.
โดย… ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
.
.
สังคมไทยไม่เคยขาด “ข่าวฮือฮา”..?!
.
ไม่ว่าจะเป็นน้ำวิเศษที่ผุดขึ้นจากพื้นอย่างประหลาด จนคนแห่ไปจุดธูปแล้วตักมาดื่มกิน ด้วยคิดว่าจะรักษาโรคได้ สุดท้ายโอละพ่อ เป็นน้ำจากท่อน้ำทิ้งสุขาใกล้กันแตกรั่ว ทำเอาล้วงคออ้วกกันเกือบทั้งหมู่บ้าน หรือเรื่องเป็นสัตว์ 5 ขา สัตว์สีสันแปลกตา ที่ผิดปกติไปตามธรรมดาของสิ่งมีชีวิตทั่วไป ซึ่งนั่นก็ผิดพลาดกันได้ แต่คอหวยบอกว่า นี่แหละเลขเด็ด เทวดาฟ้าท่านบันดาลเลขมาให้
.
หรือแม้แต่เจลต่างดาว ซึ่งถูกระบุว่าหล่นจากฟ้ามาช่วยรักษาโรค แต่สุดท้ายความจริงปรากฏว่าเป็นเจลลดไข้เด็กที่ตากฝนมาเต็มเหนี่ยว จนกลายสภาพเป็นวัตถุต่างดาวที่ดูขุ่นขาว
.
.
เด็ดกว่านี้ก็ยังมี เมื่อไม่นานมานี้บางพื้นที่ก็เจอฝนประหลาดตกใต้ต้นไม้ต้นเดียว ทั้งที่ในบริเวณนั้นมีต้นไม้หลายต้น ใต้ต้นอื่นๆ ไม่มีฝนตกเลย ไทยมุงก็แห่มาดู ชาวบ้านพากันมารองน้ำฝนประหลาดไปดื่มกิน แล้วลือกันว่ารักษาได้เป็นอย่างดี กรณีนี้คนที่เคยเจอะเจอหัวเราะแทบตกเก้าอี้ เพราะนั่นคือฉี่จั๊กจั่นล้วนๆ ไม่มีน้ำวิเศษหรือยาอะไรเจือปนเลย
.
.
ล่าสุดมีข่าวฮือฮากันสะเทือนไปทั้งสังคมไทย ในโลกสื่อสังคมออนไลน์พากันกดไลค์ กดแชร์กันรัวๆ เพราะเป็นเรื่องแปลกใหม่ ทันสมัยยุค 5 จี หรือไทยแลนด์ 4.0 เพราะเป็นความเชื่อที่มีต่อ
.
“สมาร์ทการ์ด” หรือ “บัตรพลังงาน”
.
บัตรเดียวที่มีสรรพคุณครอบจักรวาล รักษาได้ทุกโรค วิเศษวิโสชนิดที่ “บัตรทอง 30 บาท” ยังต้องหลบ แถมยังเยียวยาความยาคนหาเช้ากินค่ำด้วยการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า แถมลดการบริโภคน้ำมันของเครื่องยนต์ได้อย่างอัศจรรย์ จนต้องบอกว่า “บัตรคนจน” ของรัฐบาลซานต้าตู่ยังต้องหนี
.
.
ความจริง “บัตรพลังงาน” นี้มีจุดเริ่มบนแผ่นดินด้ามขวานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่กลับไปสร้างชื่อเสียงโด่งดังบนแผ่นดินที่ราบสูงหน้าขวาน เมื่อชาวบ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และหมู่บ้านใกล้เคียงแห่ไปซื้อมาใช้กันอย่างคึกคัก
.
สรรพคุณแรกที่โดนใจตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน “บัตรพลังงาน” นี้ใช้ง่ายยิ่งกว่า “บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค” เพราะไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าไปวางรองเท้าต่อคิวรอหมอที่โรงพยาบาล แค่เอามาแตะตามร่างกายก็รักษาอาการเจ็บปวดต่างๆ ได้ปลิดทิ้ง
.
.
บ้างก็ว่าเอาน้ำใส่แก้วมาวางทับบัตร แล้วอธิษฐานสักนิด ดื่มกินน้ำนั้นแก้โรคร้ายแรงได้ หายป่วยสมใจ หรือถ้ายังไม่แน่ใจว่าร่างกายได้รับพลังงานอย่างเต็มเหนี่ยว ก็เอาบัตรจุ่มน้ำลงแก้วไปเลยก่อนจะเอาดื่มกิน วิธีนี้เชื้อโรคตายหมดแน่นอน
.
แต่ก็ยังไม่มีรายงานว่า มีตัวแทนเจ้าไหนแนะนำชาวบ้านให้เอาบัตรพลังงานอมเข้าไปปากไปเลย หรือเอาไปตำผสมข้าวกิน!
.
ยัง! ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ บัตรสารพัดประโยชน์ที่สรรพคุณครอบจักรวาล รักษาโรคแล้วยังใช้ทำอย่างอื่นได้อีกด้วย นั่นคือมีรายงานว่า ชาวบ้านสามขา ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร ที่ซื้อบัตรพลังงานเพราะคนขายอ้างสรรพประโยชน์ของบัตรนี้ไกด้แบบตีใจว่า นอกจากจะช่วยรักษาโรคภัยสารพัดชนิดแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟ ประหยัดน้ำมันอีกด้วย โอแม่เจ้า?!
.
วิธีการคือ ให้นำบัตรพลังงานไปแปะติดที่ปลั๊กไฟสักชั่วเวลาไม่นาน แล้วจะช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้า ในขณะเดียวกันหากนำไปแปะติดแบบเดียวกันที่ถังน้ำมันรถ นั่นก็จะช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันได้อีกเช่นกัน มหัศจรรย์จริง?!
.
เมื่อ “บัตรพลังงาน” ดีขนาดนี้ ในยุคที่เศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบสุดๆ แต่ค่าไฟฟ้ากลับทยานเบิกบานขึ้นเรื่อยๆ แถมน้ำมันก็จำเป็นต้องใช้แบบไม่สามารถที่จะหาอะไรทดแทนได้ รายจ่ายมีแต่จะเพิ่ม รายได้กลับลดเอาๆ จนเครียดและเจ็บป่วยไปตามๆ กับ “บัตรทอง 30 บาท” ก็เอาไม่อยู่ “บัตรคนจน” ก็ไม่เคยเพียงพอต่อภาระที่เกิดขึ้น ใครบ้างละจะไม่อยากลอง?!
.
.
สนนราคาตามท้องตลาดของ “บัตรพลังงาน” สรรพคุณครอบจักรวาลเริ่มต้นที่ 1,100 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท แต่หากจะเข้าเป็นตัวแทนขายก็ต้องสมัครสมาชิกก่อน พร้อมจ่ายค่าสมัครสูงถึง 4,400 บาท จากนั้นจะได้รับการอบรม พร้อมได้รับบัตร 5 ใบ เมื่อจบหลักสูตรก็จะมีสิทธิไปรับสมาชิกเพิ่มได้ หากมีลูกสายก็จะได้รับส่วนแบ่ง ได้เงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ
.
หลังเป็นข่าวใหญ่โต หน่วยงานรัฐก็วิ่งตามกระแส โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น “นายสมศักดิ์ จังตระกูล” ที่สั่งการให้ทั้ง 26 อำเภอในความดูแลเข้าตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะห่วงใยว่าจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
.
ข่าวใหญ่ในเรื่องนี้ทำให้ต้องติดตามกันทุกมิติแล้วสาวไปหาต้นตอ ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2562 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงานใน จ.สงขลา ก็พากันเข้าไปบุกตรวจค้น “บริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค จำกัด” ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบค้นที่มาที่ไปมาแล้วพบว่า ที่มาที่ไปของบัตรพลังงานเหล่านี้มาจากบริษัทนี้นั่นเอง
.
แต่เมื่อทัพเจ้าหน้าที่และนักข่าวไปถึงที่ตั้งบริษัทก็พบว่า บริษัทนี้ได้ปิดตายมาแล้วหลายวัน เจ้าหน้าที่จึงต้องตัดกุญแจเข้าไปตรวจสอบ แล้วก็พบข้อมูลการจัดรูปแบบของบริษัทเป็นเหมือน “ธุรกิจขายตรง” นั่นคือ มีบอร์ดแสดงการประชุมเครือข่ายในจังหวัดต่างๆ รวมทั้ง จ.ขอนแก่น ที่บัตรพลังงานเดินทางไปสร้างความโด่งดังจากที่นั่น
.
.
นอกจากนี้ยังได้พบเห็น “บัตรพลังงาน” วางอยู่ด้วยอีก 1 กล่อง พร้อมโบรชัวร์บรรยายสรรพคุณไว้อย่างละเอียดยิบว่า เป็นเทคโนโลยีจากเยอรมนี ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน ดีเซล แอลพีจี เอ็นจีวี ปรับค่าความเสถียรของกระแสไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายส่วนเกิน เพิ่มพลังงาน เสริมสร้างและซ่อมแซมสุขภาพ และบัตรนี้มีอายุการใช้งานขั้นต่ำ 5 ปี รับประกันประจุ 3 ปี อีกทั้งยังพบผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมสุขภาพจำนวนหนึ่งด้วย
.
ด้านเจ้าของบริษัทเอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค “นายธนัช สุรินทร์“ ออกมาแถลงปัดไม่ได้เป็นเจ้าของบัตร แต่บัตรเหล่านั้นเป็นของ “บริษัท LA Geniusm” ที่ขาดทุนแล้วเจ้าของได้ทิ้งทุ่นกลับมาเลเซียไปแล้ว แต่ได้ทิ้งบัตรประมาณ 1 พันใบไว้ให้ที่บริษัทของตน แล้วตนเองก็เคยเอาไปเหน็บสีข้างที่ปวดก็หายปวด เมื่อเห็นว่าเป็นบัตรดีจริงเลยเอาไปแจกให้ลูกค้าอาหารเสริมของธุรกิจตน แจกไปเรื่อยๆ ใครขอก็ให้
.
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อปฏิเสธไม่ได้เป็นเจ้าของบัตร นั่นก็ต้องว่ากันต่อไป แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา ได้ไปแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่า อาหารเสริมของบริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค จำกัด มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 และมีการตั้งข้อหาแสดงสลากไม่ถูกต้อง แถมเลข อย.ไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้นด้วย
.
ส่วนเรื่องราวอันเป็นผลสืบเนื่องนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2562 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้นำบัตรพลังงานไปตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มีทั้ง “ความน่าสะพรึงกลัว” และ “ความน่าตะลึงพรึงเพริด” เสียยิ่งกว่าสรรพคุณบัตรที่ถูกอ้างบรรยายไว้เสียเลิศเลอ นั่นคือ มีการตรวจพบว่า มีสารรกัมมันตภาพรังสีสูงกว่าค่าปกติที่คนเราจะรับได้ถึง 350 เท่า!
.
ไม่เพียงเท่านั้น ผลการตรวจยังพบอีกว่า หากนำไปผสมน้ำดื่ม มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง ย้ำ! “โรคมะเร็ง” นอกจากจะอันตรายต่อสุขภาพและร่างกายแล้ว ยังอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2559 อีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่ารับกันไปเต็มๆ 2 เด้ง?!
.
.
สำหรับปรากฏการณ์ข่าวอันเป็นเรื่องราวของ “บัตรพลังงาน” สะท้อนให้เห็นว่า เวลานี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย มีบางอย่างที่เป็นความหวังของคนไทย แม้โลกจะก้าวไปถึงไหน องกรค์นาซ่าไม่อยากพูดถึงการไปเหยียบดวงจันทร์แล้ว แต่กำลังจะไปให้ไกลถึงบริเวณขอบของจักรวาล
.
แต่สังคมไทยและโดยเฉพาะคนไทยจำนวนหนึ่งก็ยังฝากความหวังไว้กับ “บางสิ่ง” อันเป็นบางสิ่งที่บางครั้งก็รู้อยู่แก่ใจว่า “มันไม่เป็นจริง” แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทดลอง คำว่า “ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่” ยังคงดังดังก้องอยู่ในหูเสมอของคนจำนวนหนึ่งบนแผ่นดินขวามทองนี้
.
ไม่ว่าจะระบบสาธารณสุข ระบบการศึกษา หรือระบบอะไรอีกมากมายในประเทศไทยเรานี้ แม้จะทำให้คนบางส่วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก้าวพ้นความเชื่อผิดๆ ไปได้ แต่ก็ยังมีคนบางส่วนที่ไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร ยังคงต้องการและเลือกใช้ “บางทางเลือก” ที่เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบความเชื่อดั้งเดิม ศาลพระภูมิ เจ้าที่ เจ้าทาง ผีสางเทวดา
.
หรือแม้แต่อุปกรณ์ทันสมัยอย่าง “สมาร์ทการ์ด” ในชื่อ “บัตรพลังงาน” ว่าจะช่วยให้พวกเขาพ้นทุกข์ อันเป็นทุกข์ที่รัฐไม่อาจจะบรรเทาให้หมดไปได้
.
แม้เวลานี้น่าจะปิดคดีบัตรพลังงานได้แล้ว แต่ต่อไปก็ยังน่าจะมี “ของวิเศษ” ออกมาสร้างความฮือฮากันได้อีก อย่างน้อยๆ ก็ทุกต้นเดือนและกลางเดือนที่จะมีข่าวออกมาให้เห็นว่า ตรงนั้นดี ตรงนี้เด็ด แม้แต่เลขทะเบียนรถนายกรัฐมนตรียังให้โชคได้เลย?!
.
โดย… ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
.
.
สังคมไทยไม่เคยขาด “ข่าวฮือฮา”..?!
.
ไม่ว่าจะเป็นน้ำวิเศษที่ผุดขึ้นจากพื้นอย่างประหลาด จนคนแห่ไปจุดธูปแล้วตักมาดื่มกิน ด้วยคิดว่าจะรักษาโรคได้ สุดท้ายโอละพ่อ เป็นน้ำจากท่อน้ำทิ้งสุขาใกล้กันแตกรั่ว ทำเอาล้วงคออ้วกกันเกือบทั้งหมู่บ้าน หรือเรื่องเป็นสัตว์ 5 ขา สัตว์สีสันแปลกตา ที่ผิดปกติไปตามธรรมดาของสิ่งมีชีวิตทั่วไป ซึ่งนั่นก็ผิดพลาดกันได้ แต่คอหวยบอกว่า นี่แหละเลขเด็ด เทวดาฟ้าท่านบันดาลเลขมาให้
.
หรือแม้แต่เจลต่างดาว ซึ่งถูกระบุว่าหล่นจากฟ้ามาช่วยรักษาโรค แต่สุดท้ายความจริงปรากฏว่าเป็นเจลลดไข้เด็กที่ตากฝนมาเต็มเหนี่ยว จนกลายสภาพเป็นวัตถุต่างดาวที่ดูขุ่นขาว
.
.
เด็ดกว่านี้ก็ยังมี เมื่อไม่นานมานี้บางพื้นที่ก็เจอฝนประหลาดตกใต้ต้นไม้ต้นเดียว ทั้งที่ในบริเวณนั้นมีต้นไม้หลายต้น ใต้ต้นอื่นๆ ไม่มีฝนตกเลย ไทยมุงก็แห่มาดู ชาวบ้านพากันมารองน้ำฝนประหลาดไปดื่มกิน แล้วลือกันว่ารักษาได้เป็นอย่างดี กรณีนี้คนที่เคยเจอะเจอหัวเราะแทบตกเก้าอี้ เพราะนั่นคือฉี่จั๊กจั่นล้วนๆ ไม่มีน้ำวิเศษหรือยาอะไรเจือปนเลย
.
.
ล่าสุดมีข่าวฮือฮากันสะเทือนไปทั้งสังคมไทย ในโลกสื่อสังคมออนไลน์พากันกดไลค์ กดแชร์กันรัวๆ เพราะเป็นเรื่องแปลกใหม่ ทันสมัยยุค 5 จี หรือไทยแลนด์ 4.0 เพราะเป็นความเชื่อที่มีต่อ
.
“สมาร์ทการ์ด” หรือ “บัตรพลังงาน”
.
บัตรเดียวที่มีสรรพคุณครอบจักรวาล รักษาได้ทุกโรค วิเศษวิโสชนิดที่ “บัตรทอง 30 บาท” ยังต้องหลบ แถมยังเยียวยาความยาคนหาเช้ากินค่ำด้วยการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า แถมลดการบริโภคน้ำมันของเครื่องยนต์ได้อย่างอัศจรรย์ จนต้องบอกว่า “บัตรคนจน” ของรัฐบาลซานต้าตู่ยังต้องหนี
.
.
ความจริง “บัตรพลังงาน” นี้มีจุดเริ่มบนแผ่นดินด้ามขวานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่กลับไปสร้างชื่อเสียงโด่งดังบนแผ่นดินที่ราบสูงหน้าขวาน เมื่อชาวบ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และหมู่บ้านใกล้เคียงแห่ไปซื้อมาใช้กันอย่างคึกคัก
.
สรรพคุณแรกที่โดนใจตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน “บัตรพลังงาน” นี้ใช้ง่ายยิ่งกว่า “บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค” เพราะไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าไปวางรองเท้าต่อคิวรอหมอที่โรงพยาบาล แค่เอามาแตะตามร่างกายก็รักษาอาการเจ็บปวดต่างๆ ได้ปลิดทิ้ง
.
.
บ้างก็ว่าเอาน้ำใส่แก้วมาวางทับบัตร แล้วอธิษฐานสักนิด ดื่มกินน้ำนั้นแก้โรคร้ายแรงได้ หายป่วยสมใจ หรือถ้ายังไม่แน่ใจว่าร่างกายได้รับพลังงานอย่างเต็มเหนี่ยว ก็เอาบัตรจุ่มน้ำลงแก้วไปเลยก่อนจะเอาดื่มกิน วิธีนี้เชื้อโรคตายหมดแน่นอน
.
แต่ก็ยังไม่มีรายงานว่า มีตัวแทนเจ้าไหนแนะนำชาวบ้านให้เอาบัตรพลังงานอมเข้าไปปากไปเลย หรือเอาไปตำผสมข้าวกิน!
.
ยัง! ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ บัตรสารพัดประโยชน์ที่สรรพคุณครอบจักรวาล รักษาโรคแล้วยังใช้ทำอย่างอื่นได้อีกด้วย นั่นคือมีรายงานว่า ชาวบ้านสามขา ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร ที่ซื้อบัตรพลังงานเพราะคนขายอ้างสรรพประโยชน์ของบัตรนี้ไกด้แบบตีใจว่า นอกจากจะช่วยรักษาโรคภัยสารพัดชนิดแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟ ประหยัดน้ำมันอีกด้วย โอแม่เจ้า?!
.
วิธีการคือ ให้นำบัตรพลังงานไปแปะติดที่ปลั๊กไฟสักชั่วเวลาไม่นาน แล้วจะช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้า ในขณะเดียวกันหากนำไปแปะติดแบบเดียวกันที่ถังน้ำมันรถ นั่นก็จะช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันได้อีกเช่นกัน มหัศจรรย์จริง?!
.
เมื่อ “บัตรพลังงาน” ดีขนาดนี้ ในยุคที่เศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบสุดๆ แต่ค่าไฟฟ้ากลับทยานเบิกบานขึ้นเรื่อยๆ แถมน้ำมันก็จำเป็นต้องใช้แบบไม่สามารถที่จะหาอะไรทดแทนได้ รายจ่ายมีแต่จะเพิ่ม รายได้กลับลดเอาๆ จนเครียดและเจ็บป่วยไปตามๆ กับ “บัตรทอง 30 บาท” ก็เอาไม่อยู่ “บัตรคนจน” ก็ไม่เคยเพียงพอต่อภาระที่เกิดขึ้น ใครบ้างละจะไม่อยากลอง?!
.
.
สนนราคาตามท้องตลาดของ “บัตรพลังงาน” สรรพคุณครอบจักรวาลเริ่มต้นที่ 1,100 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท แต่หากจะเข้าเป็นตัวแทนขายก็ต้องสมัครสมาชิกก่อน พร้อมจ่ายค่าสมัครสูงถึง 4,400 บาท จากนั้นจะได้รับการอบรม พร้อมได้รับบัตร 5 ใบ เมื่อจบหลักสูตรก็จะมีสิทธิไปรับสมาชิกเพิ่มได้ หากมีลูกสายก็จะได้รับส่วนแบ่ง ได้เงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ
.
หลังเป็นข่าวใหญ่โต หน่วยงานรัฐก็วิ่งตามกระแส โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น “นายสมศักดิ์ จังตระกูล” ที่สั่งการให้ทั้ง 26 อำเภอในความดูแลเข้าตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะห่วงใยว่าจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน
.
ข่าวใหญ่ในเรื่องนี้ทำให้ต้องติดตามกันทุกมิติแล้วสาวไปหาต้นตอ ซึ่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2562 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงานใน จ.สงขลา ก็พากันเข้าไปบุกตรวจค้น “บริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค จำกัด” ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบค้นที่มาที่ไปมาแล้วพบว่า ที่มาที่ไปของบัตรพลังงานเหล่านี้มาจากบริษัทนี้นั่นเอง
.
แต่เมื่อทัพเจ้าหน้าที่และนักข่าวไปถึงที่ตั้งบริษัทก็พบว่า บริษัทนี้ได้ปิดตายมาแล้วหลายวัน เจ้าหน้าที่จึงต้องตัดกุญแจเข้าไปตรวจสอบ แล้วก็พบข้อมูลการจัดรูปแบบของบริษัทเป็นเหมือน “ธุรกิจขายตรง” นั่นคือ มีบอร์ดแสดงการประชุมเครือข่ายในจังหวัดต่างๆ รวมทั้ง จ.ขอนแก่น ที่บัตรพลังงานเดินทางไปสร้างความโด่งดังจากที่นั่น
.
.
นอกจากนี้ยังได้พบเห็น “บัตรพลังงาน” วางอยู่ด้วยอีก 1 กล่อง พร้อมโบรชัวร์บรรยายสรรพคุณไว้อย่างละเอียดยิบว่า เป็นเทคโนโลยีจากเยอรมนี ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน ดีเซล แอลพีจี เอ็นจีวี ปรับค่าความเสถียรของกระแสไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายส่วนเกิน เพิ่มพลังงาน เสริมสร้างและซ่อมแซมสุขภาพ และบัตรนี้มีอายุการใช้งานขั้นต่ำ 5 ปี รับประกันประจุ 3 ปี อีกทั้งยังพบผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมสุขภาพจำนวนหนึ่งด้วย
.
ด้านเจ้าของบริษัทเอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค “นายธนัช สุรินทร์“ ออกมาแถลงปัดไม่ได้เป็นเจ้าของบัตร แต่บัตรเหล่านั้นเป็นของ “บริษัท LA Geniusm” ที่ขาดทุนแล้วเจ้าของได้ทิ้งทุ่นกลับมาเลเซียไปแล้ว แต่ได้ทิ้งบัตรประมาณ 1 พันใบไว้ให้ที่บริษัทของตน แล้วตนเองก็เคยเอาไปเหน็บสีข้างที่ปวดก็หายปวด เมื่อเห็นว่าเป็นบัตรดีจริงเลยเอาไปแจกให้ลูกค้าอาหารเสริมของธุรกิจตน แจกไปเรื่อยๆ ใครขอก็ให้
.
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อปฏิเสธไม่ได้เป็นเจ้าของบัตร นั่นก็ต้องว่ากันต่อไป แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา ได้ไปแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่า อาหารเสริมของบริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค จำกัด มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 และมีการตั้งข้อหาแสดงสลากไม่ถูกต้อง แถมเลข อย.ไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้นด้วย
.
ส่วนเรื่องราวอันเป็นผลสืบเนื่องนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2562 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้นำบัตรพลังงานไปตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มีทั้ง “ความน่าสะพรึงกลัว” และ “ความน่าตะลึงพรึงเพริด” เสียยิ่งกว่าสรรพคุณบัตรที่ถูกอ้างบรรยายไว้เสียเลิศเลอ นั่นคือ มีการตรวจพบว่า มีสารรกัมมันตภาพรังสีสูงกว่าค่าปกติที่คนเราจะรับได้ถึง 350 เท่า!
.
ไม่เพียงเท่านั้น ผลการตรวจยังพบอีกว่า หากนำไปผสมน้ำดื่ม มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง ย้ำ! “โรคมะเร็ง” นอกจากจะอันตรายต่อสุขภาพและร่างกายแล้ว ยังอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2559 อีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่ารับกันไปเต็มๆ 2 เด้ง?!
.
.
สำหรับปรากฏการณ์ข่าวอันเป็นเรื่องราวของ “บัตรพลังงาน” สะท้อนให้เห็นว่า เวลานี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย มีบางอย่างที่เป็นความหวังของคนไทย แม้โลกจะก้าวไปถึงไหน องกรค์นาซ่าไม่อยากพูดถึงการไปเหยียบดวงจันทร์แล้ว แต่กำลังจะไปให้ไกลถึงบริเวณขอบของจักรวาล
.
แต่สังคมไทยและโดยเฉพาะคนไทยจำนวนหนึ่งก็ยังฝากความหวังไว้กับ “บางสิ่ง” อันเป็นบางสิ่งที่บางครั้งก็รู้อยู่แก่ใจว่า “มันไม่เป็นจริง” แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทดลอง คำว่า “ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่” ยังคงดังดังก้องอยู่ในหูเสมอของคนจำนวนหนึ่งบนแผ่นดินขวามทองนี้
.
ไม่ว่าจะระบบสาธารณสุข ระบบการศึกษา หรือระบบอะไรอีกมากมายในประเทศไทยเรานี้ แม้จะทำให้คนบางส่วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก้าวพ้นความเชื่อผิดๆ ไปได้ แต่ก็ยังมีคนบางส่วนที่ไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร ยังคงต้องการและเลือกใช้ “บางทางเลือก” ที่เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบความเชื่อดั้งเดิม ศาลพระภูมิ เจ้าที่ เจ้าทาง ผีสางเทวดา
.
หรือแม้แต่อุปกรณ์ทันสมัยอย่าง “สมาร์ทการ์ด” ในชื่อ “บัตรพลังงาน” ว่าจะช่วยให้พวกเขาพ้นทุกข์ อันเป็นทุกข์ที่รัฐไม่อาจจะบรรเทาให้หมดไปได้
.
แม้เวลานี้น่าจะปิดคดีบัตรพลังงานได้แล้ว แต่ต่อไปก็ยังน่าจะมี “ของวิเศษ” ออกมาสร้างความฮือฮากันได้อีก อย่างน้อยๆ ก็ทุกต้นเดือนและกลางเดือนที่จะมีข่าวออกมาให้เห็นว่า ตรงนั้นดี ตรงนี้เด็ด แม้แต่เลขทะเบียนรถนายกรัฐมนตรียังให้โชคได้เลย?!
.
