xs
xsm
sm
md
lg

ผงะ! พบแหล่งปลูกกัญชาที่ท่าแซะกว่า 5 พันต้น หลังขยายผลจับผู้เสพ อ้างขึ้นทะเบียนแล้ว ตร.ไม่สนสั่งรื้อถอนดำเนินคดีตามกฎหมาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจท่าแซะ จ.ชุมพร จับผู้เสพกัญชา ขยายผลแหล่งซื้อขายถึงผงะ เจอปลูกกว่า 5 พันต้น ในพื้นที่ 4 ไร่ อ้างขอครอบครองจากสาธารณสุขแล้วไว้วิจัยรักษาโรค เจ้าหน้าที่ไม่สนดำนินคดีคามกฎหมาย

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 20 มิ.ย.) พ.ต.อ. ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.ท่าแซะ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปรีดา คอนกำลัง รอง ผกก.สส.พร้อมด้วย พ.ต.ต.สกฤชญ สุขนิตย์ สว.สส.ร.ต.อ.ไชยยุทธ์ จันทร์เพ็ง รอง สวป , ร.ต.ท.นพพร ประธาน รอง สว.สส นำกำลังเข้าตรวจสอบแปลงปลูกกัญชากลางสวนปาล์มในซอยร่วมมิตร หมู่ที่ 2 ตำบลหงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังจากมีผู้เสพรายหนึ่งที่ถูกจับกุมได้ให้การซัดทอดว่าจุดดังกล่าวเป็นแหล่งจำหน่ายกัญชารายใหญ่ในพื้นที่

เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าสวนปาล์มดังกล่าวอยู่ห่างจากถนนสายเพชรเกษมประมาณ 500 เมตร บริเวณด้านหน้าติดถนนคอนกรีตในซอยร่วมมิตร มีประตูแบบไม้ยกกันทางเข้าเอาไว้ อยู่ในเขตรับผิดชอบของท้องที่ สภ.สลุย จึงได้ประสาน พ.ต.ท.สุนันท์ สมบูรณ์ รอง ผกก.ป.สภ.สลุย นำกำลังเข้าร่วมตรวจสอบด้วย

จากการตรวจสอบในสวนปาล์มห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร พบบ้านพักอาศัยชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ลักษณะแบ่งเป็นห้องพักให้แรงงานอยู่จำนวน 5 ห้อง ด้านหน้าเป็นที่โล่งมีกองไม้กองอยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนที่ศาลาหลังใหญ่ตรงข้ามบ้านหลังดังกล่าว พบมีการเอาผ้าสแลนมาปิดกั้นศาลาไว้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบว่าด้านหลังของสแลน มีต้นกล้ากัญชาสูงประมาณ 10 ซม.บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ วางเรียงเป็นกองยาว จำนวน 3 กองๆละ 700 ต้น รวมทั้งหมด 2,100 กล้า

ลึกเข้าไปในสวนปาล์มอีกประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบต้นกัญชาขนาดใหญ่สูงเกิน 150 ซม.จำนวนกว่า 1,000 ต้น ปลูกอยู่ภายในกำแพงสแลนสีเขียวสูง 2 เมตร กั้นรอบพื้นที่กว่า 4 ไร่ และมีการต่อท่อให้น้ำรอบแปลงปลูกกัญชา นอกจากนี้ยังพบกล้ากัญชาอีกกว่า 1,000 ถุง อยู่ในแปลงเพาะชำ รวมทั้งหมดทั้งต้นกัญชาและต้นกล้า กว่า 5,000 ต้น เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางก่อนประสานทาง นางจงดี คงกะเรียน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 มาสอบถามและทราบว่า สวนดังกล่าวเป็นของ นายภูษิต กฤตยพรพงศ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 2 ตำบลทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงได้ติดต่อมาพบกับเจ้าหน้าที่

จากนั้นเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นายภูษิตได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่พร้อมหอบเอกสารหลักฐานต่างๆประกอบด้วยหนังสือแสดงการมีไว้ครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ที่นายภูษิตได้รับจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 62 ระบุในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชุมชนบุปผาราชันย์ชุมพร การครอบครองเมล็ดพันธุ์กัญชา จำนวน 2,000 เม็ด เอกสารบันทึกความเข้าใจความร่วมมือดำเนินงานวิจัยและพัฒนาระหว่างวิสาหกิจชุมชนชุมชนบุปผาราชันย์ชุมพร กับวิทยาลัยการแพทย์แผนโบราณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

พร้อมกันนี้นายภูษิต เปิดเผยว่า ตนเองได้ปลูกกัญชามานานแล้วและหลังจากที่ทางรัฐบาลให้ไปขึ้นทะเบียน ตนเองก็ได้ไปขึ้นทะเบียนไว้เพื่อต้องการทำให้ถูกต้อง เพราะวัตถุประสงค์ของตนเองก็ต้องการปลูกกัญชาเพื่อนำมาสกัดน้ำมันกัญชาแจกให้กับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ยากไร้และในขณะเดียวกันก็จะแบ่งขายให้กับผู้ที่มีกำลังซื้อและต้องการนำไปใช้รักษาโรค โดยจะขายในราคาขวดละ 500 - 1,000 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดของซีซีที่บรรจุในขวด

นายภูษิต กล่าวยอมรับว่า นอกจากนี้ตนเองก็ยังเพาะกล้าต้นกัญชาด้วยวิธีตัดกิ่งปักชำ เพราะเห็นว่าต้นแข็งแรงกว่า ได้ผลกว่าเอาเมล็ดมาปลูก ซึ่งต้นกล้าที่เพาะชำเอาไว้เพียง 1 เดือนก็จะโตขายได้ในราคาต้นละ 200-300 บาท ซึ่งก็มีคนมาขอซื้ออยู่ตลอด จึงต้องเร่งเพาะชำขาย ซึ่งตนเองไม่ได้หวังผลกำไรอะไร เพียงต้องการให้ทุกคนได้นำกัญชาที่มีไปสกัดเอาน้ำมันมาใช้เพื่อรักษาโรค และแม้การที่ตนเองกระทำอยู่นี้ไม่ยังถูกต้องเพราะว่ากฎหมายยังไม่ปลดล๊อกให้กัญชาออกจากยาเสพติด แต่ที่ทำไปเพราะความต้องการของผู้ป่วยที่ตองการักษา ไม่สามารถรอเวลาได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายภูษิตฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะประสานให้ พ.ต.สังคม รองมาลี ผบ.ชป.1มว.รส.บก.ควบคุม มทบ.44 และนายอำนาจ เตชวรรณโต ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าแซะนำกำลังเข้าถอนต้นกัญชาทั้งหมดเพื่อนำไปรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐานในคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น