สสจ.นครศรีฯ แจงบันทึกการตรวจชัดอยู่ในข่าย “ยังสรุปไม่ได้” หลังสาวอ้างหมอตรวจผิดติดเชื้อเอชไอวี

 
นครศรีธรรมราช - นายแพทย์ สสจ.นครศรีธรรมราช แจงข้อมูลอีกด้านสาวอ้างหมอตรวจเชื้อเอชไอวีผิดพลาด เผยแพทย์ผู้ตรวจไม่เคยระบุเป็นผู้ติดเชื้อ บันทึกการตรวจชัดเจนอยู่ในข่าย “ยังสรุปไม่ได้” เหตุเจ้าตัวไม่มาตามนัดเพื่อตรวจเลือดตามมาตรฐาน

ภายหลังจากที่ นางมณีรัตน์ คงหอม ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวหาโรงพยาบาลทุ่งสง กรณีการตรวจเลือดพบเชื้อ HIV มีความคลาดเคลื่อน โดยสังคมให้ความสนใจต่อเรื่องนี้อย่างมาก

ล่าสุด นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดแถลงผลการรวบรวมข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อข้อร้องเรียนเรื่องนี้ ยืนยันว่า การให้ข้อมูลการร้องเรียนของนางมณีรัตน์ รวมทั้งการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรืออาจกล่าวได้ว่า พูดไม่หมด การบันทึกผลตรวจของแพทย์นั้นระบุภาษาแพทย์เพียงว่า “In conclusive” หรือเป็นลักษณะผลของการตรวจที่ “ยังสรุปไม่ได้” เหตุเพราะนางมณีรัตน์ ไม่ได้รับการตรวจอย่างครบถ้วนตามมาตรฐานสากลที่ควรได้รับการตรวจ ด้วยเหตุนางมณีรัตน์ ปฏิเสธการตรวจ และไม่มาพบแพทย์ตามนัดถึง 2 ครั้ง จากการคลอดบุตรหลังจากการตั้งครรภ์ที่ 4 และครรภ์ที่ 5 ของผู้ร้องรายนี้

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ชี้แจงขั้นตอนการตรวจว่า นางมณีรัตน์ ได้เข้าคลอดที่โรงพยาบาลทุ่งสง ในครรภ์ที่ 4 เมื่อมกราคม 2557 โดยไม่ได้มีการฝากครรภ์มาตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ แพทย์จึงต้องทำการตรวจเลือดตามขั้นตอนมาตรฐานสากลในการตรวจเลือดฉุกเฉินเพื่อหาเชื้อ HIV ด้วยวิธีการ “แรพพิด เทสต์” (Rapid Test) ครั้งแรกมีผลเป็นบวก และตามด้วยการยืนยันผลด้วยวิธี “อีไลซา” (Elisa) มีผลเป็นลบ เมื่อพบลักษณะเช่นนี้ ตามมาตรฐานจะต้องตรวจใหม่ซ้ำอีกครั้ง การตรวจซ้ำได้ผลเช่นเดิม แต่เพื่อให้นางมณีรัตน์ ได้รับประโยชน์สูงสุดในการคลอดบุตรจะต้องได้รับยาต้านไวรัส เพื่อป้องกันทั้งนางมณีรัตน์ และบุตร หลังจากคลอดจะต้องได้รับการตรวจซ้ำตามนัดคือวันที่ 11 ก.พ.2557 นางมณีรัตน์ ผู้ร้องมาตามนัด แต่ปฏิเสธการตรวจ จึงนัดใหม่มาในวันที่ 26 ก.พ.2557 ปรากฏว่านางมณีรัตน์ ไม่มาตามนัด และไม่ติดต่อโรงพยาบาลอีกเลย
 

 
ต่อมา ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ห่างกัน 1 ปี นางมณีรัตน์ กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งหลังจากเจ็บครรภ์ที่ 5 แพทย์ได้ตรวจเลือดตามขั้นตอนเดิมด้วย 2 วิธีการแรกได้ผลเช่นเดิม ซึ่งยังไม่สามารถชี้ชัดได้ หลังจากที่คลอดรักษาตัวแพทย์ได้ให้ยาเช่นเดิม หลังจากนั้นได้ออกจากโรงพยาบาลไปหลังพักรักษาตัว 2 วัน แต่ปรากฏว่า นางมณีรัตน์ ไม่มาติดตามหลังคลอดตามแผน โรงพยาบาลพยายามติดต่อนางมณีรัตน์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้

“จนกระทั่งวันที่ 22 มกราคม 2562 โรงพยาบาลทุ่งสง ได้รับทราบว่ามีการร้องเรียน โดยผู้ร้องอ้างว่าชื่อของผู้ร้องไปปรากฏเป็นข้อมูลในระบบสารสนเทศให้บริการผู้ติดเชื้อ HIV ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ ทำให้ได้รับผลกระทบ จึงเรียกค่าสินไหมทดแทน 250,000 บาท หลังจากนั้นเมื่อโรงพยาบาลได้รับหนังสือ จึงติดตามผู้ร้องจนกระทั่งติดต่อได้เมื่อ 4 มิถุนายน 2562 ต่อมา มีการเจรจาทำความเข้าใจพร้อมทั้งทำบันทึกร่วมกัน และนางมณีรัตน์ รับว่าเป็นผู้ผิดเองที่ไม่ได้มาตามนัดของโรงพยาบาล ขณะที่โรงพยาบาลได้เตรียมใช้เงินกองทุน จำนวน 50,000 บาท เพื่อแสดงความเอื้ออาทรต่อผู้ป่วย พร้อมทั้งได้นำผู้ป่วยทำการตรวจเลือดใหม่ตามมาตรฐานอย่างครบถ้วนที่โรงพยาบาลทุ่งสง และโรงพยาบาลมหาราช ปรากฏว่าได้ผลทั้ง 2 ที่ตรงกัน คือ ครั้งแรกเป็นบวก ครั้งที่ 2 เป็นลบ และตรวจครั้งสุดท้ายเพื่อยืนยันปรากฏผลเป็นลบ คือไม่ปรากฏเชื้อ”

นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังกล่าวด้วยว่า เงินจำนวน 50,000 บาท นางมณีรัตน์ ยังไม่ได้มารับ แต่ได้ไปเคลื่อนไหวอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ครบทำให้เกิดการเข้าใจผิด และเกิดผลเสียต่อโรงพยาบาลทุ่งสง ยืนยันว่าโรงพยาบาลทุ่งสงปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานสากล สถิติผู้ป่วยที่คลอดตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จำนวนมากถึง 11,436 คน พบปรากฏการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกเพียง 1 คนเท่านั้น ตัวเลขนี้ถือเป็นมาตรฐานดีระดับโลกด้วยซ้ำ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับผู้ที่ติดตามเรื่องนี้โดยมีข้อมูลที่ครบถ้วน