กระบี่ - ตำรวจสืบภาค 8 บุกจับ เจ้าหน้าที่ ศูนย์วิจัยพันธ์สัตว์กระบี่ ลอบค้าในบ้านพัก ยึดยาบ้า - ไอซ์ - ปืน สารภาพทำมานานกว่า 2 ปี ลอบขายให้วัยรุ่นในพื้นที่
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 27 มิ.ย.) พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธาคณานนท์ ผบก.สส.ภ.8 สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัชวาล นิลจันทร์ หน.ชปส.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประภาส ศรีสังข์จร รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.8 และ พ.ต.ต.สัญญา ธรรมรัตน์ ชุด ชปส.ภ.8 นำกำลัง จนท.สืบสวน ภ.8 ร่วมกับชุดปฎิบัติการพิเศษ ตร.ภ.8 เข้าตรวจค้นเป้าหมายที่บ้านพักภายในศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์กระบี่ หมู่ 13 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ หลังรับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีบุคคลต้องสงสัย มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาเสพติดให้กับวัยรุ่นในพื้นที่
จนท.ส่งสายสืบเข้าไปตรวจสอบ หาข่าว จนทราบว่าที่บ้านพักเลขที่ 115 ของพนักงานราชการ ภายในศูนย์ฯ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ยกสูงจากพื้นดินประมาณ 80 ซม. ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องสงสัยหลังหนึ่ง มีกลุ่มวัยรุ่น เข้าออกอย่างผิดสังเกต จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น
ทราบว่าผู้ที่พักในบ้านหลังดังกล่าว คือ นายอนุรักษ์ หรือรัก เจริญพร อายุ 44 ปี พนักงานจ้างของรัฐ มีตำแหน่งเป็น พนักงานผู้ช่วยสัตวบาล สังกัดกรมปศุสัตว์ ตรวจค้นที่ตัวพบยาบ้า 1 เม็ด จึงขอตรวจค้นในบ้าน พบยาบ้าบรรจุซองพลาสติก พร้อมจำหน่ายอีกกว่า 100 เม็ด สอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่ายังมียาบ้าอีกกว่า 1,000 เม็ด ซุกซ่อนในกระป๋องใส่ขนม อยู่บริเวณใต้ถุนบ้าน
จนท.จึงตรวจค้น สามารถยึดยาบ้าได้ทั้งหมด 1,157 เม็ด นอกจากนี้ค้นในบ้านยังพบยาไอซ์ อีก 13.1 กรัม อาวุธปืนสั้น 9 มม. 1 กระบอก อาวุธปืนยาวติดกล้อง ขนาด .22 อีก 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด กระสุนปืน 9 มม. 9 นัด พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องอีกร่วม 20 รายการ จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนในเบื้องต้น นายอนุรักษ์ สารภาพว่า ลักลอบค้ายาเสพติดมานาน 2 ปี แล้ว โดยให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เข้ามาซื้อยาเสพติดที่บ้านพัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ราชการ ไม่มีบุคคลอื่นเข้าออกได้ โดยรับยาบ้ามาครั้ง 2,000 เม็ด ในราคาเม็ดละ 50 บาท นำมาจำหน่ายให้วัยรุ่นเม็ดละ 60 บาท ส่วนยาไอซ์ รับมาครั้งละ 20 กรัม ขายกรัมละ 1,500 บาท
พ.ต.ท.ประภาส กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้าไปที่ กอง บก.สส.ภ.8 ว่า นายอนุรักษ์ มีพฤติกรรมน่าสงสัย ว่าจะลักลอบค้ายาเสพติด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ของทางราชการ บุคคลภายนอกจะไม่สามารถเข้าออกไป เพราะมี รปภ.คอยดูแลทางเข้าออก แต่กลับมีกลุ่มวัยรุ่น เข้าออกกันอย่างผิดสังเกต จึงส่งสายสืบเข้าไปสืบหาข่าว จนทราบว่ามีพฤติกรรมตามที่ร้องเรียนเข้ามาจริง จึงเข้าตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 27 มิ.ย.) พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธาคณานนท์ ผบก.สส.ภ.8 สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัชวาล นิลจันทร์ หน.ชปส.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประภาส ศรีสังข์จร รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.8 และ พ.ต.ต.สัญญา ธรรมรัตน์ ชุด ชปส.ภ.8 นำกำลัง จนท.สืบสวน ภ.8 ร่วมกับชุดปฎิบัติการพิเศษ ตร.ภ.8 เข้าตรวจค้นเป้าหมายที่บ้านพักภายในศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์กระบี่ หมู่ 13 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ หลังรับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีบุคคลต้องสงสัย มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาเสพติดให้กับวัยรุ่นในพื้นที่
จนท.ส่งสายสืบเข้าไปตรวจสอบ หาข่าว จนทราบว่าที่บ้านพักเลขที่ 115 ของพนักงานราชการ ภายในศูนย์ฯ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ยกสูงจากพื้นดินประมาณ 80 ซม. ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องสงสัยหลังหนึ่ง มีกลุ่มวัยรุ่น เข้าออกอย่างผิดสังเกต จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น
ทราบว่าผู้ที่พักในบ้านหลังดังกล่าว คือ นายอนุรักษ์ หรือรัก เจริญพร อายุ 44 ปี พนักงานจ้างของรัฐ มีตำแหน่งเป็น พนักงานผู้ช่วยสัตวบาล สังกัดกรมปศุสัตว์ ตรวจค้นที่ตัวพบยาบ้า 1 เม็ด จึงขอตรวจค้นในบ้าน พบยาบ้าบรรจุซองพลาสติก พร้อมจำหน่ายอีกกว่า 100 เม็ด สอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่ายังมียาบ้าอีกกว่า 1,000 เม็ด ซุกซ่อนในกระป๋องใส่ขนม อยู่บริเวณใต้ถุนบ้าน
จนท.จึงตรวจค้น สามารถยึดยาบ้าได้ทั้งหมด 1,157 เม็ด นอกจากนี้ค้นในบ้านยังพบยาไอซ์ อีก 13.1 กรัม อาวุธปืนสั้น 9 มม. 1 กระบอก อาวุธปืนยาวติดกล้อง ขนาด .22 อีก 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด กระสุนปืน 9 มม. 9 นัด พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องอีกร่วม 20 รายการ จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนในเบื้องต้น นายอนุรักษ์ สารภาพว่า ลักลอบค้ายาเสพติดมานาน 2 ปี แล้ว โดยให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เข้ามาซื้อยาเสพติดที่บ้านพัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ราชการ ไม่มีบุคคลอื่นเข้าออกได้ โดยรับยาบ้ามาครั้ง 2,000 เม็ด ในราคาเม็ดละ 50 บาท นำมาจำหน่ายให้วัยรุ่นเม็ดละ 60 บาท ส่วนยาไอซ์ รับมาครั้งละ 20 กรัม ขายกรัมละ 1,500 บาท
พ.ต.ท.ประภาส กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้าไปที่ กอง บก.สส.ภ.8 ว่า นายอนุรักษ์ มีพฤติกรรมน่าสงสัย ว่าจะลักลอบค้ายาเสพติด เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ของทางราชการ บุคคลภายนอกจะไม่สามารถเข้าออกไป เพราะมี รปภ.คอยดูแลทางเข้าออก แต่กลับมีกลุ่มวัยรุ่น เข้าออกกันอย่างผิดสังเกต จึงส่งสายสืบเข้าไปสืบหาข่าว จนทราบว่ามีพฤติกรรมตามที่ร้องเรียนเข้ามาจริง จึงเข้าตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว
