แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเปิดใจคลิปชักปืนชูขึ้นฟ้าขู่ แค่ป้องกันทรัพย์สินและความปลอดภัย

ชุมพร - แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวเปิดใจคลิปชักปืนชูขึ้นฟ้าขู่ เพื่อป้องกันทรัพย์สินและความปลอดภัยของลูกค้า จากเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกัน เผยหลังสถานบันเทิงเลิกกลายเป็นจุดนัดพบของคนกลางคืน ตามหาคู่กรณี ยกพวกรุมตีแทงเจ็บตายประจำ



จากกรณีมีคลิปวิดีโอโพสต์ในสื่อออนไลน์กลุ่มวัยรุ่นยกพวกรุมทำร้ายชกต่อยอดีตทหารพรานกับเพื่อน 2 คน จนล้มลุกคลุกคลานบนถนนกรมหลวง เขตเทศบาลเมืองชุมพร ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวที่นั่งกินอาหารจำนวนมาก ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 30 มิถุนายน 62 ที่ผ่านมา โดยในคลิปดังกล่าวมีผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวได้ชักปืนลูกโม่ออกมาชูขึ้นฟ้าเหมือนกับจะยิงข่มขู่ห้ามปรามระงับเหตุ แต่ก็ไม่ได้ยิง และมีผู้ชายพูดว่ายิงไม่ได้นะ จากนั้นก็ส่งปืนให้นำเข้าไปเก็บในร้าน

ต่อมา ช่วงกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุถนนกรมหลวง ซึ่งเป็นถนนอาหารของคนกลางคืน พบกับ น.ส.พัชริน รบนิกร อายุ 41 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว “วังชะโอน” เป็นอาคารพาณิชย์ตั้งอยู่ริมถนนเลขที่ 63/9 ถนนกรมหลวง อ.เมือง จ.ชุมพร โดยจะใช้บริเวณหน้าบ้านขายก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่ช่วงค่ำไปจนเกือบสว่างเป็นประจำทุกวัน

น.ส.พัชริน เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ตนเองขายก๋วยเตี๋ยวโดยใช้ชื่อร้านว่า “วังชะโอน” มานานกว่า 5 ปีแล้ว จากเดิมเช่าพื้นที่บริเวณสี่แยกขี้ควาย ในเขตเทศบาลเมืองชุมพรขายมาก่อน แต่ต่อมาได้ซื้ออาคารพาณิชย์ริมถนนกรมหลวง ที่เปิดขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นถนนอาหารสำหรับคนกลางคืน โดยจะเปิดร้านในเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ไปจนถึงเวลาตี 2 หรือตี 3 ของวันใหม่ซึ่งขึ้นอยู่กับลูกค้ามีมากน้อยเพียงใด กลุ่มลูกค้าหลักๆ จะเป็นกลุ่มคนเที่ยวกลางคืนที่ออกมาจากสถานบันเทิงแล้วจะแวะมากินก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ก่อนกลับบ้าน โดยเฉพาะคืนวันศุกร์และวันเสาร์ลูกค้าจะเยอะมาก

น.ส.พัชริน กล่าวว่า คืนเกิดเหตุเวลาประมาณตี 1 ของคืนวันที่ 30 มิถุนายน 62 ได้มีลูกค้าซึ่งทราบภายหลังคือ อดีตทหารพราน ได้มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านโดยมากับเพื่อนอีก 1 คน และนั่งโต๊ะเสริมอยู่ติดกำแพงร้านอาหารข้างๆ ต่อมา ก็ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งได้มาและนั่งอยู่อีกฝั่ง ระหว่างที่อดีตทหารกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้น ได้มีวัยรุ่นอีกกลุ่มกว่า 10 คน ตามมานั่งกินทีหลัง จากนั้นมีวัยรุ่นคนหนึ่งได้เดินไปต่อว่าอดีตทหารเป็นสำเนียงภาคใต้ว่า “มึงหรอยนักเหรอ” แล้วก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม ซึ่งต่อมาทั้งคู่ก็ตะโกนด่าท้าทายกันไปมา ซึ่งตนก็เข้าไปพยายามไกล่เกลี่ยห้ามปรามไม่อยากให้มีเรื่องกัน
 
จนอดีตทหารกินเสร็จลุกขึ้นมาจ่ายเงิน ได้มีวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่มคู่กรณีเดินปรี่เข้ามาหาอดีตทหารพรานก่อน และทำท่าจะชก แต่ถูกอดีตทหารหลบและสวนไปหมัดหนึ่งจนล้มกลิ้งลงไปกับพื้น จากนั้นเพื่อนของกลุ่มวัยรุ่นคนดังกล่าวก็แห่กันรุมชกต่อยอดีตทหารกับเพื่อนอีกคน ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงได้คว้าอาวุธปืนขนาด .38 ออกมาพร้อมชูและตะโกนให้ทั้ง 2 ฝ่ายเลิกทะเลาะวิวาทกันเพราะกลัวร้านก๋วยเตี๋ยวตนจะพัง และเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า จนทั้ง 2 ฝ่ายวิ่งออกไปกลางถนนนอกร้าน ตะลุมบอนชกต่อยกันอุตลุด และได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจไม่ถึง 5 นาทีตำรวจก็มาแต่กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุพากันหลบหนีไปแล้ว เหลือแต่อดีตทหารพรานที่บาดเจ็บ และสร้อยคอ 2 บาท ขาดหายไปครึ่งเส้น

น.ส.พัชริน กล่าวต่อว่า ตนเองไม่ได้คิดว่าจะยิงปืนแต่อย่างใด เพียงแต่เอาออกมาขู่ห้ามปรามเท่านั้น ซึ่งก็ได้ผลพวกนั้นวิ่งออกไปไล่ชกต่อยกันนอกร้าน หลังคลิปเผยแพร่ออกไปเห็นตนชูปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบแล้วเป็นปืนของตนเอง มีทะเบียนถูกต้อง และเป็นบริเวณบ้านของตน เป็นการใช้เพื่อห้ามปรามข่มขู่ป้องกันทรัพย์สินของตนและความปลอดภัยของลูกค้าเท่านั้น เพราะย่านถนนกรมหลวง เป็นตลาดอาหารของคนกลางคืน ที่ผ่านมา จะมีพวกวัยรุ่นออกมาจากสถานบันเทิงที่เกิดเขม่นกันแล้วออกมาเจอกันหรือตามหาคู่กรณีกันที่จุดนี้แล้วเกิดชกต่อย แทงกันจนบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ตนมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวให้แก่คนเที่ยวกลางคืน จำเป็นต้องมีอาวุธปืนไว้เพื่อป้องกันตัวและเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่มากินอาหารที่ร้านเท่านั้น