ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ 6 หน่วยงานใน จ.สงขลา เข้าตรวจบริษัทจำหน่ายบัตรพลังงานวิเศษและสาขาของบริษัทรวม 2 จุดใน อ.หาดใหญ่ พบหลักฐานสำคัญทั้งบัตรพลังงานและชื่อเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นอดีตตำรวจ เตรียมออกหมายเรียกมาสอบสวน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ความคืบหน้าการตรวจสอบที่มาที่ไปของบัตรพลังงานวิเศษ ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ทั้งรักษาโรค ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ประหยัดไฟฟ้า หลังจากที่มีชาวบ้านที่ จ.ขอนแก่น ซื้อไปรักษาโรคปวดเมื่อยซึ่งเข้าข่ายหลอกลวง และพบว่าบริษัทผู้ผลิตอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.สงขลา รวม 6 หน่วยงาน ทั้งสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สคบ. ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ทหาร ตำรวจ และเทศบาลหาดใหญ่ นำโดยเภสัชกรธรรมชน ฉายบุญชยภัทร หัวหน้าฝ่ายสถานพยาบาลและบริหารเวชภัณฑ์ สำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่ตั้งของบริษัทและสาขาของบริษัทแห่งนี้รวม 2 จุด ใน อ.หาดใหญ่
โดยจุดแรกเข้าตรวจสอบที่ตั้งของบริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 335 ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 4 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งพบว่าถูกปิดตายมาหลายวัน ด้านนอกมีรถเบนซ์จอดอยู่ 1 คัน เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีตัดกุญแจประตูเข้าไป
ซึ่งพบว่า ภายในบริษัทมีร่องรอยของการรื้อค้นเอกสารสำคัญบางอย่างออกไม่นาน และมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายใน 1 คัน โดยภายในบริษัทมีการจัดรูปแบบของบริษัทขายตรงชั้นล่าง ใช้เป็นที่สำหรับการแสดงรูปแบบโครงสร้างของรายได้แต่ละระดับ ทั้งรายวัน รายเดือน และรายปี รวมทั้งมีบอร์ดแสดงการจัดประชุมสัมมนาเครือข่ายตามจังหวัดต่างๆ รวมถึง จ.ขอนแก่น ที่พบเป็นข่าวด้วย ส่วนชั้นบนเป็นห้องประชุมและห้องผู้บริหาร
และยังพบบัตรพลังงานที่เป็นสินค้าชูโรงอวดอ้างสรรพคุณวิเศษ ซึ่งเป็นบัตรใหม่อยู่กล่องบนชั้นสอง 1 ใบ รวมโบรชัวร์รายละเอียดของบัตรพลังงานวิเศษจำนวนมาก ซึ่งบรรยายสรรพคุณเอาไว้อย่างละเอียด เช่น เป็นเทคโนโลยีจากเยอรมนี ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน ดีเซล แอลพีจี เอ็นจีวี ปรับค่าความเสถียรของกระแสไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายส่วนเกิน เพิ่มพลังงานเสริมสร้างและซ่อมแซมสุขภาพ และบัตรนี้มีอายุการใช้งานขั้นต่ำ 5 ปี รับประกันประจุ 3 ปี นอกจากนี้ ยังพบผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารเสริมสุขภาพจำนวนหนึ่งด้วย
ที่สำคัญเจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญเป็นสำเนาบัตรประชาชนของ นายธนัช สุรินทร์ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ พร้อมกับรูปถ่ายเครื่องแบบตำรวจพร้อมหมวกตำรวจวางอยู่บนตู้ ซึ่งเป็นอดีตตำรวจยศจ่าสิบตำรวจ ที่เหลือก็เป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจการค้าของบริษัท เอ็กซ์เพิร์ทโปรเน็ทเวิร์ค จำกัด จำนวน 3 ใบ ซึ่งมีชื่อของ นายธนัช สุรินทร์ เป็นผู้ยื่นขอใบอนุญาต
สำหรับบริษัทแห่งนี้ได้ระบุในโบรชัวร์ว่า มี 2 สาขา คือ สาขาหาดใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 84/45 หมู่ 3 ถนนลพบุรีราเมศวร์ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และสาขากรุงเทพฯ เลขที่ 2539 ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ชั้น 4 ห้อง C9-C10 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่อายัดเอกสารและหลักฐานที่พบภายในบริษัทไว้ทั้งหมด และห้ามมีการเข้าออกมาบริษัทชั่วคราวจนกว่าผลการตรวจสอบและการดำเนินการทางกฎหมายจะสิ้นสุด รวมทั้งจะออกหมายเรียก นายธนัช ที่เป็นเจ้าของบริษัทมาสอบสวนในรายละเอียด รวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาซึ่งเจ้าหน้าที่จะพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าข่ายฐานความผิดใดบ้าง ทั้งนี้ เนื่องจากหลังปรากฏเป็นข่าวเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถติดต่อ นายธนัช หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทแห่งนี้ได้อีกเลย เบอร์โทรศัพท์ถูกปิดและระงับการใช้ทั้งหมด
ส่วนจุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบสาขาของบริษัทซึ่งเป็นสาขาหาดใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 84/45 หมู่ 3 ถนนลพบุรีราเมศวร์ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบว่า เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น แต่บริษัทได้ปิดสาขานี้ไปแล้วราว 1 ปี ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทของสำนักงานบัญชี
ด้าน เภสัชกรวิไลวรรณ สาครินทร์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหารและยา สำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา เปิดเผยว่า หลังการเข้าตรวจค้นบริษัทแห่งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพไปตรวจสอบ เนื่องจากแสดงฉลากไม่ถูกต้อง หมายเลขทะเบียน อย. ไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ สถานที่ผลิตไม่ถูกต้อง ส่วนเรื่องบัตรพลังงานจะต้องมอบหมายให้ทาง สคบ.เข้ามาช่วยดูในเรื่องนี้ เพราะในบริษัทพบแค่บัตรพลังงานเพียง 1 ใบ และแผ่นประชาสัมพันธ์ ซึ่งยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนในการเอาผิดทางคดี ต้องรอเรียกตัวให้เจ้าของบริษัทมาให้ปากคำ