xs
xsm
sm
md
lg

ฟังเสียงโอดครวญจากผู้ค้าในตลาดเทศวิวัฒน์ เรียกร้องนายกฯ ช่วยแก้ปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ปัตตานี - ฟังเสียงโอดครวญพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดสดเทศวิวัฒน์ 1 หรือตลาดพิธาน อ.เมืองปัตตานี ร่วมสะท้อนปัญหา พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาช่วยแก้ไข

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ตลาดเทศวิวัฒน์ 1 หรือตลาดพิธาน อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดแห่งนี้ สามารถวางของเปิดขายของได้เป็นปกติ หลังได้รับการคุ้มครองจากศาลปกครองยะลา คุ้มครองชั่วคราวจนกว่าทางเทศบาลจะหาที่ขายของให้แก่พ่อค้าแม่ค้าขายของระหว่างที่มีการปรับปรุงตลาด ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลได้เดินประกาศในตลาดให้พ่อค้าแม่ค้าไปรับใบเสร็จรับเงิน 500 บาท ที่พนักงานเทศบาลได้จัดเก็บก่อนหน้านี้ แต่ไม่ยอมให้ใบเสร็จรับเงิน และบ่ายเบี่ยงมาตลอด ทำให้แม่ค้าได้สะท้อนถึงพฤติกรรมของพนักงานเทศบาลที่ดูแลตลาดสดแห่งนี้ ผ่านเจ้าหน้าที่ศาลปกครองฟัง

นายสุริยัน เปียแก้ว หรือพี่แกะ พ่อค้าขายเส้นขนมจีนในตลาดสดแห่งนี้มาแล้ว 25 ปี กล่าวสะท้อนสภาพปัญหาการจัดการตลาดสดแห่งนี้ว่า ที่ผ่านมาเราไม่ได้ประท้วง เพื่อนๆ แค่พร้อมใจกันทั้งตลาดเพื่อเดินทางไปขอความเห็นใจ ขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองให้ช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อนมา 9 เดือนแล้ว ที่ทางเทศบาลพยายามที่จะให้เราไปขายที่อื่น ซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนไม่อยากไป เพราะไปแล้วขายของไม่ได้

แต่หลังจากศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว บอกให้เราสามารถขายของได้ จนกว่าจะมีที่ขายของ แต่เราไม่ไปขายที่ตลาดเทศบาล (ที่แห่งใหม่ตั้งอยู่เยื้องกับมัสยิดกลางปัตตานี) เพราะขายไม่ได้ และเขาจะมาแยกพวกเรา ให้ส่วนหนึ่งกลับมาตรงนี้ แล้วอีกส่วนหนึ่งไปขายที่อื่น เราอยู่ด้วยกันมานาน พึ่งพากันแบบนี้มาตลอด ให้เราแยกได้ยังไง พวกเราขอไปด้วยกัน ถ้าให้เราออกก็จะต้องออกทั้งหมด 400 กว่าแผง แต่ถ้ากลับมาก็จะต้องกลับมาทั้งหมด จะมาแยกให้ผักขายตรงโน้น ของแห้งมาขายตรงนี้ เราจะขายของได้ยังไง

เขาจะทำตลาดสดให้เป็นตลาดแห้ง จะทำแบบนั้นทำไมไม่ถามก่อน ทำประชาวิจารณ์ก่อนว่าเราจะรับได้ไหม เราจะเอาไหม เขาไม่ได้คิดว่าเราอยู่ได้ไม่ได้ เขาทำขึ้นมา เสนอข้อมูล เสนอโครงการ เสนอนโยบาย และจะให้เรารับได้ยังไงว่าคุณไม่ถามสมัครใจเราเลย จะพัฒนาอะไรก็รับได้ แต่ค่อยๆ ไปเพื่อความก้าวหน้าเราก็เอา แต่มาทำแบบนี้เราก็ไม่ทัน มาสอนเรามาแนะนำ แล้วเราจะทำตาม เราไม่ได้ฝืน เราชอบในการที่จะพัฒนาก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ต้องรอเราบ้าง บางทีเราเป็นพ่อค้าความรู้อาจจะไม่มากพอ กว่าจะเข้าใจก็ต้องค่อยๆ กันไป
 

 
ตอนนี้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ก็หนักพอแล้ว ก็กลัวมือที่สาม เราทำเพื่อความอยู่รอดของทุกคน เราไม่ได้สู้เพื่อคนใดคนหนึ่ง เหตุการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีเรื่องที่รู้ๆ กัน เขามาทำแบบนี้เราก็ไม่รู้ว่ามือที่สามเข้ามาแทรกแซง ตอนนี้สถานการณ์บอบช้ำมาก เข้ามาทำแบบนี้ก็ยิ่งบอบช้ำเยอะแล้ว เหตุการณ์ก็เกินกว่าที่จะคิด จะซ่อมก็ซ่อมได้เลย แต่มาถามเราด้วยว่าเราต้องการหรือยัง จะให้เราไปขายตรงไหน จะให้เราทำตัวยังไงบ้าง เราต้องมีค่าใช้จ่าย เพราะแต่ละคนต่างก็มีภาระกันทุกคน

ตอนนี้หลังศาลคุ้มครองชั่วคราวให้เราขายไปก่อน ก่อนที่เทศบาลจะหาที่ให้เราขาย เราก็รู้สึกไม่เครียด อย่างน้อยก็มีที่พึ่ง มีศาลปกครองที่เราเพิ่งได้ รู้สึกได้รับความเป็นธรรม สามารถคุ้มครองเราได้ยามที่เราเดือดร้อน ศาลปกครองเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราพึ่งพาได้

แม่ค้าก็จะปลอดภัย ไม่มีการเอาอะไรมากั้น เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะเอาลวดมากั้นหน้าตลาด ถ้าทำอย่างนั้นจริงก็โหดนะ พวกเราก็เลยรวมตัวกันไปเมื่อวาน แต่เขาลือกันหรือจะทำจริงเราก็ไม่รู้ แต่เมื่อรู้อย่างนั้นทำไมจะต้องรอให้เขาทำก่อน ทุกคนก็จะเดือดร้อนอย่างหนักอีก เพราะถือว่ารุนแรงมาก เพราะลวดหนามเป็นเรื่องของสงคราม เป็นของทหาร ใครเดินเฉียดมันก็กินเนื้อ ปล่อยไปอย่างนี้ทุกคนจะเดือดร้อน มันก็จะเป็นเรื่องอะไรที่รุนแรง ความคิดที่ทำให้เราแตกแยกมันก็จะมีแล้ว มือที่สามก็จะเข้ามาคือสิ่งที่เรากลัว

นายรอยาลี หะยีหะมะ พ่อค้าขายปลาในตลาดพิธาน กล่าวว่า เมื่อวานมีการปล่อยข่าวจากฝ่ายไหนก็ไม่รู้ แต่ไม่ใช่พ่อค้าแม่ค้าที่เดือดร้อน ว่าพวกเราจ้างพ่อค้าแม่ค้าไปร่วมร้องขอความเป็นธรรมกับศาล ปล่อยข่าวว่าเราไปประท้วง พวกเราไม่ได้ประท้วง แต่เราเดือดร้อนเราต้องไปขอความเป็นธรรมจากศาลปกครอง ทางเทศบาลเขาเรียกเราไปเราก็ไป ให้ไปฟังเราบอกอะไรเขาไม่ได้ฟัง หรือนำความเห็นของเราไปคิดเลย

“คนที่ไปเมื่อวาน มีแต่ช่วยกันออกเงินค่ารถ รวมเงินกันค่าอาหาร เพราะเราไปเราต้องเดินทาง ต้องใช้รถ ต้องกินข้าว เราไปเช้าตั้งแต่ 7 โมงเช้า ก็ไปนอนรอจนกว่าศาลจะทำงาน เสร็จแล้วให้คำตอบกับเราว่าเราสามารถขายของได้ต่อไปก่อน 5 โมงกว่าเราก็เดินทางกลับ รายจ่ายตรงนั้นทุกคนร่วมกันออก เพราะเราต่างเดือดร้อนเหมือนๆ กัน ถ้าไม่เดือดร้อนเราไม่ไปหรอก แต่นี่เราเดือดร้อน”
 

 
นายฮาเล็ม สามะ คนขับรถในตลาดพิธาน กล่าวว่า เขาให้เราไปขับรถส่งของที่ตลาดเทศบาล แล้วเขาจะเก็บจากเราเดือนละ 300 บาท เคยไปทำแล้วที่ตลาดเทศบาล ไม่มีคน ส่งของได้แค่วันหนึ่ง 100-150 บาท แต่ที่ตลาดพิธาน วันหนึ่งจะมีคนจ้างส่งของมากถึง 200-400 บาทต่อวัน แถมแต่ละวันไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลยที่จะต้องจ่ายให้เทศบาล เขามาทำแบบนี้กับพ่อค้าแม่ค้ามานานแล้ว จนพ่อค้าแม่ค้าปวดหัวหมด สร้างปัญหาให้พวกเราตลอด ล่าสุด คนที่ขายของที่ตลาดเทศบาลบอกว่า ทางเทศบาลได้เก็บค่าไม้กวาดด้วยคนละ 10 บาท ถามว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาดมีกี่ร้อยแผงเก็บคน 10 บาท แต่พ่อค้าแม่ค้าขายไม่ได้เขาไม่เคยคิด คิดแต่จะมาเก็บจากพวกเรา พ่อค้าแม่ค้าบางคนที่ไปขายที่ตลาดเทศบาล ตอนนี้ติดหนี้เป็นแถว บางคนถึงขั้นขายทองเอามาหมุน

น.ส.พีรดาว มะแซ แม่ค้าขายเป็ดในตลาดสดแห่งนี้ กล่าวว่า ตอนที่เปิดตลาดเทศบาลใหม่ๆ เจ้าหน้าที่มาบอกว่าให้ไปจองแผงขายของที่ตลาดเทศบาล เดี๋ยวจะไม่มีแผงขาย ก็ไปจอง 1 ล็อตขนาดเล็ก ต้องจ่ายรายเดือนๆ ละ 600 บาท ไปขายได้ 3 วัน ขายได้วันละ 900 บาท ก็ต้องกลับมาขายที่ตลาดพิธานเหมือนเดิม ยอมจ่ายวันละ 20 บาท จะขายของได้วันละ 2 หมื่นบาท ตอนนี้ก็ยังต้องจ่ายค่าแผงที่ตลาดเทศบาลด้วย เดือนละ 600 บาท และทางเทศบาลเขาจะให้ต่อสัญญารายปีๆ ละครั้ง การต่อสัญญาก็ต้องจ่ายค่าต่อสัญญาทุกปี 3,000 กว่าบาท

นอกจากนี้ เรายังต้องจ่ายภาษีโรงเรือนด้วย 1 ปี ราวๆ 700 บาท และที่สำคัญเราไม่ได้ขายของที่ตลาดเทศบาลเลยเป็นปีๆ แล้ว จ่ายช้าแค่วันเดียวปรับวันละ 10 บาท แต่ต้องจ่าย ทั้งหมดที่เล่ามาเพราะทุกๆ วัน เรามาขายของที่ตลาดพิธาน จ่ายรายวันที่ตลาดพิธาน 20 บาทเท่านั้น ไม่มาขายก็ไม่ต้องจ่าย พ่อค้าแม่ค้าก็จะรู้สึกว่า 20 บาท แทบไม่ใช่รายจ่าย แต่พอมาจ่ายเป็นก้อน แถมไม่ขายของยังต้องจ่ายด้วย ก็รู้สึกไม่เป็นธรรม ที่สำคัญไปแล้วขายไม่ได้จะให้ไปทำไม ก็อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรีด้วย ช่วยพ่อค้าแม่ค้าที่เดือดร้อนจากการกระทำนี้ด้วย
 


กำลังโหลดความคิดเห็น