สุราษฎร์ธานี -ภัยสังคม! หนุ่มพนักงานแผนกช่างโรงแรมดังบนเกาะสมุย ซิ่งรถจักรยานยนต์ ใช้มีดแทงนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันชิงทรัพย์สร้อยทอง สุดท้ายตำรวจบุกรวบได้แล้ว พร้อมหิ้วตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ
ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เหตุการณ์คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อกเเบบเต็มใบ ติดตามรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวชาย อายุ 60 ปี สัญชาติเยอรมัน โดยมีนางยงค์ น้อยพรม อายุ 56 ปี ภูมิลำเนาอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ภรรยาชาวไทยนั่งซ้อนท้าย และก่อเหตุใช้มีดแทงนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ ก่อนชิงทรัพย์สร้อยทองที่ภรรยาคนไทยสวมใส่ จำนวน 2 เส้น เหตุเกิดบนถนนสายทางลัดบนเขา ระหว่างบ้านละไม และบ้านแม่น้ำ หลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ได้สร้างความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่นงไม่ได้
ล่าสุด เมื่อดึกคืนที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) พ.ต.อ.บริบูรณ์ สุขสมบุรณ์ ผกก.สภ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมพล บูรณะเทศ รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.พิเชษฐ์ วิบุตร รอง สว.สส. ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ปานเนียม รอง สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจสืบสวน ได้เข้าจับกุมตัว นายนันทนนท์ หรือนนท์ หนูหวาน อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาซึ่งก่อเหตุดังกล่าว โดยจับกุมได้ขณะอยู่ในโรงแรมดังแห่งหนึ่ง ในตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับหน้าถอดสี หลังจับกุมได้ควบคุมตัวไปนำเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหานำไปทิ้งไว้ในกองขยะเพื่อทำลายหลักฐาน
จากนั้นทางตำรวจสืบสวนได้ควบคุมตัว นายนันทนน์ ผู้ต้องหาไปชี้จุดที่เกิดเหตุบนถนนขึ้นภูเขา สายทางลัดบ้านละไม รอยต่อบ้านแม่น้ำ หมู่ 1 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 7 กศ 5916 กทม. พร้อมขับติดตามนักท่องเที่ยวชายอายุ 60 ปี สัญชาติเยอรมัน ขณะที่ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีฟ้า ทะเบียน กผ 3551 สุราษฎร์ธานี โดยมีนางยงค์ น้อยพรม อายุ 56 ปี ภูมิลำเนา อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ภรรยา ขับรถขึ้นไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติบนภูเขา
และระหว่างทาง ถูกนายนันทนนท์ ได้ใช้มีดจี้บังคับให้นางยงค์ ถอดสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท และสร้อยข้อมือทองคำ หนัก 2 สลึง แต่นักท่องเที่ยวขัดขืน จึงถูก นายนันทนนท์ ใช้มีดแทงไปที่หัวไหล่ได้รับบาดเจ็บ และได้บังคับนางยงค์ ภรรยาให้ถอดสร้อยให้ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ทำงานเป็นพนักงาน แผนกช่าง ในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไปทำธุระ และขับรถผ่านมาตามถนนสายทางลัด บ้านละไม รอยต่อบ้านแม่น้ำ ซึ่งเป็นถนนลูกรังค่อนข้างเปลี่ยว และพบเห็นผู้เสียหาย มีทรัพย์สิน จึงได้ขับรถติดตามจนถึงที่เกิดเหตุ ได้จอดรถจักรยานยนต์ประกบพร้อมบังคับให้ส่งทรัพย์สินมาให้ แต่นักท่องเที่ยวชายขัดขืน จึงได้แทงด้วยมีดปลายแหลมไป 1 ครั้ง
จากนั้นได้บังคับภรรยานักท่องเที่ยวให้ถอดสร้อยส่งมาให้ แล้วได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี พร้อมนำมีดปลายแหลมไปโยนทิ้งบริเวณริมถนนสวนยางพารา จากนั้นได้นำสร้อยทองคำทั้ง 2 เส้นไปขายให้แก่ร้านทองแห่งหนึ่ง และกลับมาใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
ขณะที่ทางตำรวจได้นำผู้ต้องหาไปค้นหาอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุแต่หาไม่พบ ขณะที่ทางตำรวจได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่า เคยต้องโทษในคดียาเสพติด และพ้นโทษออกมาจากเรือนจำมากว่า 1 ปี และไปทำงานเป็นช่างในโรงแรม แต่มาก่อเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวและชิงทรัพย์ ในเบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และทำร้ายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ พร้อมจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงเที่ยงวันนี้
ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เหตุการณ์คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อกเเบบเต็มใบ ติดตามรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวชาย อายุ 60 ปี สัญชาติเยอรมัน โดยมีนางยงค์ น้อยพรม อายุ 56 ปี ภูมิลำเนาอำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ภรรยาชาวไทยนั่งซ้อนท้าย และก่อเหตุใช้มีดแทงนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ ก่อนชิงทรัพย์สร้อยทองที่ภรรยาคนไทยสวมใส่ จำนวน 2 เส้น เหตุเกิดบนถนนสายทางลัดบนเขา ระหว่างบ้านละไม และบ้านแม่น้ำ หลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ได้สร้างความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่นงไม่ได้
ล่าสุด เมื่อดึกคืนที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) พ.ต.อ.บริบูรณ์ สุขสมบุรณ์ ผกก.สภ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมพล บูรณะเทศ รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.พิเชษฐ์ วิบุตร รอง สว.สส. ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ ปานเนียม รอง สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจสืบสวน ได้เข้าจับกุมตัว นายนันทนนท์ หรือนนท์ หนูหวาน อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาซึ่งก่อเหตุดังกล่าว โดยจับกุมได้ขณะอยู่ในโรงแรมดังแห่งหนึ่ง ในตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับหน้าถอดสี หลังจับกุมได้ควบคุมตัวไปนำเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหานำไปทิ้งไว้ในกองขยะเพื่อทำลายหลักฐาน
จากนั้นทางตำรวจสืบสวนได้ควบคุมตัว นายนันทนน์ ผู้ต้องหาไปชี้จุดที่เกิดเหตุบนถนนขึ้นภูเขา สายทางลัดบ้านละไม รอยต่อบ้านแม่น้ำ หมู่ 1 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 7 กศ 5916 กทม. พร้อมขับติดตามนักท่องเที่ยวชายอายุ 60 ปี สัญชาติเยอรมัน ขณะที่ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีฟ้า ทะเบียน กผ 3551 สุราษฎร์ธานี โดยมีนางยงค์ น้อยพรม อายุ 56 ปี ภูมิลำเนา อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ภรรยา ขับรถขึ้นไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติบนภูเขา
และระหว่างทาง ถูกนายนันทนนท์ ได้ใช้มีดจี้บังคับให้นางยงค์ ถอดสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท และสร้อยข้อมือทองคำ หนัก 2 สลึง แต่นักท่องเที่ยวขัดขืน จึงถูก นายนันทนนท์ ใช้มีดแทงไปที่หัวไหล่ได้รับบาดเจ็บ และได้บังคับนางยงค์ ภรรยาให้ถอดสร้อยให้ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ทำงานเป็นพนักงาน แผนกช่าง ในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไปทำธุระ และขับรถผ่านมาตามถนนสายทางลัด บ้านละไม รอยต่อบ้านแม่น้ำ ซึ่งเป็นถนนลูกรังค่อนข้างเปลี่ยว และพบเห็นผู้เสียหาย มีทรัพย์สิน จึงได้ขับรถติดตามจนถึงที่เกิดเหตุ ได้จอดรถจักรยานยนต์ประกบพร้อมบังคับให้ส่งทรัพย์สินมาให้ แต่นักท่องเที่ยวชายขัดขืน จึงได้แทงด้วยมีดปลายแหลมไป 1 ครั้ง
จากนั้นได้บังคับภรรยานักท่องเที่ยวให้ถอดสร้อยส่งมาให้ แล้วได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี พร้อมนำมีดปลายแหลมไปโยนทิ้งบริเวณริมถนนสวนยางพารา จากนั้นได้นำสร้อยทองคำทั้ง 2 เส้นไปขายให้แก่ร้านทองแห่งหนึ่ง และกลับมาใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
ขณะที่ทางตำรวจได้นำผู้ต้องหาไปค้นหาอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุแต่หาไม่พบ ขณะที่ทางตำรวจได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่า เคยต้องโทษในคดียาเสพติด และพ้นโทษออกมาจากเรือนจำมากว่า 1 ปี และไปทำงานเป็นช่างในโรงแรม แต่มาก่อเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวและชิงทรัพย์ ในเบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และทำร้ายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ พร้อมจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงเที่ยงวันนี้