เจ้าของบริษัทเปิดแถลงอ้าง "บัตรพลังงาน" เป็นของบริษัทอื่นที่เลิกกิจการแล้ว

 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าของบริษัทบัตรพลังงาน เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องบัตรพลังงาน ยืนยันใช้กับตัวเองแล้วได้ผลจริง แต่เป็นของบริษัทอื่นที่เลิกกิจการไปแล้วและทิ้งบัตรไว้ จึงได้นำมาแจกลูกค้าควบคู่กับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของบริษัทตัวเอง

วันนี้ (14 มิ.ย.) ความคืบหน้ากรณีบัตรพลังงานที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ทั้งรักษาโรค ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ประหยัดไฟฟ้า หลังจากที่มีชาวบ้านที่ จ.ขอนแก่น ซื้อไปรักษาโรคปวดเมื่อยซึ่งเข้าข่ายหลอกลวง และพบว่าเป็นของบริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 335 ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 4 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจค้นเก็บหลักฐานภายในบริษัทแห่งนี้ไปแล้ว

ล่าสุด นายธนัช สุรินทร์ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค จำกัด ได้เปิดบริษัทแถลงข่าวชี้แจงเรื่องนี้ต่อสื่อมวลชน พร้อมกับขอความเป็นธรรมเพราะบริษัทซึ่งประกอบกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้รับความเสียหาย ถูกมองว่าขายบัตรพลังงานวิเศษรักษาได้ทุกโรค รักษาครอบจักรวาล ตามที่ปรากฏเป็นข่าว
 

 
นายธนัช ได้ชี้แจงว่า บัตรพลังงานไม่ใช่เป็นของบริษัทตน แต่เป็นของบริษัท “LA Geniusm” ที่มาเปิดในประเทศไทย แต่ขาดทุนจึงทิ้งบัตรเอาไว้ตนจึงได้เอาไปเก็บไว้ และที่ชาวบ้านนำไปใช้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับตนเลย และตนก็ไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นกับการแจกบัตรนี้ แต่ตนเคยใช้เหน็บที่เอวก็หายปวดจึงได้แจกให้แก่คนอื่นๆ ที่ซื้อสินค้าอาหารเสริมของตนเท่านั้น และตนไม่ทราบว่าบัตรนี้มีกี่แบบ แต่บางใบมีชื่อของบริษัทตนอยู่เพราะมีการทำขึ้นมาเป็นต้นแบบเสนอให้แก่บริษัทตนเท่านั้น

นายธนัช ยังย้ำว่า บัตรนี้ไม่ใช่บัตรวิเศษแค่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยอ่อนล้าจากการทำงานหนัก ซึ่งที่ตนเคยลองใช้ก็ช่วยได้จริงๆ ซึ่งเป็นความรู้สึกส่วนตัวไม่เกี่ยวกับคนอื่น ประกอบกับสินค้าที่ตนขายก็เกี่ยวกับกล้ามเนื้อโดยตรง จึงนำบัตรนี้มาแจกให้ใช้ควบคู่กันไป

สำหรับบัตรนี้ทางบริษัท “LA Geniusm” ได้ทิ้งไว้หลังปิดกิจการที่ห้างสรรพค้าแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ประมาณ 1,000 ใบ และตนได้แจกไปเรื่อยๆ ใครมาขอก็ให้ไป ส่วนคนที่นำไปขายเช่นที่ จ.ขอนแก่นนั้น ตนไม่ทราบ เพราะทางบริษัท “LA Geniusm” ได้ทำตลาดมาก่อนแล้ว เรื่องที่ชาวบ้านนำไปใช้นั้นตนไม่ทราบจริงๆ
 

 
นายธนัช ยืนยันว่า บริษัทตนประกอบกิจการอาหารเสริมเพียงอย่างเดียว และตนก็เป็นเจ้าของเพียงคนเดียว เปิดมา 4 เดือน แต่จดทะเบียนไว้นานแล้ว และเป็นธุรกิจเครือข่ายการทำตลาดขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ และหลังจากนี้กำลังรอหมายเรียกจากทางตำรวจเพื่อเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม ส่วนจะฟ้องร้องหรือไม่นั้นยังไม่ได้คิด 

“และที่ออกมาแถลงข่าวเพราะต้องการขอความเป็นธรรม เพราะบริษัทผมได้รับความเสียหาย ถูกมองว่าเป็นบริษัทลวงโลก แชร์ลูกโซ่ ซึ่งไม่เป็นความจริง ผมประกอบกิจการถูกต้องจำหน่ายสินค้าที่เป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ไม่เกี่ยวกับบัตรพลังงานแต่อย่างใด” นายธนัช สุรินทร์ กล่าว