xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! ผ่าซากวาฬหัวทุยฟันหายเกลี้ยงปาก คาดแอบลักลอบตัดทำของขลัง ส่งชิ้นเนื้อตรวจหาสาเหตุการตาย พบตายแล้ว 21 ตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กระบี่ - เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 10 ชม.ฝ่าซากวาฬหัวทุย อึ้ง! พบฟันหายเกลี้ยงปาก คาดมีคนแอบลักลอบตัดทำของขลังตามความเชื่อ ด้านอำเภอโร่แจ้งความเอาผิด ตัดชิ้นเนื้อพิสูจน์หาสาเหตุการตาย พบซากลอยตายในทะเลถึง 21 ตัวแล้ว



จากกรณีที่ชาวประมงพื้นบ้านเกาะลันตา จ.กระบี่ พบซากวาฬสเปิร์ม หรือวาฬหัวทุย ลอยตายอยู่ระหว่างเกาะลันตา และเกาะไหง ห่างชายฝั่งเกาะลันตาประมาณ 3 ไมล์ทะเล และลากเข้ามาไว้ที่ชายฝั่ง พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ประมง จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) ร่วมกับศูนย์วิจัยฯ อ่าวไทยตอนบน (ชุมพร) เข้ามาตรวจสอบ

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (3 ก.ค.) นายสมบูรณ์ เต็มชื่น นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ นายศักดิ์ดา ทวีเมือง ประมง อ.เกาะลันตา พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารเรือ หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลเกาะลันตาน้อย ทีมสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กว่า 20 คน เข้าตรวจสอบซากวาฬหัวทุย บริเวณชายหาดบ้านหัวแหลม หมู่ 1 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เพื่อหาสาเหตุการตาย

จากการตรวจสภาพภายนอก พบวาฬตัวดังกล่าวเป็นวาฬเพศผู้ ความยาววัดได้ 12 เมตร น้ำหนักมากกว่า 12 ตัน คาดว่าเป็นวาฬหนุ่ม เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังพบว่าฟันล่างของวาฬ ถูกลักลอบตัดออกไป ส่วนบริเวณโคนหาง มีร่องรอยบอบช้ำอย่างรุนแรง กลางลำตัวมีร่องรอยคล้ายถูกฉลามกัด

นายไพฑูล รอดรัก อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156/34 หมู่ 2 ต.เกาะลันตาใหญ่ ชาวประมงที่ไปพบซากวาฬกลางทะเล กล่าวว่า ขณะออกเรือไปทำประมง พบซากวาฬลอยอยู่ จากนั้นประสานให้เพื่อนบ้านช่วยกันนำเรือมาลากเข้าฝั่ง โดยสภาพที่พบครั้งแรก วาฬยังมีสภาพสมบูรณ์ แต่พอกลับไปดูอีกครั้ง ก็พบว่า ฟันถูกลักลอบตัดออกไปแล้ว สอบถามจากชาวบ้านใกล้เคียง ทราบว่า พบเห็นชาย 3 คน เข้ามาใกล้ซากวาฬ คาดว่าจะเป็นกลุ่มคนที่เข้ามาแอบตัดไป

ด้าน นายสมบูรณ์ เต็มชื่น นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้ประสานให้เจ้าหน้าที่เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะลันตา เพื่อสืบหาตัวคนที่แอบเข้ามาลักลอบตัดฟันวาฬแล้ว อยากเตือนประชาชนทั่วไป หากพบซากวาฬ หรือสัตว์ทะเลสงวน ห้ามลักลอบขโมยซากตามความเชื่อแบบผิดๆ เพราะจะมีความผิด เนื่องจากสัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย เบื้องต้น เชื่อว่าวาฬตัวดังกล่าวไม่น่าจะถูกลักลอบล่า แต่อาจจะตายด้วยสาเหตุอื่น

ขณะที่ นายศักดิ์ดา ทวีเมือง ประมงอำเภอเกาะลันตา กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิต ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ แต่สันนิษฐานว่า อาจจะมีอาการติดเชื้อ วันนี้ทีมสัตวแพทย์จะเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจสอบอีกครั้ง ว่าจะมีสาเหตุจากการติดเชื้อหรือไม่ ส่วนซากวาฬที่เหลือจะหารืออีกครั้งว่าจะขนย้ายออกจากพื้นที่อย่างไร เพราะซากเป็นชิ้นใหญ่ มีน้ำหนักมาก การเคลื่อนย้ายค่อนข้างจะลำบาก โดยจะประสานให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งดำเนินการเรื่องนี้อีกครั้ง

นางพิมพ์ชนก ประจำค่าย สัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.กระบี่ กล่าวว่า วาฬหัวทุย หรือวาฬสเปิร์ม ในน่านน้ำไทย ที่ผ่านมา มีการพบเพียง 3 จังหวัด คือ พังงา ภูเก็ต และสตูล ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งสาเหตุการตายนั้นมีปัจจัยจากการป่วยทางธรรมชาติ อุบัติเหตุ และมีการพบปลาวาฬชนิดนี้ในเขตพื้นที่ฝั่งอันดามัน ตั้งแต่ปี 2534 ที่เคยมาเกยตื้นหรือลอยตายในทะเลกว่า 21 ตัว ส่วนใหญ่พบได้ฝั่งอันดามัน ที่มีน้ำทะเลลึกกว่าอ่าวไทย ทางเจ้าหน้าที่ได้ตัดชิ้นเนื้อสำคัญส่งไปวิจัยหาสาเหตุการเสียชีวิต ที่ศูนย์ จ.ภูเก็ต ใช้เวลา 10 ชม.หลังจากได้ลงปฏิบัติการตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น.


กำลังโหลดความคิดเห็น