ชุมพร - หนุ่มอดีตทหารพราน หอบคลิปโร่ แจ้งตำรวจหลังถูกกลุ่มวัยรุ่น 10 คนรุมยำจนน่วม ระบุมีเหตุเขม่นกันในสถานบันเทิงก่อนถูกตามมารุมกินโต๊ะ10 ต่อ 2
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 2 ก.ค.) นายประสบโชค หรือ น็อต มากสุนันท์ อายุ 22 ปี อดีตทหารพรานชายแดนใต้ อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 5 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เดินทางมาให้ปากคำ กับ พ.ต.ท.ไพรัช คงเอียง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร และ นำหลักฐานภาพถ่ายหัวโจ๊กคู่กรณีและภาพถ่ายคลิปวิดีโอที่ตนเองถูกคู่กรณีกว่า 10 คน รุมทำร้ายเตะต่อยจนล้มลุกคลุกคลานได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและขอบตาซ้ายเขียวช้ำ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยววังชะโอน ถนนกรมหลวง เขตเทศบาลเมืองชุมพร เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 30 มิถุนายน 62
โดยในคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว นายประสพโชค หรือ น็อต สวมกางเกงยีนเพียงตัวเดียวถูกกลุ่มชาววัยรุ่น กว่า 10 คน รุมเตะต่อย กลางถนนกรมหลวง หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเป็นย่านตลาดโต้รุ่งในยามค่ำคืน จนสะบักสะบอมล้มลุกคลุกคลาน ส่วนเพื่อนชายอีกคนก็ถูกรุมเตะต่อยแต่ได้วิ่งหนีเอาตัวรอดไปได้ และมีหญิงสาวหลายคนที่คาดว่าน่าจะมากับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุได้คอยห้ามปราบ ท่ามกลางสายตาชาวบ้าน และนักเที่ยวยามราตรีที่มีนั่งกินอาหารบริเวณดังกล่าว
ขณะที่มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวในจุดเกิดเหตุได้ชักปืนลูกโม่คล้ายขนาด .38 หรือ 357 ออกมาชูขึ้นฟ้าเพื่อจะยิงขู่ห้ามปราบระงับเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นหยุดทำร้ายกัน แต่มีชายอีกคนเข้ามาห้ามปราบแล้วบอกว่ายิงไม่ได้นะ ซึ่งคลิปดังกล่าว นายประสบโชคผู้เสียหายได้นำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊คของตนเองจนมีการแชร์ต่อและเข้าไปคอมเม้นแสดงความคิดเห็นกันต่างๆนาๆจำนวนมาก
นายประสพโชค ให้การว่า อดีตตนเป็นทหารพรานอยู่ชายแดนใต้ ปัจจุบันลาออกมาช่วยแม่ทำสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุตนได้ชวนเพื่อน ๆรวม 4 คน ไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร หลังจากสถานบันเทิงปิด ตนกับเพื่อนอีกคนได้ชวนกันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ถนนกรมหลวง ส่วนเพื่อนอีก 2 คน กลับบ้านไปก่อนแล้ว
ขณะนั่งที่โต๊ะยังไม่ทันสั่งก๋วยเตี๋ยวก็มีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน ขับรถจักรยานยนต์ตามมา ซึ่ง 1 ในนั้นตนเคยเห็นหน้าและจำได้ว่าเป็นหัวโจ๊กของกลุ่ม ฉายา “บี ดอนใหญ่” จอดรถแล้วเดินปรี่เข้ามาชี้หน้าถามตนว่า “เมื่อกี้ใช่มึงหรือปล่า” ตนก็ตามไปว่าทำไมมีปัญหาอะไร ตนไม่รู้เรื่อง แล้วหัวโจ๊กคนดังกล่าวก็ยังด่าใส่ตนอีก ตนเลยด่าสวนกลับไป
จากนั้นวัยรุ่นกว่า 10 คนก็กรูกันเข้ารุมมาทำร้ายตน และ พยายามจับตนถอนเสื้อออกเพื่อจะเอามาคลุมหัวตน แต่ตนพยายามดิ้นจนเสื้อหลุดออกและสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ขาดหายไปเหลือตกอยู่บนถนนเพียงครึ่งเส้น ส่วนเพื่อนอีกคนวิ่งหนีได้ทัน หลังจากนั้นตนก็ยังถูกรุมทำร้ายจนไม่รู้ใครเป็นใคร จนกลุ่มวัยรุ่นพอใจแยกย้ายหลบหนีไป
นายประสพโชค กล่าวว่า ตอนเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงตนไม่ได้มีเรื่องเขม่นกับใครเลย น่าจะเป็นการเข้าใจผิดหรือจำผิดคนมากกว่า หลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วเนื่องจากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ของตนขาดหายไปครึ่งเส้นประมาณ 1 บาท ซึ่งหลังจากตนโพสต์คลิปวิดีโอขณะนี้คู่กรณีที่เป็นหัวโจ๊กได้ติดต่อมาที่ตนแล้ว เพื่อจะมาเจรจาและชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว ส่วนคดีความก็ว่าไปตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.ท.ไพรัช คงเอียง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่าจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากคลิปและกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆและตรวจสอบทะเบียนราษฎรเพื่อออกหมายเรียกกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนผู้หญิงเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชักปืนออกมาชูจะยิงขู่ขึ้นฟ้าเพื่อระงับเหตุที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ประสานให้ชุดสืบสวนไปเชิญตัวมาสอบปากคำในฐานพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ และจะตรวจสอบเรื่องอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวด้วยว่ามีที่มาอย่างไร
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นย่านการค้ากลางเมืองชุมพร ช่วงกลางคืนจะแปลสภาพเป็นถนนอาหารโต้รุ่ง พบว่าร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีหญิงสาวชักปืนออกมาชูขึ้นฟ้าเพื่อจะยิงข่มขู่ห้ามปรามกลุ่มวันรุ่นยังไม่เปิดจำหน่ายแต่อย่างใด
ขณะที่มีพ่อค้ารายหนึ่งซึ่งขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ติดกับร้านจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนก็ยืนดูเหตุการณ์อยู่ เพราะบริเวณนี้โดยเฉพาะช่วงกลางดึกของคืนวันศุกร์และวันเสาร์ หลังจากที่สถานบันเทิงปิด จะมีนักท่องเที่ยวและกลุ่มวัยรุ่นมาสั่งอาหารกินก่อนกลับบ้าน และมักจะมีเรื่องชกต่อยทะเลาะวิวาทกันแทบทุกคืน ใครมีเรื่องเขม่นกันมาจากสถานบันเทิงที่ไหนเมื่อสถานบันเทิงปิดก็จะออกมาตามหาตัวกันที่นี่ ถ้าเจอก็จะเปิดศึกทะเลาะวิวาทชกต่อยกันเป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว.
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 2 ก.ค.) นายประสบโชค หรือ น็อต มากสุนันท์ อายุ 22 ปี อดีตทหารพรานชายแดนใต้ อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 5 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เดินทางมาให้ปากคำ กับ พ.ต.ท.ไพรัช คงเอียง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร และ นำหลักฐานภาพถ่ายหัวโจ๊กคู่กรณีและภาพถ่ายคลิปวิดีโอที่ตนเองถูกคู่กรณีกว่า 10 คน รุมทำร้ายเตะต่อยจนล้มลุกคลุกคลานได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและขอบตาซ้ายเขียวช้ำ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยววังชะโอน ถนนกรมหลวง เขตเทศบาลเมืองชุมพร เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 30 มิถุนายน 62
โดยในคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว นายประสพโชค หรือ น็อต สวมกางเกงยีนเพียงตัวเดียวถูกกลุ่มชาววัยรุ่น กว่า 10 คน รุมเตะต่อย กลางถนนกรมหลวง หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเป็นย่านตลาดโต้รุ่งในยามค่ำคืน จนสะบักสะบอมล้มลุกคลุกคลาน ส่วนเพื่อนชายอีกคนก็ถูกรุมเตะต่อยแต่ได้วิ่งหนีเอาตัวรอดไปได้ และมีหญิงสาวหลายคนที่คาดว่าน่าจะมากับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุได้คอยห้ามปราบ ท่ามกลางสายตาชาวบ้าน และนักเที่ยวยามราตรีที่มีนั่งกินอาหารบริเวณดังกล่าว
ขณะที่มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวในจุดเกิดเหตุได้ชักปืนลูกโม่คล้ายขนาด .38 หรือ 357 ออกมาชูขึ้นฟ้าเพื่อจะยิงขู่ห้ามปราบระงับเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นหยุดทำร้ายกัน แต่มีชายอีกคนเข้ามาห้ามปราบแล้วบอกว่ายิงไม่ได้นะ ซึ่งคลิปดังกล่าว นายประสบโชคผู้เสียหายได้นำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊คของตนเองจนมีการแชร์ต่อและเข้าไปคอมเม้นแสดงความคิดเห็นกันต่างๆนาๆจำนวนมาก
นายประสพโชค ให้การว่า อดีตตนเป็นทหารพรานอยู่ชายแดนใต้ ปัจจุบันลาออกมาช่วยแม่ทำสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุตนได้ชวนเพื่อน ๆรวม 4 คน ไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร หลังจากสถานบันเทิงปิด ตนกับเพื่อนอีกคนได้ชวนกันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ถนนกรมหลวง ส่วนเพื่อนอีก 2 คน กลับบ้านไปก่อนแล้ว
ขณะนั่งที่โต๊ะยังไม่ทันสั่งก๋วยเตี๋ยวก็มีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน ขับรถจักรยานยนต์ตามมา ซึ่ง 1 ในนั้นตนเคยเห็นหน้าและจำได้ว่าเป็นหัวโจ๊กของกลุ่ม ฉายา “บี ดอนใหญ่” จอดรถแล้วเดินปรี่เข้ามาชี้หน้าถามตนว่า “เมื่อกี้ใช่มึงหรือปล่า” ตนก็ตามไปว่าทำไมมีปัญหาอะไร ตนไม่รู้เรื่อง แล้วหัวโจ๊กคนดังกล่าวก็ยังด่าใส่ตนอีก ตนเลยด่าสวนกลับไป
จากนั้นวัยรุ่นกว่า 10 คนก็กรูกันเข้ารุมมาทำร้ายตน และ พยายามจับตนถอนเสื้อออกเพื่อจะเอามาคลุมหัวตน แต่ตนพยายามดิ้นจนเสื้อหลุดออกและสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ขาดหายไปเหลือตกอยู่บนถนนเพียงครึ่งเส้น ส่วนเพื่อนอีกคนวิ่งหนีได้ทัน หลังจากนั้นตนก็ยังถูกรุมทำร้ายจนไม่รู้ใครเป็นใคร จนกลุ่มวัยรุ่นพอใจแยกย้ายหลบหนีไป
นายประสพโชค กล่าวว่า ตอนเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงตนไม่ได้มีเรื่องเขม่นกับใครเลย น่าจะเป็นการเข้าใจผิดหรือจำผิดคนมากกว่า หลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วเนื่องจากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ของตนขาดหายไปครึ่งเส้นประมาณ 1 บาท ซึ่งหลังจากตนโพสต์คลิปวิดีโอขณะนี้คู่กรณีที่เป็นหัวโจ๊กได้ติดต่อมาที่ตนแล้ว เพื่อจะมาเจรจาและชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว ส่วนคดีความก็ว่าไปตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.ท.ไพรัช คงเอียง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่าจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากคลิปและกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆและตรวจสอบทะเบียนราษฎรเพื่อออกหมายเรียกกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนผู้หญิงเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชักปืนออกมาชูจะยิงขู่ขึ้นฟ้าเพื่อระงับเหตุที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ประสานให้ชุดสืบสวนไปเชิญตัวมาสอบปากคำในฐานพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ และจะตรวจสอบเรื่องอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวด้วยว่ามีที่มาอย่างไร
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นย่านการค้ากลางเมืองชุมพร ช่วงกลางคืนจะแปลสภาพเป็นถนนอาหารโต้รุ่ง พบว่าร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีหญิงสาวชักปืนออกมาชูขึ้นฟ้าเพื่อจะยิงข่มขู่ห้ามปรามกลุ่มวันรุ่นยังไม่เปิดจำหน่ายแต่อย่างใด
ขณะที่มีพ่อค้ารายหนึ่งซึ่งขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ติดกับร้านจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนก็ยืนดูเหตุการณ์อยู่ เพราะบริเวณนี้โดยเฉพาะช่วงกลางดึกของคืนวันศุกร์และวันเสาร์ หลังจากที่สถานบันเทิงปิด จะมีนักท่องเที่ยวและกลุ่มวัยรุ่นมาสั่งอาหารกินก่อนกลับบ้าน และมักจะมีเรื่องชกต่อยทะเลาะวิวาทกันแทบทุกคืน ใครมีเรื่องเขม่นกันมาจากสถานบันเทิงที่ไหนเมื่อสถานบันเทิงปิดก็จะออกมาตามหาตัวกันที่นี่ ถ้าเจอก็จะเปิดศึกทะเลาะวิวาทชกต่อยกันเป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว.