xs
xsm
sm
md
lg

“มาราปาตานี” ร่อนแถลงการร์จี้ UN องค์กรนานาชาติ ยันนายกฯมาเลย์ ให้แทรกแซงกรณีผู้ต้องสงสัยสมองบวมในค่ายทหารไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “มาราปาตานี” ร่อนแถลงการณ์จี้องค์การสหประชาชติ พ่วงองค์กรนานาชาติ ยันนายกฯมาเลย์ ให้เข้าแทรกแซงกรณีผู้ต้องสงสัยหมดสติในค่ายทหารที่ปัตตานี ชี้ต้องร่วมมือกันดับไฟใต้และสร้างสันติภาพที่เป็นธรรมให้เกิดขึ้น ระบุชัดกองทัพไทยเล่นไม่ซื่อ ยันมีการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยหลายคนเคยถูกบันทึกเอาไว้แล้ว
 
“กลุ่มมาราปาตานี” หรือองค์กรร่วมของขบวนการเอกราชจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์เผยแพร่ต่อสาธารณะกรณีอับ “นายดุลเลาะ อีซอมูซอ” ชาว อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคงที่ถูกคุมตัวไปยังศูนย์ซักถามในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แต่ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงกลับถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูของโรงพยาบาลปัตตานี ด้วยอาการหมดสติและเกิดภาวะสมองบวม ล่าสุดถูกส่งไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.หาดใหญ่) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
 
ทั้งนี้แถลงการณ์ดังกล่าวลงนามโดย นายอาบู ฮาเฟซ อัล-ฮาคิม โฆษกของกลุ่มมาราปาตานี มีเนื้อหาเชิงเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศเข้าแทรกแซง และหาทางออกทางการเมืองในกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีรายละเอียดดังนี้
 
“เรื่องผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงหมดสติเข้ารักษาตัวห้อง ICU รพ.ปัตตานี หลังถูกคุมตัวเข้าค่ายทหาร เรียนเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม เลขาธิการสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซีย นักการทูตต่างชาติในกรุงเทพฯ และกัวลาลัมเปอร์ คณะกรรมการกาชาดสากล คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เจนีวาคอลล์(เอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชนจากสวิตเซอร์แลนด์) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
 
ท่านสุภาพบุรุษ พวกเราช็อกและเสียใจต่อเหตุการณ์ล่าสุดในสามจังหวัดภาคใต้ เมื่อผู้ต้องสงสัยในประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงถูกพบในสภาพหมดสติภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่รัฐ เขาถูกรีบนำตัวส่งไปยังห้องผู้ป่วยวิกฤต (ไอซียู) ของโรงพยาบาลปัตตานี ด้วยอาการสมองบวมอย่างรุนแรง และภาวะเนื้อเยื่อพร่องออกซิเจน สภาพของเขาอยู่ในภาวะผู้ป่วยหนัก
 
อับดุลเลาะ อิซอมูซอ เป็นชายหนุ่มที่ดูสุขภาพดี อายุ 32 ปี เขาถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจากบ้านของเขาใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ในบ่ายวันที่ 20 ก.ค.2562 เขาถูกนำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหารเพื่อการกักตัวและสอบปากคำ
 
ในช่วงเช้าของวันที่ 21 ก.ค.2562 ไม่ถึง 24 ชั่วโมงของการคุมขัง เขาถูกพบในสภาพหมดสติในห้องน้ำของศูนย์สอบปากคำ ทหารออกมาปฏิเสธอย่างรวดเร็วว่าไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ การสอบสวนเบื้องต้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ไม่มีกล้องวงจรปิดตัวใดในศูนย์เลยที่ใช้งานได้ ภายใต้สถานการณ์อันคลุมเครือเหล่านี้ การเล่นไม่ซื่อนั้นเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างยิ่ง การซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยหลายคนถูกบันทึกเอาไว้ภายใต้ศูนย์ที่ขึ้นชื่อแห่งนี้
 
ข้อเท็จจริงที่นายอับดุลเลาะเป็นผู้ต้องสงสัย ไม่ได้เป็นอาณัติให้ผู้สอบปากคำกระทำอันตรายต่อร่างกายของเขา อย่าว่าแต่ทำให้เขาบาดเจ็บจนใกล้ตายเลย เราประณามพฤติกรรมที่ไร้มนุษยธรรมและตาขาวนี้ คือการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างสาหัส และการเพิกเฉยอย่างไม่เป็นที่น่ายอมรับในระหว่างกระบวนการสอบปากคำ
 
เหตุการณ์คล้ายๆ กันได้รับการรายงานและบันทึกไว้ โดยนักกิจกรรมและสื่อทั้งในท้องถิ่นและต่างประเทศ ดังนั้นครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และมันก็จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เว้นเสียแต่ว่าจะมีการแทรกแซงและมาตรการเชิงบวกเกิดขึ้น
 
เหล่าผู้นำโลกต้องไม่นิ่งดูดายต่อความทารุณของเจ้าหน้าที่ทหารไทย โดยไม่ให้มีการตรวจสอบ และไม่มีผู้กระทำความผิดได้รับโทษ สิ่งนี้จะเป็นการประกันว่า โศกนาฏกรรมลักษณะคล้ายกันนี้ที่ไม่มีใครต้องการจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
 
ความเพิกเฉยอย่างไม่เป็นที่น่ายอมรับ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐไทยต่อผู้ต้องขังและผู้ถูกควบคุมตัว ไปจนถึงพลเรือนที่ไม่มีความผิดต้องหยุดลงและได้รับการตรวจสอบ และเวลา (ที่ต้องทำ) คือเดี๋ยวนี้ ขอให้เราไม่รีรอจนโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เกิดขึ้นก่อนที่จะมีมาตรการที่เป็นรูปธรรม
 
ความขัดแย้งในปาตานี ไม่ใช่ปัญหาในประเทศของไทยอย่างเดียวต่อไป แต่เป็นปัญหาระดับภูมิภาคที่จำเป็นต้องมีการแทรกแซงจากนานาชาติ มันเป็นเรื่องการเมืองโดยธรรมชาติ ที่จะต้องมีการแก้ไขกันในเรื่องเหตุรากฐานทางประวัติศาสตร์
 
ดังนั้น แนวทางการแก้ไขความขัดแย้งควรจะเป็นวิธีทางทางการเมือง ไม่ใช่การใช้กำลังหรือการกดปราบ กฎหมายโบราณและไม่เป็นธรรมทั้งหมดที่ยังมีผลถึงชีวิตของประชาชนแบบวันต่อวัน ต้องถูกยกเลิกโดยด่วนอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะในตอนนี้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็มีแล้ว ประชาชนแห่งปาตานีต้องได้รับสิทธิในการกำหนดชะตากรรมแห่งตน อย่างที่ได้รับการการันตีโดยกฎบัตรสหประชาชาติ
 
พวกเราขอเรียกร้องให้ท่าน เหล่าสุภาพบุรุษทำอะไรก็ได้ที่เป็นไปได้เท่าที่อำนาจมี เพื่อช่วยหาทางออกในทางการเมืองต่อความขัดแย้งนี้ แนวทางทางการทหารที่รัฐบาลนำมาใช้จนถึงตอนนี้นั้นล้มเหลวในการควบคุมเหตุความรุนแรงและการเผชิญหน้า ในความจริง ความเกลียดชังและการตอบโต้จากขบวนการปลดแอกกำลังเพิ่มขึ้น
 
บ่อยครั้งที่กระบวนการสันติภาพที่ดำเนินอยู่อย่างให้ความหวังต่อประชาชนชะงักงัน หรือหยุดลงเนื่องจากขาดความมุ่งมั่น ความจริงใจและเจตจำนงทางการเมืองจากรัฐบาลไทย ภายใต้ทางนี้ (แนวทางทางการเมือง) ร่วมกับการมีส่วนร่วมสนับสนุนจากต่างประเทศเท่านั้น ที่จะเกิดผลลัพธ์ทางการเมืองเพื่อให้มีสันติภาพในปาตานีที่เป็นธรรม ครอบคลุมและยั่งยืน
 


กำลังโหลดความคิดเห็น