ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ตาโป่ง” ชายชราวัย 85 ปี ได้รับบัตรประชาชนและรับสิทธิต่างๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนแล้ว ท่ามกลางรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจากที่มีการตรวจสอบดีเอ็นกับน้องสาวพบเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด และเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่สำนักงานเทศบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา, นายสุเมธ ศศิธร นายกเทศบาลเมืองสะเดา พร้อมด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณี นายช้อย แซ่เตียว อายุ 85 ปี หรือตาโป่ง ซึ่งไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ไม่มีบัตรผู้สูงอายุ และสวัสดิการต่างๆ จากภาครัฐ และใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบาก
โดยทางเทศบาลเมืองสะเดาและอำเภอสะเดา ได้ชี้แจงว่าที่ผ่านมา ได้ดูแลตาโป่งเป็นอย่างดีทั้งมอบข้าวสารอาหาร และเรื่องสุขภาพได้ส่งเจ้าหน้าที่แวะเวียนไปเยี่ยมตาโป่งเป็นประจำ ส่วนสาเหตุที่ไม่มีบัตรประชาชนและบัตรสวัสดิการต่างๆ เนื่องจาก ตาโป่ง อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ซอยรุ่งเรือง ชุมชนบ้านไพร ถนนกาญจนวานิช เขตเทศบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา และเป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ไม่ได้ประกอบอาชีพ และไม่มีรายได้
ในขณะที่ตาโป่ง บอกว่า ตนเองมีน้องสาวร่วมมารดาเดียวกัน ชื่อ นางยิ่นม่อย แซ่เตียว ซึ่งอาศัยอยู่ที่ตำบลคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นน้องสาวของ ตาโป่ง จริงมีบิดามารดาเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่จึงนำทั้งสองคนไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ปรากฏว่าผลตรวจออกมาชัดเจนว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันจริง
เมื่อทุกอย่างชัดเจนในวันนี้ (20 มิ.ย.) ทางเทศบาลเมืองสะเดาจึงได้มีการเพิ่มชื่อตาโป่งในทะเบียนราษฎร และออกบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งเพิ่มชื่อตาโป่งในบ้านเลขที่ 1/8 ถนน กาญจนวานิช ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามสิทธิสวัสดิการผู้สูงอายุ รวมทั้งช่วยเหลือเรื่องของสวัสดิการต่างๆจากภาครัฐตามสิทธ์ที่จะได้รับ
ซึ่งทำให้ในวันนี้ตาโป่ง มีใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขที่ได้เป็นคนไทยอย่างเต็มตัว และได้รับสิทธิ์ทุกอย่างไม่ลำบากเหมือนที่ผ่านมาแล้ว
