สตูล - ชาวบ้านร้องผู้ว่าฯ สตูล เร่งช่วยเหลือหลังไร้ไฟฟ้ามานาน เด็กทำได้แค่จุดเทียนอ่านหนังสือ ต้องฟังข่าวสารทางวิทยุ แผงโซลาร์เซลล์เครื่องปั่นไฟก็ติดๆ ดับๆ จะเดินทางออกสู่โลกภายนอกก็แสนจะรันทด
วันนี้ (10 ก.ค.) ในพื้นที่ของหมู่ที่ 5 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล ยังพบว่าบ้านทั้ง 3 หลัง มีคนอยู่อาศัย จำนวน 10 กว่าคน ที่ประสบปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้มานานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ต้องทนทุกข์มานานหลายปี และต้องใช้การจุดเทียนและการใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ บ้านอีกหนึ่งหลังใช้เครื่องปั่นไฟที่จะต้องใช้เงินเติมน้ำมันมาเติมเพื่อเป็นพลังงานใช้แรงปั่นไฟใช้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูบ้าน 3 หลังจากการร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวมา พบว่า บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้จริง บ้านทั้ง 3 หลังไม่ได้อยู่ไกลกับตัวเมืองมากนัก แต่ทำไมถึงไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง โดยการสอบถามไปยัง นายสมปอง แซ่เจี่ย อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 5 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล กล่าวว่า ที่บ้านอยู่กัน 4 คน มีเด็กผู้หญิง 1 คน ที่กำลังเรียนหนังสือ และบ้านต้องใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์มาตลอดหลายปี จนถึงลูกหลานก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ หากวันใดฝนตกติดกันหลายวันท้องฟ้าไม่สว่างไฟฟ้าในแผงโซลาร์เซลล์จะไม่มีเลย ก็ต้องซื้อเทียนแท่งมาใช้จำนวนมากหลายแท่ง และหลานสาวก็ต้องเรียนทำการบ้านใช้แสงเทียนส่องแสงสว่างแทน
นอกจากนี้ ที่ยังดูแล้วสุดเวทนา เสื้อผ้านักเรียนต้องหันไปใช้แบบเตารีดโบราณ รีดเสื้อผ้านักเรียนแทนเตารีดไฟฟ้าเพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ สภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าแม้จะมีใช้แต่ก็ดูสภาพเก่าทรุดโทรมเพราะใช้งานไม่ได้ ฟังข่าวสารบ้านเมืองผ่านทางวิทยุเครื่องเก่า ดีทีวีได้เป็นบางวันหากไฟจากแผงโซลาร์เซลล์มากพอในวันที่ไม่มีฝนตก
นายสมปอง แซ่เจี่ย อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 5 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล จึงวอนขอให้ผู้ใหญ่ใจดีในภาครัฐระดับจังหวัด ขอให้เข้าช่วยเหลือให้บ้านตนเองและเพื่อนบ้านอีก 3 หลัง ให้มีไฟฟ้าใช้งานด้วย
เช่นเดียวกับทางด้าน นายสมนึก พุฒิไพศาลภิวัฒน์ อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 139 หมู่ที่ 5 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล กล่าวว่า ตนเองเป็นอีกหนึ่งบ้านที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นกัน โดยมีเครื่องปั่นไฟฟ้าไว้ใช้ปั่นไฟฟ้าในช่วงเย็น และใช้ดูข่าวสารเพียงไม่กี่ชั่วโมงและรีบปิด รวมทั้งการชาร์จแบตโทรศัพท์ก็ต้องรีบชาร์จ อีกทั้งเครื่องปั่นไฟดูสภาพที่เก่าถ้าใช้ปั่นนานเสี่ยงพัง เคยยื่นฎีกาขอความช่วยเหลือไปแล้วเมื่อปี 2559
ด้าน นายฉาฝีอี สัมพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.กำแพง ได้เดินทางเข้ามาดูและชี้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า มิได้ปล่อยทิ้งไว้ให้ลูกบ้านเดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้ เพียงแต่ว่าปัญหาคือเส้นทางระหว่างการเดินทางมายังพื้นที่บ้าน 3 หลังนี้ เส้นทางเข้ามาติดกับพื้นที่ของนายทุนเจ้าของที่ดินส่วนตัว จึงเกิดปัญหาการปักเสาไฟฟ้าไม่ได้ แม้ว่าเจ้าของที่ดินบางรายได้อนุญาตให้ใช้ได้ แต่ก็ยังมีเจ้าของที่ดินบางรายไม่อนุญาตแต่ให้ใช้เส้นทางอื่นแทน
โดยระยะทางจากจุดเสาไฟฟ้าที่ปักเข้ามาไม่ถึงจนสุดเส้นทางถึงบ้านทั้ง 3 หลังระยะทาง 1,000 เมตร และพบว่าเจ้าของที่ดินส่วนตัวมีถึง 6 ราย แต่เพียงอีก 1 รายที่ยังไม่ให้พื้นที่ในการทำเสาไฟฟ้า เพราะปัญหาจริงๆ อยู่ที่เจ้าของที่ดินส่วนตัวอนุญาตให้ใช้ที่ดินปักเสาไฟฟ้าทำถนนนั่นเอง เพียงพื้นที่ดินส่วนใหญ่เป็นสวนยางพาราของชาวบ้าน หากทำจะต้องตัดต้นไม้หรือแบ่งแยกเป็นถนนออกมา
นอกจากนี้ ชาวบ้านทั้ง 3 หลังดังกล่าวเคยยื่นหนังสือฎีกาให้ทางสำนักพระราชวังมาแล้วเมื่อปี 2559 เพื่อขอความช่วยเหลือ และทางองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง ก็กำลังเร่งหางบประมาณช่วยเหลือทำเส้นทางถนนเพื่อปักเสาไฟฟ้า แต่ทุกวันนี้ยังหาข้อสรุปการช่วยเหลือไม่ได้มากนัก เพราะทางเจ้าของที่ดินอีก 1 ราย เขาให้ใช้อีกหนึ่งเส้นทางที่ไกลและลำบาก จึงต้องทำการพูดคุยเจรจาใหม่อีกครั้ง ทำให้ปัจจุบันนี้ ชาวบ้านทั้ง 3 หลังวอนผ่านทางสื่อมวลชน ช่วยให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เร่งช่วยเหลือเป็นการด่วน
