ยะลา - เกษตรกรเจ้าของสวนศักดิ์ศรี พื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เผยทุเรียนสายพันธุ์โอวฉี หรือหนามดำ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมไม่แพ้สายพันธุ์มูซังคิง เนื้อละเอียดเนียน เมล็ดเล็ก อร่อยหวานมัน
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่สวนศักดิ์ศรี หมู่ที่ 2 หมู่บ้านบ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา นายศักดิ์ศรี สง่าราศรี เจ้าของสวนศักดิ์ศรี บอกว่า ขณะนี้ทุเรียนโอวฉีหรือหนามดำ กำลังเป็นที่นิยมในการบริโภคและนำไปปลูกกันมาก โอฉี่ หรือหนามดำ ซึ่งเป็นทุเรียนที่มีการปลูกกันมาก รองลงมาจากทุเรียนสายพันธุ์ “รายากูหงิด” หรือ “มูซังคิง” ในรัฐปีนัง และรัฐกลันตันของประเทศมาเลเซีย
โดย “ทุเรียนโอวฉี” เกิดจากการที่ นายเหลียว เชือก เกี๋ยง หรือมิสเตอร์เกี๋ยง นำเอาเมล็ดทุเรียนไม่ทราบพันธุ์จากประเทศไทยเมื่อ 30 ปีก่อนไปปลูกจนต้นโตติดผลดกเต็มต้น มีทรงผลสวย เปลือกบาง เมล็ดเล็ก เนื้อสุกเป็นสีเหลืองอมส้มเหมือนทองคำ เนื้อละเอียดเนียน รสชาติหวานมันและหวานแหลม มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อเยอะ ซึ่งมีลักษณะเด่นของพันธุ์โดยสังเกตที่ไส้แกนกลางจะมีไส้สนิมอยู่ ผลของทุเรียน และที่ก้นทุเรียนต้องมีสีดำ อันเป็นลักษณะเด่นที่ไม่พบเห็นในทุเรียนสายพันธุ์อื่นทั่วไป
ที่สำคัญ “ทุเรียนโอวฉี” หรือ “ทุเรียนหนามดำ” จัดเป็นสายพันธุ์เบา หมายถึงมีดอก และติดผลได้ง่ายหลังปลูกเพียงแค่ 4-5 ปี สามารถมีดอกและติดผลได้แล้ว น้ำหนักผลเฉลี่ยระหว่าง 2-3 กิโลกรัม และไม่มีรสขม ราคาที่หน้าสวนอยู่ที่ 650 บาทต่อกิโลกรัม น้ำหนักเฉลี่ยลูกละ 3.5-5 กิโลกรัม ราคาต่อลูกจึงอยู่ที่ 2,000-3,250 บาทโดยประมาณ
เมื่อนำผลผลิตออกจำหน่ายได้รับความนิยมจากผู้ซื้อมาเลเซีย สิงคโปร์ และคนไทยอย่างกว้างขวาง โดยมีราคาหน้าสวนระหว่างกิโลกรัมละ 600-650 บาท และเมื่อส่งเข้าประกวดจนได้รับรางวัลแชมเปี้ยน 4 ปีซ้อน ที่กรมวิชาการเกษตรของมาเลเซียจัดขึ้นที่รัฐปีนัง และได้รับความนิยมจากชาวสวนเกษตรกรอย่างแพร่หลายในประเทศมาเลเซีย กับทุเรียนเพาะเมล็ดของ นายเหลียว เชือก เกี๋ยง หรือมิสเตอร์เกี๋ยง ได้จดทะเบียนรับรองพันธุ์ ในชื่อทุเรียนโอวฉี หรือหนามดำ
นายศักดิ์ศรี สง่าราศรี เจ้าของสวนศักดิ์ศรีเบตง บอกว่า หลังได้ศึกษาทุเรียนโอวฉี หรือหนามดำ จนเป็นที่สนใจ จึงตัดสินใจแตกแขนงธุรกิจเกษตร เพาะต้นกล้าโอวฉีเป็นคนแรกๆ ที่ผลิตต้นกล้าพันธุ์ทุเรียน “โอวฉี” โดยเอากิ่งพันธุ์จากสวนทุเรียนของ นายเหลียว เชือก เกี๋ยง หรือมิสเตอร์เกี๋ยง อยู่ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นแม่พันธุ์นำเข้า ทั้งนี้ มิสเตอร์เกี๋ยงได้เดินทางมาถึงสวนเพื่อดูการเพาะปลูกให้เป็นไปตามต้นกำเนิดสายพันธุ์ จนเจ้าของสายพันธุ์การันตี
โดยได้นำกล้าพันธุ์โอวฉีมาเพาะปลูกจนมีดอกและติดผลดกเป็นธรรมชาติ ต่อมา ได้มีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีเสียบยอดออกวางขาย ซึ่งได้รับความนิยมจนมีผู้มาติดต่อซื้อกล้าพันธุ์โอวฉีนำไปปลูกอย่างกว้างขวาง ไม่แพ้ “ทุเรียนมูซังคิง” ราคาอยู่ในระดับเดียวกัน ปัจจุบันทุเรียนทั้ง 2 ชนิด มีการปลูกเป็นการพาณิชย์เพื่อเก็บผลส่งต่างประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ประเทศในแถบยุโรป และอเมริกา ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมาก ใครต้องการต้นพันธุ์ไปปลูกติดต่อได้ที่คุณศักดิ์ศรี โทร.09-8016-2806 และคุณไกรวุฒิ 08-6347-5765