xs
xsm
sm
md
lg

เงินออมเด็กยังอมได้! “ออมทรัพย์ ออมความดี” โรงเรียนอนุบาลช้าง พังงา ฉาวโฉ่ เมื่อครูยักยอกเงินเด็กเกือบ 2 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ครูอมเงินฝากออมทรัพย์ในโครงการ “ออมทรัพย์ ออมความดี” ของนักเรียนชั้นอนุบาล 1-3 โรงเรียนอนุบาลช้าง สังกัดเทศบาลเมืองพังงา ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ของโรงเรียนช้างได้เลื่อนขั้นขึ้น ป.1 และบางคนได้ย้ายไปเรียนโรงเรียนอื่น ผู้ปกครองจึงได้สอบถามเรื่องเงินฝากของเด็กๆ เพื่อขอเงินออมคืน เนื่องจากเด็กไม่ได้เรียนที่เดิมแล้ว

เรื่องมาแดง...เมื่อผู้ปกครองเด็กอนุบาล 3 ทวงเงินออมของเด็กคืน ครูผู้รับผิดชอบไม่สามารถคืนเงินให้ผู้ปกครองได้ครบตามที่ฝากไว้ ทำให้ผู้ปกครองไม่พอใจต่ิพฤติกรรมของครูผู้รับผิดชอบเงินออมในโครงการดังกล่าว มีการทวงถามไปหลายๆ รอบ ก็ยังไม่ได้รับเงินคืน

เพจดังเมืองพังงา “พังงา น่าอยู่” ได้นำเรื่องราวการอมเงินเด็กอนุบาลมาตีแผ่แฉถึงพฤติกรรมของครูอนุบาลยักยอกเงินฝากเด็กอนุบาล รวม 2,000,000 บาท ให้สังคมได้รับรู้กับสิ่งทีเกิดขึ้น

โดยโรงเรียนอนุบาลช้าง ในสังกัดเทศบาลเมืองพังงา ได้จัดโครงการเงินธนาคารโรงเรียนของเด็กอนุบาล 1-3 ตามโครงการ “ออมทรัพย์ ออมความดี” ให้เด็กอนุบาลนำเงินมาฝากกับทางโรงเรียนทุกๆ วันศุกร์ ตั้งแต่อนุบาล 1 ถึง 3 รวมๆ หลังจากนั้น ครูที่รับผิดชอบโครงการจะนำเงินออมของเด็กไปฝากต่อยังสหกรณ์ออมทรัพย์ครู สาขาพังงา โดยเด็กแต่ละคนจะมีเงินออมประมาณ 15,000 บาท เมื่อจบอนุบาล 3

ปีที่ผ่านๆ มา ปัญหาไม่เกิดขึ้น สามารถคืนเงินให้เด็กที่จบอนุบาล 3 ได้ เนื่องจากครูผู้รับผิดชอบโครงการได้นำเงินฝากของเด็กอนุบาล 1 และ 2 มาจ่ายให้เด็กอนุบาล 3 ที่จบการศึกษา แต่ปีนี้เงินออมเด็กอนุบาล 3 สูงกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถจ่ายคืนได้ทั้งหมด จนเกิดปัญหาผู้ปกครองไม่ได้รับเงินคืนทั้งหมด สร้างความเดือดร้อน เพราะเงินออมก้อนนี้ผู้ปกครองต้องการออมไว้เพื่อเก็บไว้ให้ลูกเข้าเรียนต่อ ป.1

เมื่อผู้ปกครองสอบถามไปยังโรงเรียนก็ไม่ได้คำตอบ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยืนกระต่ายขาเดียว ไม่รู้ไม่เห็น และไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น

ขณะที่ทางโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองไปหารือเรื่องที่เกิดขึ้น และแจ้งว่าครูผู้รับผิดชอบกำลังทยอยคืนเงินที่เหลือให้ผู้ปกครองไปบ้างแล้วกว่า 1 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยคืนให้ทั้งหมด โดยเงินทั้งหมดที่ถูกยักยอกไปเกือบๆ 2 ล้านบาท

โดยตกลงกันว่า ครูผู้รับผิดชอบจะจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ปกครองที่ยังไม่ได้รับเงินออมคืนอีกเกือบ 100 คน รวมเงินประมาณ 1 ล้านบาท ในวันที่ 30 มิ.ย.2562 แต่ถึงวันนัดชำระเงินคืนผู้ปกครองกลับไม่ได้รับเงินคืนทั้งหมด ได้เฉพาะบางส่วนเท่านั้น ยังเหลือผู้ปกครองที่ไม่ได้รับการคืนเงินอีกกว่า 100 คน ยอดเงินกว่า 1 ล้านบาท ทำให้ผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 2 และอนุบาล 3 ต้องเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อครูเจ้าของโครงการ และเรียกร้องให้โรงเรียนร่วมรับผิดชอบ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองพังงา

ก่อนที่จะยื่นหนังสือต่อ นายวิรัช ตั๋นสกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพังงา นายมนัส หนูรักษ์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา และ น.ส.ลัดดาวรรณ เดชประสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดพังงา เพื่อขอความเป็นธรรม โดยหวังจะได้เงินออมของเด็กๆ คืนมา ตามความมุ่งหวังที่ได้ตั้งใจไว้

ผู้ปกครองเด็กรายหนึ่ง ระบุว่า เริ่มฝากเงินกับโครงการออมทรัพย์ ออมความดี ตั้งแต่ลูกเข้าเรียนชั้นอนุบาล 1 ซึ่งครูประจำชั้นแจ้งให้ผู้ปกครองฝากเงินทุกๆ วันศุกร์ ซึ่งผู้ปกครองทุกคนเข้าใจว่าเป็นโครงการของโรงเรียน เพราะจะมีสมุดฝากเงินประจำตัวของเด็ก จึงได้ฝากเงินให้ลูกทุกอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้สงสัยอะไร

“ทราบว่ามีการยักยอกเงิน เมื่อผู้ปกครองเด็กที่เรียนจบชั้นอนุบาล 3 เข้ามาขอถอนเงินแล้วไม่ได้ จึงทำให้ผู้ปกครองทั้งหมดขอตรวจสอบยอดเงินฝากและถอนเงินปิดบัญชี เลยทำให้พบว่ามีการยักยอกเงินฝากของเด็กรวมแล้วเกือบ 2 ล้านบาท และทางโรงเรียนได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ อ้างว่าเป็นการกระทำโดยส่วนตัวของครูเจ้าของโครงการ” ผู้ปกครอง ระบุ

แต่ก็มีความพยายามเจรจากันมาอย่างต่อเนื่อง ครูที่รับผิดชอบได้คืนเงินจำนวนหนึ่งแก่ผู้ปกครองบางส่วนแล้ว ยังคงเหลือผู้ปกครองอีกกว่า 100 คน ที่ยังไม่ได้คืน รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท จึงอยากจะขอให้ทางโรงเรียนออกมารับผิดชอบด้วย

ในขณะที่เทศบาลเมืองพังงา ออกมาปฏิเสธว่าไม่ทราบไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นการดำเนินการของโรงเรียน ซึ่งนายจงรักษ์ ผิวขำ ปลัดเทศบาลเมืองพังงา ระบุว่า เทศบาลเมืองพังงาไม่ทราบว่าโครงการ ออมทรัพย์ ออมความดี เกิดขึ้นที่โรงเรียนในสังกัด แต่เมื่อเกิดเหตุผู้ปกครองทวงเงินคืนจากทางเทศบาลเมืองพังงา จึงได้สอบถามและพบว่าเกิดขึ้นจริง จากครูเจ้าของโครงการ โดยมี ผอ.โรงเรียนในขณะนั้น และคุณครูอีกท่านทราบเรื่อง เพียงแต่โครงการดังกล่าวไม่พบว่ามีระเบียบหรือกฎหมายบังคับให้ชัดเจน ซึ่งสามารถมอบหมายให้ครูเจ้าของโครงการเพียงท่านเดียวสามารถเบิกจ่าย ฝากถอนเงินได้อย่างอิสระ ระบบการตรวจสอบไม่เข้มงวด จึงเกิดการกระทำความผิดในส่วนของครู

“ทางเทศบาลเมืองพังงาไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อทราบเหตุจึงได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีการกระทำความผิดอย่างร้ายแรงจริง ล่าสุด ทางเทศบาลเมืองพังงาได้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อครู 1 ท่าน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบวินัยร้ายแรง ทางเทศบาลเมืองพังงาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายได้" ปลัดเทศบาลเมืองพังงา ระบุ 

ขณะที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูพังงา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับฝากเงินตามโครงการออมทรัพย์ ออมความดี ออกมาปฏิเสธเช่นกันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการอมเงินออมเด็กอนุบาลแต่อย่างใด โดยนางยินดี ชาญณรงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูพังงา จำกัด ระบุว่า โครงการออมทรัพย์ ออมความดี เป็นโครงการส่งเสริมให้เด็กมีการออม มุ่งหวังให้เด็กได้มีเงินฝาก เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาในการเรียนระดับที่สูงขึ้น ในจังหวัดพังงามีโรงเรียนเข้าร่วมหลายโรงเรียน แต่เพิ่งพบว่ามีปัญหาที่โรงเรียนนี้เท่านั้น โดยในการฝากถอนเงินนั้นเป็นไปตามระเบียบทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้ และขอยืนยันว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูพังงาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตของครูในโรงเรียนนี้

ด้าน พ.ต.อ.สมปอง บุญรักษ์ ผกก.สภ.เมืองพังงา กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ปกครองเด็กอนุบาลที่ได้รับความเสียหายจากโครงการออมทรัพย์ ออมความดี ของโรงเรียนอนุบาลช้าง เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อครูผู้รับผิดชอบโครงการแล้ว จำนวน 52 ราย โดยผู้ปกครองที่เสียหายสามารถเข้าแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา และขณะนี้ได้เรียกรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน และครูที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับคดียักยอกทรัพย์ซึ่งเป็นคดีอาญาที่สามารถยอมความได้ จากนี้ทางพนักงานสอบสวนพร้อมดำเนินการสอบปากคำผู้ปกครองก่อน จากนั้นจะดูว่าการกระทำผิดดังกล่าวเข้าข่ายเป็นเรื่องเฉพาะตัวหรือไม่ หากพบมีการนำตำแหน่งหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้องต้องส่งให้ทาง ป.ป.ช.หรือ ป.ป.ท.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โครงการออมทรัพย์ ออมความดี เป็นโครงการดีๆ ที่ส่งเสริมให้เด็กรู้จักการออม รู้จักประหยัด เก็บออมตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักประหยัด อดออม หน้าที่ครูต้องส่งเสริมให้เด็กได้รู้จักการออม ไม่ใช่ยักยอกเงินออมเด็กเสียเอง “เงินออมเด็กยังโกงได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น