชีวิต สร้างความเกลียดชังระหว่างกัน เช่น กรณีการลอบสังหารพระสงฆ์ โต๊ะอิหม่าม การสังหารเป้าหมายอ่อนแออย่างสตรี คนชรา และเด็ก การปิดล้อมหมู่บ้านแหร จังหวัดยะลา การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจนได้รับบาดเจ็บสาหัสในค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี การลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารพราน จังหวัดยะลา การโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบล จังหวัดปัตตานี เป็นต้น

ทั้งนี้ พรรคประชาชาติ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังญาติ และครอบครัวของประชาชนทุกศาสนา และเจ้าหน้าที่รัฐทั้งที่เป็นพลเรือน ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ทุกหน่วยงาน อันต้องสูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย และจิตใจ สูญเสียทรัพย์สิน และโอกาส หรือที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยวิธีการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ชอบธรรม และบรรดาบุคคลเหล่านี้สมควรอย่างยิ่งที่รัฐจะให้ความคุ้มครอง เยียวยา และชดเชยอย่างเต็มที่ตามหลักสากล