xs
xsm
sm
md
lg

สุดทน! สมาชิกสหกรณ์บ้านหัวแหลม บุกยื่นหนังสือถอดถอนกรรมการยกชุด หลังพบถอนเงินใช้ส่วนตัว 3 แสนบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุราษฎร์ธานี - สมาชิกสหกรณ์เคหสถานบ้านหัวแหลม เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี กว่า 40 คน สุดทน บุกยื่นหนังสือถอดถอนกรรมการสหกรณ์ฯ ยกชุดรอบ 2 ต่อสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากยื่นถอดถอดไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ไม่มีผล

จากกรณีชาวบ้านหัวแหลมฝ่ายท่าบางใบไม้ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี กว่า 50 คน ได้รวมตัวเข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.วิโรจน์ ไกรเดช อดีตนายตำรวจคนดังของภาค 8 และ พ.ต.อ.สมพล รัฐกาญจน์ อดีตอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 4 (กสม.) โดยชาวบ้านระบุว่า พวกตนซื้อบ้านและที่ดินจากสหกรณ์เคหสถานบ้านหัวแหลมเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จำกัด ที่ดำเนินการจัดสรรขายให้ชาวบ้านตามโครงการบ้านมั่นคงของรัฐ ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (มหาชน) ที่ดำเนินการโดย สหกรณ์เคหสถานบ้านหัวแหลม ที่ทำโครงการของบสนับสนุนจาก พอช. ในที่ดิน น.ส.3ก. จำนวน 7 ไร่ 3 ตารางวา โดยดำเนินการแบ่งขายเป็น 2 เฟส เฟสแรกได้ขายที่ดินเปล่าให้แก่ประชาชนที่มีบ้านอาศัยเดิม และเฟสที่ 2 ขายทั้งบ้านและที่ดิน ในพื้นที่ 15-19 ตารางวา แต่ละแปลงราคาไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 400,000 บาทเศษ จนถึง 500,000 บาทเศษ โดยให้ชาวบ้านผ่อนมาตั้งแต่ ปี2554 จนถึงปัจจุบันโดยไม่มีการทำสัญญาซื้อขาย

เมื่อสอบถามทางคณะกรรมการสหกรณ์ต่างบ่ายเบี่ยงและนิ่งเฉยไป ล่าสุด บางรายผ่อนเกือบหมดจะขอปิดบัญชีเพื่อโอนที่ดิน ปรากฏว่าไม่สามารถโอนได้ บางรายผ่อนไปเกือบหมดแต่เมื่อถามสัญญาซื้อขายกลับถูกบอกขึ้นราคาบ้านอีกกว่า 100,000 บาท ทั้งที่บ้านก็สร้างไม่เสร็จ หากจะเข้าอยู่ก็จะต้องเสียเงินต่อเติมตัวบ้าน บางรายอยากได้บ้านและอยากเข้าอยู่อาศัยต้องไปกู้เงินนอกระบบ เสียดอกเบี้ยร้อยละ 20 แต่สุดท้ายก็เข้าอาศัยไม่ได้ เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา จนต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องกลับเงียบหาย สุดท้ายต้องพึ่งพาสื่อเป็นสื่อกลางเพื่อสะท้อนความจริงให้หน่วยงานตื่นตัวลงมาดูแลแก้ไข

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการได้นัดหมายให้สมาชิกมารับเอกสารคู่สัญญาการซื้อขายบ้านและที่ดินให้แก่สมาชิก พร้อมจัดการเคลียร์ปัญหาเรื่องการเบิกเงินของสมาชิกออกจากบัญชีโดยสมาชิกไม่รู้เรื่อง

วันนี้ (8 ก.ค.) สมาชิกสหกรณ์เคหสถานบ้านหัวแหลม เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จำกัด ได้มอบอำนาจให้ นางขนิษฐา รัฐกาญจน์ ทนายความ เลขาธิการชมรมผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน เป็นผู้ที่เจรจาแก้ไขปัญหาเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยมี น.ส.มนิดา ลิ่มนิจสรกุล ผู้อำนวยการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัวแทนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) นายนริศ นพคุณ ผอ.กลุ่มส่งเสริมและสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางลงมาเป็นสักขีพยานในการเจรจาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางคณะกรรมการได้นำเอกสารคู่สัญญามอบให้แก่สมาชิกบางส่วน ซึ่งทำให้สมาชิกต่างพึงพอใจซึ่งทุกคนบอกว่าตั้งแต่เซ็นซื่อในการซื้อขายที่ดินและบ้านมาตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 10 ปี ไม่มีโอกาสได้หากไม่ออกมาเคลื่อนไหวกดดันผ่านสื่อ

นอกจากนั้น สมาชิกสหกรณ์ฯ ได้ลงรายชื่อยื่นถอดถอนคณะกรรมการบริหารสหกรณ์เคหสถานบ้านหัวแหลม จำกัด เนื่องจากไม่พอใจ นางปนัดดา หนูจันทร์ กรรมการ (อดีตประธานสหกรณ์ฯ) ได้ถอนเงินจากบัญชีสหกรณ์ฯ จำนวน 310,000 บาท ไปใช้จ่ายส่วนตัวมาตั้งแต่ปี 2557 โดยไม่มีการชี้แจงต่อสมาชิก

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 ก.ค.) น.ส.จิดาพา น้อยเจริญ กรรมการผู้ตรวจสอบสหกรณ์เคหสถานบ้านหัวแหลม เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จำกัด พร้อมสมาชิกกว่า 40 คน และนางขนิษฐา รัฐกาญจน์ ทนายความ เลขาธิการชมรมผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน พ.ต.อ.วิโรจน์ ไกรเดช ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ชุมชนบ้านหัวแหลม ได้เข้ายื่นหนังสือติดตามคำร้องขอถอดถอนคณะกรรมการบริหารสหกรณ์เคหสถานบ้านหัวแหลม เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จำกัด ทั้งชุด ต่อผู้อำนวยการสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ผู้อำนวยการติดราชการ จึงมอบหมายให้ นางวิภารัตน์ เดชบุญญาภิชาติ นักวิชาการชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ ลงมารับหนังสือแทน โดยระบุว่า ระเบียบขั้นตอนจะต้องตรวจสอบหนังสือเอกสารรายละเอียดต่างๆ ประมาณ 7 วัน และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน ในการดำเนินการแต่จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสหกรณ์ประกอบอีกด้วย

ด้าน น.ส.จิดาพา เปิดเผยว่า จากการตรวจของผู้ตรวจสอบบัญชี พบว่า กรรมการมีการถอนเงินจากบัญชีไป จำนวน 310,000 บาท ไปใช้จ่ายโดยไม่มีรายละเอียด ประกอบการเบิกจ่ายมาประมาณปี 2557 เมื่อสอบถาม นางปนัดดา แต่ไม่ได้รับคำตอบตนจึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อ ร.ต.อ.วินัย เกิดสุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 ให้ดำเนินคดีต่อ นางปนัดดา หนูจันทร์ และนางฤทัย สบู่ม่วง ในข้อหาร่วมกันยักยอกเงินสหกรณ์ฯ จำนวน 300,000 บาท และขอให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งทางสมาชิกสหกรณ์จะรวมตัวเดินทางไปสอบถามความคืบหน้าเรื่องคดีต่อ พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวสิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น