สุราษฎร์ธานี - ลูกแชร์รายวัน “แชร์บ้านบิว กิฟต์ชอป” แห่ขึ้นโรงพักเกาะสมุย แจ้งความเอาผิดเท้าแชร์หนีหาย หลังวงแชร์ล่ม ลูกแชร์ทั้งพ่อค้าแม่ค้า พนักงาน ผู้ประกอบการธุรกิจ พนักงานรัฐ ภรรยาชาวต่างชาติ เสียหายกว่า 120 ล้านบาท
วันนี้ ( 20 ก.ค.) ที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีชาวบ้าน พนักงาน และนักธุรกิจ เกือบ 20 คน ทยอยเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธงชนะ หาญกิตติกาญจนา ผกก.สภ.บ่อผุด เพื่อขอลงบันทึกประจำวันแจ้งความร้องทุกข์ จากกรณีที่ผู้เสียหายได้ร่วมกันเล่นแชร์รายวัน แล้วถูกเท้าแชร์โกงปิดวงแชร์หอบเงินหนีไป
โดยกลุ่มผู้เสียหายได้ทยอยเดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.ธงชนะ ผกก.สภ.บ่อผุด เพื่อให้ทาง ผกก.ช่วยแนะนำและอำนวยความสะดวก จัดส่งพนักงานสอบสวน มาช่วยรับเรื่องในการแจ้งความรับคดี และอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มผู้เสียหายที่มีจำนวนเกือบ 200 คน และจะทยอยกันเดินทางมาให้ปากคำวันละ 20-30 คน
ทั้งนี้ น.ส.แพรว ขอสงวนนามสกุล หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายเปิดเผยว่า เมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ได้มี น.ส.บิว ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเปิดร้านจำหน่ายสินค้าประเภทกิฟต์ชอป ภายในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 3 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย ได้เปิดวงแชร์ใช้ชื่อว่า “วงแชร์บ้านบิว กิฟต์ชอป” ซึ่งมี น.ส.บิว เป็นเท้าแชร์ เปิดเป็นแชร์รายวันเกือบ 200 มือ มือละ 10,000 บาท จนถึงมือละ 100,000 บาท หรือบางรายเล่นหนักคนละหลายมือต่อคน ส่งครั้งละ 500,000 บาทก็มี โดยลูกแชร์ในระยะแรกๆ ก็เป็นกลุ่มเพื่อนๆ จากนั้นได้ขยายวงกว้างขึ้น ซึ่งลูกแชร์ส่วนใหญ่มีทั้งพ่อค้าแม่ค้า พนักงานในห้างสรรพสินค้า พนักงานโรงแรม เจ้าหน้าที่ของรัฐ และบุคคลทั่วไป รวมทั้งภรรยาของชาวต่างชาตินำเงินมาร่วมลงทุนเล่นแชร์รายวันวงนี้กัน มียอดเงินต้นกว่า 120 ล้านบาท
น.ส.แพรว ยังเปิดเผยอีกว่า ในช่วงแรกๆ มีรายได้ดี ส่งครั้งละ 100,000 บาท ได้ดอกเบี้ย 30,000 บาท ภายในไม่กี่วัน บางรายนำเงินมาลงทุนร่วมเล่นแชร์ในวงนี้ เช่น นักธุรกิจรายหนึ่งนำเงินมาลงเล่นวันละ 1,000,000 บาท ได้ดอกเบี้ยวันละ 300,000 บาท บางรายเล่นมาประมาณ 6 เดือน นำเงินมาลงทุนกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทำให้ทุกคนเห็นว่า มีรายได้ตอบแทนค่อนข้างดีมาก จึงได้ทุ่มกันนำเงินต้นมาลงทุนเล่นแชร์รายวันกัน บางคนนำบัตรเครดิตไปรูดเงิน เพื่อนำเงินสดมาต่อยอด เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยแชร์มาหมุน ซึ่งในแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนในวงแชร์บ้านบิว กิฟต์ชอป วันละกว่า 10 ล้านบาท โดยมีการโอนเงินกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งของธนาคารต่างๆ”
น.ส.แพรว ผู้เสียหายกล่าวว่า ที่รวมตัวกันออกมาเปิดเผยในครั้งนี้ เพื่อฝากเป็นอุทาหรณ์ ว่า การที่จะนำเงินมาต่อยอดลงทุนอะไรสักอย่างควรคิดให้รอบคอบ พร้อมทั้งเปิดเผยอีกว่า สำหรับตนยอมรับว่า เมื่อนำเงินมาลงทุนในช่วงแรกๆ เห็นว่ามีกำไรดี ตาโต เกิดความโลภ จึงนำเงินมาลงทุ่มและลงทุน เพียงหวังแค่ได้ดอกเบี้ยงามในแต่ละวัน แต่ไม่ได้คำนึงถึงเงินต้นที่ยังอยู่ที่เท้าแชร์ ซึ่งลูกแชร์ทุกคนที่เดินทางมาร้องทุกข์ในวันนี้ เพียงแค่ต้องการเงินต้นคืนเท่านั้น พร้อมฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยอนุเคราะห์ในเรื่องของการอำนวยความสะดวกให้คำแนะนำแก่กลุ่มผู้เสียหายแชร์บ้านบิว กิฟต์ชอป โดยลูกแชร์ทุกคนพร้อมให้ข้อมูลต่อทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแบบไม่ปิดบัง เพื่อติดตามเท้าแชร์มาดำเนินคดี และเพื่อไม่ให้ไปหลอกคนอื่นเหมือนกลุ่มพวกตนอีก
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.บิว ทราบว่า มีภูมิลำเนาในจังหวัดอุบลราชธานี และมีสามีเป็นคนจังหวัดระนอง และ น.ส.บิว ได้ซื้อบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ตำบลมะเร็ต และจากการตรวจสอบ พบว่า ทรัพย์สินภายในบ้านได้ถูกเคลื่อนย้ายออกไปหมดแล้ว และปิดบ้านสนิทไร้คนอาศัย คาดว่าหลบหนีออกไปจากเกาะสมุยแล้ว ขณะที่ยังมีรายงานอีกว่า ยังมีแชร์ในลักษณะเดียวกันในพื้นที่หาดเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยได้เกิดล้มและเท้าแชร์ได้ไหวตัวหลบหนีไปอีก 1 วง มีมูลค่าเสียหายประมาณ 30-50 ล้านบาท