พัทลุง - อบจ.พัทลุง เปิดโครงการจัดการของเสียอันตรายจากชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะ และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของเสียอันตราย พบพัทลุงมีของเสียอันตรายจากชุมชนเฉลี่ยวันละ 4 ตัน
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.พัทลุง นายสมชาย อินปาน รองนายองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง เปิดโครงการจัดการของเสียอันตรายจากชุมชน จ.พัทลุง ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง ได้ร่วมกันจัดขึ้น ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะที่เป็นของเสียอันตรายจากชุมชน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของเสียอันตรายจากชุมชน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐใน จ.พัทลุง รวมทั้งลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพอนามัยของประชาชนที่เกิดจากของเสียอันตรายจากชุมชน
จังหวัดพัทลุง ได้จัดทำแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยจากชุมชน โดยได้กำหนดมาตรการแนวทางและกิจกรรมการดำเนินงาน จำนวน 4 มาตรการ ประกอบด้วย ด้านการบริหารจัดการ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งได้ออกข้อบัญญัติ เทศบัญญัติ การจัดการขยะ ด้านการจัดการขยะที่ต้นทาง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งจัดกิจกรรมรณรงค์ 3 ช. คือ การใช้น้อย ใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ ด้านการจัดการขยะกลางทาง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งมีภาชนะรองรับขยะมูลฝอยแบบแยกประเภทขยะอันตรายในที่ชุมชน ที่สาธารณะ และด้านการจัดการขยะที่ปลายทาง มีเป้าหมายจัดเก็บขยะอันตรายจากชุมชนทุกแห่ง และรวบรวมส่งไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
ซึ่งของเสียอันตรายจากชุมชน รวมทั้งภาชนะบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่ปนเปื้อนสารอันตราย เป็นส่วนสำคัญที่ทำลายสิ่งแวดล้อม และก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของคนเรา และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วย เสียชีวิต ซึ่งจากข้อมูลพบว่าในจังหวัดพัทลุง มีของเสียอันตรายจากชุมชน ประมาณปีละ 1,478 ตัน หรือวันละ 4 ตัน ส่วนใหญ่จะปะปนกับขยะทั่วไป แม้ว่าบางท้องถิ่นได้ดำเนินการคัดแยกของเสียอันตรายจากขยะทั่วไปแล้วก็ตาม แต่ยังมีข้อจำกัดในการรวบรวมและขนส่งไปกำจัดอย่างถูกวิธี
นายสมชาย อินปาน รองนายองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ปัญหาขยะและของเสียอันตรายจากชุมชนนับวันจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกครัวเรือนได้คัดแยกขยะของเสียอันตรายออกจากขยะทั่วไป แล้วเก็บรวบรวมไว้ ซึ่งทางเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ จะได้รวบรวมส่งให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป