ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำประปาในช่วงหน้าแล้ง เร่งสูบน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำบางวาด หาแหล่งน้ำให้การประปาและเทศบาลนครภูเก็ตผลิตน้ำประปาแทนใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำ ซื้อจากเอกชน หวังเก็บไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานโครงการชลประทานจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น นายสมสวัสดิ์ ฉายสินสอน ผอ.โครงการชลประทานภูเก็ต นายไกรสร มะหะหมัด ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต นายถาวร จิรพัฒนโสภณ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ตัวแทนจากบริษัท โกลด์ ซอร์ส จำกัด ตัวแทนจากแขวงทางหลวงชนบท เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต อุตุฯ เข้าร่วม เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำโดยเร่งด่วน
เนื่องจากในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตได้ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในหลายพื้นที่ และหากปล่อยให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเกิดขึ้นในช่วงหน้าแล้งของภูเก็ตเกิดขึ้นต่อเนื่องในหลายๆ ปี จะส่งผลกระทบต่อประชาชน ธุรกิจการท่องเที่ยว รวมไปถึงการขยายตัวด้านการลงทุนของภูเก็ตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยทางชลประทานจังหวัดภูเก็ตได้รายงานสถานการณ์น้ำดิบในอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ และอ่างเก็บน้ำบางวาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่สำคัญสำหรับการผลิตน้ำประปาของจังหวัดภูเก็ต โดยที่อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือเพียง 9.4% และคาดว่าถึงสิ้นปี 2562 นี้ ปริมาณน้ำจะเหลือ 19% ไม่น่าจะเพียงพอต่อการใช้น้ำในช่วงหน้าแล้งปีหน้า ขณะที่อ่างเก็บน้ำบางวาด ปริมาณน้ำ ณ วันนี้ เหลือ 8.4% และคาดว่าถึงสิ้นปี 2562 นี้ ปริมาณน้ำจะเหลือประมาณ 62% ของความจุอ่าง 10.2 ล้าน ลบ.ม.และสามารถสูบน้ำเติมเข้าเขื่อนได้อีก 10.9 ล้าน ลบ.ม.
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่เพียงพอต่อความต้องการตลอดทั้งปี และรองรับการใช้น้ำในช่วงหน้าแล้งปีหน้า ทางชลประทานภูเก็ต ได้นำเสนอแผนงานโครงการที่จะดำเนินการในระยะสั้น เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างเร่งด่วน โดยยึดแนวทางให้การประปาส่วนภูมิภาค และเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำบางวาดและบางเหนียวดำผลิตน้ำประปาให้น้อยที่สุด เพื่อเก็บน้ำดิบสำรองไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งปีหน้าให้เพียงพอ ภูเก็ตจะได้ไม่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนักเหมือนหน้าแล้งปีนี้ โดยการดึงน้ำจากแหล่งอื่นๆ มาใช้แทน
โดยที่โรงกรองน้ำบางโจ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอถลาง ได้วางแผนที่จะสูบน้ำจากคลองเจ๊ะตรา และนำน้ำจากขุมเหมืองหม่านิกมาใช้ ซึ่งในส่วนของการสูบน้ำจากคลองเจ๊ะตรา ที่มีปริมาณน้ำถึงปีละ 6.73 ล้าน ลบ.ม. ตามแผนที่วางไว้ทางการประปาภูเก็ตจะตั้งอาคารทดน้ำและโรงสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำส่งต่อไปยังโรงกรองน้ำบางโจ และในส่วนของน้ำจากขุมเหมืองหม่านิกนั้น ทางการประแจ้งว่าจะสามารถใช้น้ำได้อีก 20 วันเท่านั้น รวมทั้งขณะนี้ทางการประปาได้ซื้อน้ำประปาจากบริษัทเอกชนที่ผลิตน้ำขายให้แก่การประปาส่วนภูมิภาควันละ 7,500 ลบ.ม.และจะเพิ่มเป็น 15,000 ลบ.ม.ในอีก 2 เดือนข้างหน้าที่จะเพียงพอต่อความต้องการในพื้นที่ที่การประปาส่งน้ำให้แก่ประชาชน
ส่วนอ่างเก็บน้ำบางวาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคและเทศบาลนครภูเก็ต วันละ 68,000 ลบ.ม.นั้น ได้กำหนดแผนงานที่จะสูบน้ำจากคลองบางใหญ่เข้าอ่างเก็บน้ำให้มากขึ้น โดยการย้ายเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำจากคลองบางใหญ่จุดใกล้ๆ ตลาดน้ำ รวมถึงเร่งรัดแผนขยายระบบสูบน้ำสรรพสามิต จากที่จะดำเนินการในปี 2564 เป็นปี 2563 และในส่วนของเทศบาลนครภูเก็ตให้ขยายกำลังการผลิตโรงสูบน้ำขุมวชิระภูเก็ตให้เต็มกำลัง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดแผนในการบริหารจัดการน้ำเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักภูเก็ตมีน้ำต้นทุนที่เพียงพอต่อความต้องการ เช่น โครงการเติมน้ำให้อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ สร้างแหล่งน้ำดิบเพิ่มเติมที่เป็นห้วย หนอง คลอง บึง การสร้างอ่างเก็บน้ำที่ปลายแหลมสะพานหิน ให้ลักษณะคล้ายๆ กับที่มารีน่า เบย์ ประเทศสิงคโปร์ การสร้างเขื่อนใต้ดิน ปรับปรุงแหล่งน้ำสาธารณะ และนำน้ำจากขุมเหมืองเอกชนมาใช้ เป็นต้น