xs
xsm
sm
md
lg

คาดต้องป้อนนมพะยูนน้อย “มาเรียม” ไปอีกกว่า 1 ปี จนกว่าจะแข็งแรงมากพอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ตรัง - สัตวแพทย์คาดต้องป้อนนม “เจ้ามาเรียม” ต่อเนื่องไปอีกกว่า 1 ปี จนกว่าพะยูนน้อยจะแข็งแรงมากพอ และหากินหญ้าทะเลเพียงอย่างเดียวด้วยตัวเอง เพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ตามธรรมชาติได้ต่อไป

ที่อ่าวดุหยง ใกล้เขาบาตู หมู่ 4 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยังคงช่วยกันดูแลอนุบาล “เจ้ามาเรียม” พะยูนน้อยวัยประมาณ 6 เดือนตามปกติ ทั้งการป้อนนม และป้อนหญ้าทะเล รวมทั้งการพายเรือแคนู หรือที่พะยูนน้อยเรียกว่า “แม่ส้ม” เพื่อพาเจ้ามาเรียมออกกำลังกาย โดยในวันนี้มีการตรวจสุขภาพ และเก็บตัวอย่างเลือด วัดขนาดลำตัว ความยาว พร้อมกับถ่ายภาพส่วนหาง ซึ่งจะมีอัตลักษณ์ประจำตัวของพะยูนแต่ละตัว เพื่อเก็บเอาไว้เป็นข้อมูล

สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ได้ร่วมกับทีมแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตรวจสุขภาพร่างกายพะยูนน้อย โดยเฉพาะมีการเก็บตัวอย่างเลือดไปไว้เป็นฐานข้อมูล เพราะตามหลักการแล้วในการอนุบาลสัตว์ประเภทนี้ จะต้องมีการตรวจร่างกายเป็นระยะๆ และใน 1 ปีต่อไปจะต้องมีการเจาะเลือดตรวจบ้าง เผื่อว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นในร่างกายของมัน ล่าสุด ในวันนี้สภาพร่างกายเจ้ามาเรียมแน่นขึ้น แต่ยังไม่ได้ตามคาดหวังไว้ เพราะบางช่วงทางสัตวแพทย์ไม่สามารถให้อาหารได้เต็มที่ โดยอาหารชุดสุดท้ายจะให้ได้ในเวลาประมาณ 19.00 น. แต่หลังจากนั้นในเวลากลางคืนจะไม่สามารถป้อนอาหารให้ได้ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย จึงทำได้ไม่เต็มที่
 

 
ทั้งนี้ โดยหลักการแล้วจะต้องให้อาหารให้ได้วันละประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว หรือเจ้ามาเรียมจะต้องได้อาหารไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000 มิลลิลิตร แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำได้แค่ประมาณวันละ 2,500-2,700 มิลลิลิตร หรือยังน้อยไปประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ สำหรับอาหารที่ทีมสัตวแพทย์ได้เตรียมไว้ป้อนแต่ครั้งจะประกอบด้วย นมแพะที่ไม่มีน้ำตาล ผสมกับสารอาหารหลายอย่าง และมีน้ำมันเพื่อให้พลังงาน โดยขณะนี้ฟันพะยูนน้อยเริ่มโผล่ขึ้นมาบนเหงือกแล้ว แต่ยังไม่พ้น ซึ่งทั้งหมดต้องขอขอบคุณความอดทนของทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ที่ได้พยายามดูแลเจ้ามาเรียมอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจะต้องดำเนินการเช่นนี้ต่อไปอีกประมาณ 1 ปี หรือ 1 ปีเศษ เพราะโดยปกติพะยูนจะต้องกินนมแม่จนอายุได้ 1.8-2 ปี จึงจะทิ้งนม และกินหญ้าทะเลอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างมากของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ส่วนเรื่องการเตรียมแผนทำงานในช่วงฤดูมรสุมใหญ่ หนึ่งในนั้นคือการทำบ่ออนุบาลชั่วคราวขึ้นบริเวณริมอ่าวดุหยง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจที่ชัดเจน และยังต้องปรึกษากันหลายฝ่าย ทั้งกรมทรัพยากรทางทะเลฯ กรมอุทยานฯ รวมทั้งชาวบ้าน และชุมชน โดยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เตรียมจะนัดพูดคุยกับชาวบ้านในชุมชน เพื่อเสนอแนวทางนี้ พร้อมร่วมกันแสดงความคิดเห็น และวางแผนร่วมกัน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และเจ้ามาเรียม โดยขณะนี้สิ่งที่ทีมแพทย์เป็นห่วงมากก็คือ เรื่องการเกยตื้น จึงต้องให้เจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนดูเจ้ามาเรียมเวลาน้ำลง รวมทั้งยังห่วงเรื่องการออกไปหากินหญ้าทะเลด้วยตัวเองของพะยูนน้อยด้วย
 





กำลังโหลดความคิดเห็น