โดย...ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
.
“บ้ากันไปหมดแล้วประเทศชาติ”
.
นี่คือคำกล่าวของ นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช หลังจากมีคลิปอาหารกลางวันเด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนคร (ทน.) นครศรีธรรมราช ซึ่งมีปริมาณน้อยและไม่เหมาะสมออกมาปรากฏในโลกโซเชียลมีเดีย และกลายเป็นข่าวใหญ่โต จน ทน.นครศรีธรรมราชต้องสั่งย้าย ผอ.โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ไปเก็บไว้ในกรุที่กองการศึกษาเป็นการชั่วคราว ระหว่างที่ให้มีการสอบสวนของคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นมา
.
นายเชาวน์วัศ ระบุว่า คลิปที่หลุดออกมาเป็นการกระทำของคู่แข่งทางการเมือง ที่หวังผลจะทำลายชื่อเสียงของเขา พร้อมกับพาดพิงไปถึง “พรรคอนาคตใหม่” ด้วยว่า วิธีการเช่นนี้เป็นการเล่นการเมืองแบบไม่ต้องหาเสียง แต่ใช้สื่อทำลายตัวเขา เพื่อให้ได้คะแนนเสียงแบบง่ายๆ
.
“ข่าวดีๆ ไม่ลงกันบ้าง แต่ถ้าได้ฟักสัก 2 ชิ้น ไปลงด่าแล้วว่าท่านนายกฯ กินเนื้อไก่หมดแล้ว เหลือแต่ฟักให้นักเรียน บ้ากันไปหมดแล้วประเทศชาติ วันนี้สงครามโซเชียล ผมพูดตรงๆ นะ ฝ่ายต่อสู้ทางการเมืองของผมเขาเล่นการเมืองแบบพรรคอนาคตใหม่ แบบพรรคธนาธร ไม่ต้องลงหาเสียง แล้วใช้สื่อทำลาย แล้วตัวเองจะได้คะแนนเสียง ไม่ต้องลงงานศพ ไม่ต้องไปพบจิตอาสาหรอก ทำหน้าที่อย่างเดียว ส่งสื่อ”
. .
.
แล้วนี่เป็นการทำลายกันทางการเมืองอย่างที่ “นายกเล็กนครศรีธรรมราช” กล่าวไว้จริงหรือไม่..?!
.
นับเวลากลับไปย้อนหาเหตุที่คลิปดังกล่าวหลุดออกมาได้ พบว่า มีคนเห็นว่าคลิปนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งนำคลิปนี้ไปโพสต์ไว้ในกลุ่ม “ประเทศเมืองคอน (นครศรีธรรมราช)” แต่ปรากฏว่าโพสต์ไว้ได้เพียงไม่นานนัก เจ้าของโพสต์ก็รีบลบออกไป ซึ่งภายหลังมีเสียงวิจารณ์ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้คือ “ครู” คนหนึ่งของ “โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์” ที่อึดอัดกับสภาพอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนมานานแล้ว แต่บางคนก็คิดว่าน่าจะเป็น “ผู้ปกครองของเด็ก” ที่ได้คลิปนี้มาจากบุคลากรภายในโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ แล้วนำเอามาโพสต์ไว้
.
แม้ว่าจะมีอาการ “รีบลบ” หลังโพสต์คลิปฉาวนี้ได้ไม่นาน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของบรรดานักรบโซเซียล เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เพจ “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” ก็นำคลิปฉาวนี้ไปโพสต์ใหม่เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2562 พร้อมตั้งชื่อเรื่องไว้อย่างน่าสนใจให้สังคมติดตามว่า “เศษแกงกับวิญญาณฟัก” ก่อนจะตามด้วยการเขียนบรรยายไว้ว่า
.
“ประกิตลดความอ้วนนะ 555” .. “กินเนื้อไก่มากไม่ดี เดี๋ยวมันเป็นมะเร็ง เพราะเนื้อไก่มีสารเร่งมะเร็ง เข้าใจมั้ย ต้องกินผัก เข้าใจมั้ยคะ” คนตักอาหารกล่าวไว้ แกงจืดฟักน้ำโหรงเหรงกับเศษแกงและแตงโม อาหารกลางวันโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ จ.นครศรีธรรมราช ที่ค่าจ้างเหมาทำอาหารกลางวันทั้งปี จำนวน 200 วัน สำหรับปี 62 เป็นเงิน 7,039,500 บาท ตกวันละ 35,197.5 บาท เด็กประมาณพันเจ็ด
.
.
สำหรับ “MGR Online ภาคใต้” ซึ่งนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กมาอย่างต่อเนื่อง ก็ได้นำเสนอเรื่องนี้อย่างทันท่วงทีในวันที่ 1 ก.ค.2562 เช่นกัน จากนั้นก็ได้กลายเป็นข่าวครึกโครมและถูกนำไปเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง
.
ส่งผลให้วันที่ 2 ก.ค.2562 นายจําเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้บริหาร ทน.นครศรีธรรมราช ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากข่าวคลิปฉาวที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนั้น ทน.นครศรีธรรมราชก็ได้มีคำสั่งย้าย นางอำพร ด่านคงรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ ให้พ้นหน้าที่รับผิดชอบไปก่อน โดยให้ไปประจำที่สำนักการศึกษาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานผลการสอบให้ทราบภายใน 7 วัน
.
นอกจากนี้ ในช่วงเที่ยงของวันที่ 2 ก.ค.นั้น นายครรชิต มนูญผล รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช พร้อมบุคลากรทางการศึกษา ได้เข้าทำการตรวจสอบอาหารกลางวันของโรงเรียนดังกล่าว แล้วผลก็ปรากฏออกมาตามที่หลายคนคาดไว้ กล่าวคือ มีการใช้ถาดหลุมสภาพใหม่เอี่ยมมาเป็นภาชนะใส่อาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนแทนจานพลาสติก แล้วภาพอาหารก็มีทั้งแกงไก่ใส่มะเขือ ผัดผัก และขนม ซึ่งแตกต่างจากในคลิปฉาวที่เห็นภาพของการใช้จานเมลามีนสีชมพู อาหารโหรงเหรง ฟักนิด เนื้อไก่หน่อย
.
นายครรชิต ให้สัมภาษณ์สื่อในวันนั้นไว้ว่า เรื่องอาหารกลางวันของนักเรียนโรงเรียนสังกัด ทน.นครศรีธรรมราช มีคณะกรรมการตรวจสอบทุกวันอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องปริมาณอาหาร ความสะอาด และดูว่าตรงตามสัญญาว่าจ้างที่เทศบาลได้ว่าจ้างผู้รับเหมาอาหารกลางวันนักเรียน
.
“ส่วนคลิปที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้น เจ้าหน้าที่เวรตักอาหารในแต่ละวันอาจตักอาหารให้นักเรียนห้องแรกๆ หนักมือไป ทำให้ช่วงหลังปริมาณอาหารลดลง นักเรียนห้องหลังๆ จึงได้อาหารน้อยกว่าปกติ” รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช กล่าว
.
.
ทว่า พ้นมาอีกแค่วันเดียวคือ วันที่ 3 ก.ค.2562 ก็มีข่าวออกมาว่า อาหารกลางวันเด็กไม่ได้จัดเต็มเหมือนวันตรวจ อาหารกลางวันวันนี้มีผัดซีอิ๊ว โปะหน้าด้วยเนื้อบางๆ เมื่อเอาทัพพีคนลงไปด้านล่างก็ไม่พบเนื้อสัตว์เพิ่ม กับข้าวมีต้มซุปโครงไก่ใส่ฟัก ตบท้ายด้วยสับปะรดตัดชิ้นคนละ 1 ชิ้นเท่านั้น
.
นอกจากนี้ ยังมีข่าวอีกว่า ชั้นเรียนที่คณะของ ทน.นครศรีธรรมราชพาไปตรวจนั้นกลับพบว่าเป็นคนละระดับชั้นกันกับที่ปรากฏเป็นข่าวคลิปฉาว โดยมีผู้ปกครองออกมาแฉด้วยว่า ชั้นเรียนที่ปรากฏในคลิปคือ ป.1 แต่ผู้บริหารเทศบาลพาสื่อไปตรวจที่ชั้น ป.2 ซึ่งชั้นเรียน ป.1 ทุกวันนี้ยังใช้จานเมลามีนสีชมพูอยู่ แล้ววันไหนช้อนไม่พอ เด็กๆ นักเรียนชั้น ป.1 เหล่านั้นก็ต้องยกจานขึ้นซดกับปาก
.
หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดปรากฏการณ์ “เอกสารหลุด” ตามมา โดยมีการเปิดเผยเอกสารทางราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ ทั้งเอกสารการจัดซื้อที่มีการจัดจ้างแบบ “วิธีคัดเลือก” ซึ่งสรุปความได้ว่า
.
มีผู้เสนอราคา 3 ราย คือ (1) บริษัท นครศรี เอ็กคลูซีฟ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด เสนอวงเงิน 7,039,700 บาท (2) บริษัท เอส.พี.ซี. 2009 จำกัด เสนอวงเงิน 7,040,000 บาท และ (3) บริษัท ส.รัตนภิญโญ จำกัด วงเงิน 7,039,500 บาท ซึ่งบริษัท ส.รัตนภิญโญ จำกัด ชนะการเสนอราคาบริษัท นครศรี เอ็กคลูซีฟ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ไปเพียง 200 บาท และชนะบริษัท เอส.พี.ซี. 2009 จำกัด เพียง 500 บาทเท่านั้น
.
ทั้งนี้ ราคาที่ชนะกันไม่มากเช่นนี้ ในวงการผู้รับจ้างเหมาเขาเรียกกันว่า “ราคาคู่เทียบ” โดยเอกชนทั้ง 3 รายนี้ยังร่วมกันเข้าเสนอราคาในโครงการอาหารกลางวันที่โรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร ในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเช่นกัน รวมราคาของทั้ง 2 โรงเรียนอยู่ที่ 9,492,000 บาท
.
.
นอกจากนี้ ยังมีเอกสารการตรวจรับงาน โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุระบุว่า งวดงานที่ 2 ไม่ครบถ้วนตามสัญญาจ้างทั่วไป เลขที่ 027/2562 ลงวันที่ 15 พ.ค.2562 ที่โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ ได้ว่าจ้างบริษัท ส.รัตนภิญโญ จำกัด สำหรับโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารกลางวัน โครงการอาหารกลางวัน โดยวิธีคัดเลือก เป็นเงิน 7,039,500 บาท และบันทึกคุณภาพอาหารประจำวันในช่วงเดือน มิ.ย.2562 ก็ระบุตรงกันว่า อาหารไม่ได้คุณภาพครบถ้วนตามหลักโภชนาการหลายวัน ทั้งอาหารไม่ได้คุณภาพ โปรตีนน้อยกว่าที่ควร เนื้อไก่ไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน หรือบางรายการระบุว่า ข้าวเปียก มีเกลือสูง
.
จากการตรวจสอบ 3 บริษัทที่เข้าเสนอราคา พบว่า ทั้ง 3 บริษัทเคยร่วมกันรับจ้างในโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์มาแล้วในช่วงที่โรงเรียนยังประกอบอาหารเอง โดยทั้ง 3 บริษัทได้รับจ้างเมื่อวันที่ 30 ต.ค.2560 ให้จัดส่งวัตถุดิบคนละประเภท ดังนี้ (1) บริษัท นครศรี เอ็กคลูซีฟ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างและบริการเก็บขยะ ได้รับการคัดเลือกให้จัดส่งข้าวสาร จำนวน 330 กระสอบ ในราคา 499,500 บาท
.
(2) บริษัท เอส.พี.ซี.2009 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทด้านสถาปัตยกรรมและการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้อง และตั้งอยู่ที่ อ.ทุ่งใหญ่ ซึ่งห่างจากโรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ ประมาณ 70 กิโลเมตร ได้รับการคัดเลือกให้จัดส่งอาหารแห้ง 12 รายการ ในราคา 269,440 บาท และ (3) บริษัท ส.รัตนภิญโญ จำกัด เมื่อครั้งยังเป็น หจก.ส.รัตนภิญโญ ได้รับการคัดเลือกให้จัดส่งอาหารสด จำนวน 22 วันทำการ ในราคา 494,957 บาท รวมทั้ง 3 รายการเป็นเงินทั้งสิ้น 1,263,897 บาท
.
ทั้ง 3 รายการเป็นที่น่าสังเกตว่า จะมีวงเงินแต่ละรายการไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่ให้ใช้วิธี “ตกลงราคากันได้” ซึ่งแต่เดิมเคยกำหนดไว้ให้มีวงเงินอยู่ที่ 1 แสนบาท
.
.
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า บริษัท นครศรี เอ็กคลูซีฟ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ยังเคยเข้ารับงานจาก ทน.นครศรีธรรมราช หลายรายการดังนี้ ปี 2558 รับเหมาก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) จำนวน 7 รายการ โดยวิธีพิเศษ วงเงินสัญญา 2,719,910.68 บาท ปี 2560 ในเดือน ธ.ค. ทำสัญญากับ ทน.นครศรีธรรมราชอีก 2 โครงการ คือ รับเหมาจัดเก็บขนขยะมูลฝอย ภายในเขต ทน.นครศรีธรรมราช พื้นที่เขต 4 กับพื้นที่เขต 5 วงเงิน 2 สัญญารวมกัน 6,065,139.13 บาท
.
และปี 2561 ในวันที่ 8 พ.ค. ได้รับการว่าจ้างก่อสร้างถนน ค.ส.ล.อีก 4 รายการ คือ (1) ก่อสร้างถนน ค.ส.ล. ซอยเก้า โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ราคา 346,900 บาท (2) ก่อสร้างถนน ค.ส.ล. ซอยเพชรสงค์ 9 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ราคา 206,000 บาท (3) ก่อสร้างถนน ค.ส.ล.ซอยทวดจรึกออก ราคา 372,000 บาท (4) ก่อสร้างถนน ค.ส.ล.ซอย 1 ภูเขาดิน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ราคา 331,000 บาท
.
ยังไม่นับรวมอีก 8 โรงเรียนในสังกัด ทน.นครศรีธรรมราชที่เหลือ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ใน 6 ใน 8 โรงเรียนที่เหลือ มี 2 กลุ่มที่มีเอกชนรายเดียวกันเข้าเสนอราคาในโครงการอาหารกลางวันเช่นกัน กลุ่มแรกมี 4 โรงเรียน ประกอบด้วย (1) โรงเรียนเทศบาลวัดเสาธงทอง อีกหนึ่งโรงเรียนที่มีข่าวว่าได้รับอาหารไม่ได้คุณภาพและไม่เพียงพอ (2) โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ (3) โรงเรียนเทศบาลวัดศาลามีชัย และ (4) โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง งบประมาณรวม 23,764,000 บาท เรียกเอกชนชุดเดียวกัน 3 รายเข้าคัดเลือกคือ (1) น.ส.ณัฐฐิดา (2) น.ส.ลัทธวรรณ และ (3) บุญยงค์บริการ โดยบุญยงค์บริการเป็นผู้คว้างานไปในวงเงิน รวม 23,743,300 บาท ลดราคาให้ 20,700 บาท
.
และกลุ่มสุดท้ายมี 2 โรงเรียนคือ (1) โรงเรียนเทศบาลวัดเสาธงทอง และ (2) โรงเรียนนานาชาติเทศบาลนครนครศรีธรรมราช งบรวม 4,232,000 บาท เรียกมา 3 รายเหมือนกัน คือ (1) นัยนา (2) เกรซ และ(3) ประภัสสร โดยเกรซได้งานไปทั้ง 2 แห่ง วงเงินสัญญารวม 4,126,200 บาท แต่กรณีนี้เสนอลดให้สูงถึง 105,800 บาท
.
รวม 8 โรงเรียนมีงบอุดหนุนค่าอาหารกลางวันรวมกันเฉพาะปีการศึกษา 2562 เป็นเงิน 37,488,000 บาท ทำการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีคัดเลือกเหมือนกันทุกแห่ง ข้อมูลในระบบจัดซื้อจัดจ้างเหมือนว่าต่างคนต่างทำ ต่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างกันเอง แต่ข้อมูลกลับฟ้องว่ามีการจัดการ มีการแบ่งงานและจัดคู่เทียบมาเป็นชุด
.
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่หลั่งไหลออกมาเหมือนเป็นการตอกย้ำว่า โลกทุกวันนี้ยากมากที่จะปกปิดอะไรได้ง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน โลกที่หน่วยงานราชการเองถูกบีบด้วยกฎหมายข้อมูลข่าวสารให้แจ้งและประชาสัมพันธ์โครงการของรัฐ โลกที่หน่วยงานต่างๆ ที่ใช้จ่ายเงินภาษีถูกจับจ้องด้วยประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งมีช่องทางมากมายให้ผู้เกี่ยวข้องที่อึดอัดใจไม่ต้องการเห็นในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ได้ไปขุดคุ้ยแล้วเอา “ของ” ออกมาปล่อยกัน
.
รัฐบาลประกาศดังก้องให้โลกรับรู้ไว้นานแล้วว่า ยุคนี้คือ “ไทยแลนด์ 4.0” ระบบการศึกษาของเราก็ถูกปฏิรูปมาแล้วอย่างต่อเนื่องยาวนานสู่ยุค “โรงเรียน 4.0” แล้วเช่นกัน
.
เครือข่ายสังคมออนไลน์ โซเชียลเน็ตเวิร์ก แม้บางครั้งอาจจะมองเห็นว่ามีเรื่องราวเป็นกระแสที่เหมือนไฟลามทุ่ง มาแล้วก็ไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่บางครั้งก็สามารถ “สั่นสะเทือน” สังคมจนยากที่ใครจะต้านทานได้!!!!
.
