ย้อนไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา ตามท่าเรือต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เรือท่องเที่ยวได้นำนักท่องเที่ยวออกจากฝั่งเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ในทะเลอันดามัน ทั้งในจังหวัดภูเก็ต พังงา และ กระบี่ ท่ามกลางอากาศที่แจ่มใสเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา แม้ว่าขณะนั้นจะเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีชั่นหรือช่วงหน้าฝนของภูเก็ตแล้วก็ตาม
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น และนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมหาศาลต่อการท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดภูเก็ต เมื่อเรือท่องเที่ยวต่างๆ ที่นำนักท่องเที่ยวออกไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่ง ต้องนำนักท่องเที่ยวกลับขึ้นฝั่งในช่วงบ่ายหลังจากที่นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ทั้ง ดำน้ำดูปากะรัง รับประทานอาหารเที่ยง ตามโปรแกรมวันเดย์ทริปที่เรือแต่ละลำจัดไว้บริการ
เช่นเดียวกับเรือนำเที่ยว “ฟินิกซ์” ซึ่งเป็นเรือนำเที่ยวแบบวันเดย์ทริป เช่นกัน ได้นำนักท่องเที่ยวชาวจีนพร้อมลูกเรือกว่า 90 ชีวิต ออกจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลองในช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.ค.2561 มุ่งหน้าสู่เกาะราชาใหญ่ ตามโปรแกรมทัวร์ที่กำหนดไว้ และมีกำหนดเดินทางนำนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลองในช่วงเย็นวันเดียวกัน
เมื่อเรือฟินิกซ์มุ่งหน้าสู่อ่าวฉลองในช่วงบ่ายแก่ๆของวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา สิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ว่าภัยพิบัติกำลังจะคืบคลานเข้ามา ก็เกิดขึ้น เมื่อเรือฟินิกซ์มาถึงจุดที่อยู่ห่างจากเกาะเฮประมาณ 2 ไมล์ทะเล เกิดสภาพอากาศแปรปรวนกะทันหัน คลื่นลมแรงในทะเลสูง 4-5 เมตร กัปตันได้ตัดสินใจนำเรือฟินิกซ์พร้อมผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวจีนและลูกเรือกว่า 90 ชีวิต ผ่าคลื่นมรสุมหวังไปให้ถึงเป้าหมายท่าเทียบเรืออ่าวฉลองอย่างปลอดภัย แต่เรือไม่สามารถทนต่อคลื่นขนาดใหญ่ที่ถาโถมเข้าใส่ได้ เรือเสียการทรงตัว ค่อยๆเอียง และนำทะเลทะลักอย่างรวดเร็ว เรือกำลังจะอับปางกลางทะเล
ลูกทัวร์ใส่เสื้อชูชีพกระโดดลงไปลอยคออยู่กลางทะเลท่ามกลางคลื่นลมแรง รอการช่วยเหลือ ก่อนจะสละเรือ และเรือก็ค่อยๆ จมดิ่งสู่ก้นทะเล เรือทัวร์ และเรืออื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้นเข้าช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้ทั้งหมด ลูกทัวร์บางคนถูกคลื่นซัดไปเกยตามเกาะต่างๆ ติดอยู่ในซากเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 47 ศพ สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยและคนจีนทั้งประเทศ
เรือฟินิกซ์ล่มทางทะเลอันดามัน นับเป็นการสูญเสียชีวิตนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งถึง 47 ศพ รองจากเหตุการณ์มหันตภัยร้ายสึนามิซัดถล่มชายฝั่งทะเลอันดามัน เมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา และนำมาซึ่งความสูญเสียทางการท่องเที่ยวของภูเก็ตอย่างมหาศาล โดยเฉพาะภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเล
ทันที...ที่เกิดเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม และมีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตถึง 47 ราย ส่งผลกระทบต่อตลาดท่องเที่ยวจีนทันที ทัวร์จีนยกเลิกการมาเที่ยวภูเก็ต บุ๊กกิ้งห้องพักโรงแรมถูกยกเลิกทันที นักท่องเที่ยวจีนค่อยๆหายไปจากเกาะภูเก็ต โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์หายไปเกือบทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนักท่องเทียวจีนถือเป็นตลาดหนักและเข้ามาภูเก็ตเป็นอันดับหนึ่งปีละกว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้มหาศาล
หลังเกิดเหตุจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามที่จะหามาตรการเรียกความเชื่อมั่นกลับ แม้แต่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินทางลงพื้นที่สร้างความมั่นใจ จังหวัดภูเก็ตได้ออกมาตรการเรียกความเชื่อมั่นกลับมาทันทีเช่นกัน โดยกำหนดมาตรการความปลอดภัยการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเล ให้เรือท่องเที่ยวทุกลำจะต้องออกจากท่าเทียบเรือ 24 ท่า ที่ทางจังหวัดภูเก็ตกำหนดเท่านั้น เรือทุกลำที่จะออกจากท่าได้จะต้องผ่านการตรวจด้านความปลอดภัย ทั้งตัวเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิต กัปตันเรือ และอื่นๆ โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการในการพิจารณาปล่อยเรือแต่ละลำ รวมไปถึงจัดชุดออกลาดตระเวนตรวจตรากลางทะเลเพื่อให้การช่วยเหลือและให้เรือท่องเที่ยวทุกลำปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด และมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
ในขณะที่รัฐบาลเองก็พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลจีนได้เห็นว่าให้ความสำคัญกับการสูญเสียครั้งนี้ และมีมาตรการด้านความปลอดภัย มีการตรวจสอบเรือลำเที่ยวทุกลำว่าได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยหรือไม่ หากตรวจพบลำใดไม่ได้มาตรฐานก็จะสั่งห้ามลงน้ำเด็ดขาด ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับเรือฟินิกซ์ กัปตันเรือ เจ้าของเรือ ช่างเครื่อง ถูกดำเนินคดีในข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ รวมถึงคดีนอมินี และที่สำคัญจะต้องกู้เรือฟินิกซ์ที่จมอยู่ใต้ท้องทะเลในระดับน้ำลึก 45 เมตร ขึ้นมาให้ได้ เพื่อหาสาเหตุการจม ที่นอกเหนือจากภัยธรรมชาติ เอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด
แม้รัฐบาลและจังหวัดภูเก็ต พยายามที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่สำเร็จ รัฐบาลจีน เอเย่นต์ทัวร์จีน นักท่องเที่ยวจีน ยังไม่สามารถที่จะทำใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น ไม่ยากมาในพื้นที่ที่เพื่อนร่วมชาติเสียชีวิตจำนวนมาก และที่สำคัญยังขาดความมั่นใจในมาตรการความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเล ยังไม่เดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวภูเก็ตในวงกว้างมากขึ้น โรงแรมบางแห่งที่รับทัวร์จีนเป็นหลักกลายเป็นโรงแรมร้าง ไม่มีแขกเข้าพัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ซบเซา จากจีนหายไป
ในขณะที่การกู้เรือฟินิกซ์เพื่อหาสาเหตุการจมนั้น ทางกรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัทมาดำเนินการกู้เรือในรอบแรก ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่สามารถกู้เรือฟินิกซ์ขึ้นจากน้ำได้ จึงได้ว่าจ้างบริษัทกู้เรือรายใหม่จากสิงคโปร์ โดยครั้งนี้มีการใช้เรือเครนขนาด 1,200 ตัน พร้อมด้วยอุปกรณ์ นักประดาน้ำชาวต่างชาติและคนไทย เข้าร่วมปฏิบัติการ จนสามารถกู้เรือฟินิกซ์ที่จมใต้ท้องทะเลเป็นเวลา 4 เดือน ได้สำเร็จ และลากมาขึ้นคาน ที่คานเรือรัตนชัย ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อนที่พนักงานสอบสวน ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเรือจากประเทศและไทยและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุที่เรือจมนอกเหนือจากภัยธรรมชาติแล้ว ตัวเรือฟินิกซ์ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เรือจม เนื่องจากตัวเรือไม่ได้มาตรฐาน ทั้งในเรื่องของความสมดุลของตัวเรือ พบว่าใต้ท้องเรือมีแท่งซีเมนต์บรรจุอยู่เพื่อสร้างความสมดุล เรือต่อไม่ได้มาตรฐาน เครื่องยนต์ ตัวเรือ วัสดุที่ใช้ ไม่ได้มาตรฐานทั้งสิ้น จึงได้ดำเนินการเอาผิดกับอู่ต่อเรือฟินิกซ์ที่เปิดอู่ต่อเรือไม่ได้รับใบอนุญาตอีกด้วย
การดำเนินการทั้งหมดนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยต้องการที่จะหาข้อเท็จจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงหามาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดซ้ำขึ้นอีก เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว และซากเรือฟินิกซ์ยังคงขึ้นคานอยู่ที่คานเรือรัตนชัย และทาง ปปง.ได้ประกาศขายทอดตลาดไปแล้วก่อนหน้านี้
ปัจจุบันแม้ว่านักท่องเที่ยวจีน จะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตแล้ว แต่ก็ไม่ได้กลับมาทั้งหมดร้อยเปอร์เช็นต์เหมือนก่อนที่เกิดเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ แต่ภูเก็ตก็ได้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวโดยตัวเองโดยไม่ผ่านบริษัททัวร์ หรือ FIT เพิ่มขึ้นจากก่อนที่เกิดเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนที่เคยมาภูเก็ตแล้วมาอีก และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มาทดแทนกรุ๊ปทัวร์ที่หายไป
มาตรการด้านความปลอดภัยยังคงดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ในส่วนของมาตรการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเลนั้น ยังคงมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด เช่น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเช็คพอยท์บริเวณท่าเทียบเรือต่างๆ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะลงเรือจะต้องมีการลงทะเบียนแจ้งรายชื่อ ตรวจสอบอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยภายในเรือ เสื้อชูชีพต้องมีจำนวนเพียงพอกับนักท่องเที่ยว การตรวจสอบสภาพเรือ ความแข็งแรงของท่าเทียบเรือหรือโป๊ะ เป็นต้น ขณะเดียวกันในส่วนของบุคลากรประจำเรือยังมีการตรวจสอบสารเสพติดและแอลกอฮอล์ด้วย
ถึงวันนี้...ครบรอบ 1 ปี ที่ “ฟินิกซ์” เรือมรณะ ถูกคลื่นซัดล่ม คร่าเสียชีวิตนักท่องเที่ยวจีน 47 ชีวิต จังหวัดภูเก็ตได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสออกมาตรการคุมเข้มเรือท่องเที่ยวทุกลำ สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเล และเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียนให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้ประกอบการ ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะแม้ว่าธรรมชาติจะสวยแค่ไหน หากมาแล้วไม่ปลอดภัย คงไม่มีใครอยากมาเที่ยวอย่างแน่นอน