xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจภูธรภาค 8 โชว์ผลงานระดมกวาดล้างอาชญากรรม ได้ทั้งปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติดเพียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูธรภาค 8 โชว์ผลงานระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ ได้ของกลางทั้งอาวุธปืน อาวุธสงคราม และยาเสพติดเพียบ พร้อมเร่งรัดจับกุมคดีต่างๆ ได้เป็นที่น่าพอใจ

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมไม้ขาว ตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันท์ รอง ผบช.ภ 8 ผู้บังคับการตำรวจภูธรในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมแถลงข่าวการปิดล้อมตรวจค้นและระดมกวาดล้างอาชญากรรม ผลการปฏิบัติในห้วงที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม 2562 ระหว่างวันที่ 23-31 พฤษภาคม 2562 และผลการปฏิบัติในห้วงที่ 1 ของเดือนมิถุนายน 2562 วันที่ 5-14 มิถุนายน 2562

พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ 8 เผยว่า เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทำแผนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ประจำปี 2562 “พิทักษ์ภัยให้กับประชาชน 2562” ซึ่งเป็นแผนหลักให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการ ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 ได้ออกแผนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ประจำปีงบประมาณ 2562 “ตาปี/2561” ขึ้นรองรับและกำหนดแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกในการป้องกันอาชญากรรม เพื่อบูรณาการและเสริมสร้างการดำเนินการตามแผนปฏิบัติดังกล่าวให้สอดคล้องและเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สถานีตำรวจ ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดปฏิบัติในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ โดยกำหนดแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานระบบ KPI (Key Performance Indicator) มาใช้ รวมทั้งจัดทำโครงการต่างๆ ขึ้นเพื่อรองรับให้ครอบคลุมการปฏิบัติในทุกมิติ

การปิดล้อมตรวจค้นเป็นมาตรการหนึ่งในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเชิงรุก จึงได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัด 121 สถานี ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเดือนละ 2 ครั้งๆ ละ 10 วันอย่างต่อเนื่องทุกเดือน โดยกำหนดเป้าหมายได้แก่ อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ผู้ต้องหาตามหมายจับและสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภทตามสถานภาพอาชญากรรมของพื้นที่ ดังนี้ สถานีตำรวจระดับผู้กำกับการ เป็นหัวหน้าสถานี จำนวน 20 เป้าหมายต่อครั้ง สถานีตำรวจระดับผู้กำกับการเป็นหัวหน้าสถานี จำนวน 15 เป้าหมายต่อครั้ง สถานีตำรวจระดับสารวัตรใหญ่เป็นหัวหน้าสถานี จำนวน 10 เป้าหมายต่อครั้ง และสถานีตำรวจระดับสารวัตรเป็นหัวหน้าสถานี 5 เป้าหมายต่อครั้ง

สำหรับผลการปฏิบัติในการแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นผลการปฏิบัติในห้วงที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม 2562 ระหว่างวันที่ 23-31 พฤษภาคม 2562 และผลการปฎิบัติงานในห้วงที่ 1 ของเดือนมิถุนายน 2562 ระหว่างวันที่ 5-14 มิถุนายน 2562 โดยมีการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 3,562 เป้าหมาย พบการกระทำผิด จำนวน 2,425 เป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 68.07 ไม่พบการกระทำผิด จำนวน 1,138 เป้าหมาย คิดเป็น 31.93% ผลการจับกลุ่มสิ่งผิดกฎหมายจำนวน 3,115 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 3,406 คน โดยแบ่งประเภทดังนี้ กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด จำนวน 2,058 ราย ผู้ต้องหา 2,127 คน ของกลางได้แก่ ยาบ้า จำนวน 337,059 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 2,903 กรัม เฮโรอีน จำนวน 2.55 กรัม กัญชา จำนวน 2,142 กรัม พืชกระท่อม จำนวน 30,730 กิโลกรัม และ น้ำกระท่อม จำนวน 252 ลิตร ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน จำนวน 238 ราย ผู้ ต้องหา จำนวน 238 คน ของกลางประกอบด้วย อาวุธปืน จำนวน 234 กระบอก กระสุน จำนวน 1,162 นัด วัตถุระเบิด จำนวน 1 ลูก โดยแบ่งเป็นปืนธรรมดา มีทะเบียนและไม่มีทะเบียน จำนวน 232 กระบอก กระสุน 1,162 นัด อาวุธสงคราม 2 กระบอก วัตถุระเบิด 1 ลูก

นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมคดีค้างเก่าได้จำนวน 162 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 162 คน การกระทำผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน จำนวน 102 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 210 คน การกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จำนวน 103 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 103 คน ในคดีอื่นๆ อีก จำนวน 542 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 561 คน

พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ในส่วนของคดีอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดในการจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่วด่วน ซึ่งจะเห็นว่าหลายๆ คดีที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาค 8 ไม่ว่าจะเป็นคดีข่มขืนแหม่มที่เกาะพะงัน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายและส่งดำเนินคดีได้ภายใน 14 วัน คดียิงกันในพื้นที่กระบี่ คดีฆ่าแล้วเผาที่สุราษฎร์ธานี และคดีฆ่าแล้วนำศพไปทิ้งที่ภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจในทุกพื้นที่




กำลังโหลดความคิดเห็น