ตรัง - สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 5 ส่งเสริมเกษตรกรบ้านนาเมร่ ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ให้ปลูกมัลเบอรี่ หรือหม่อนผลสด เพราะมีราคาดีและตลาดต้องการสูง
วันนี้ (4 มิ.ย.) สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 5 จังหวัดชุมพร (สมข.5 ชพ) กำลังให้การส่งเสริมและพัฒนาด้านหม่อนไหมในพื้นที่จังหวัดตรัง ด้วยการสนับสนุนการปลูกมัลเบอรี่ หรือหม่อนผลสด ให้แก่เกษตรกรบ้านนาเมร่ หมู่ที่ 6 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกประมาณ 25 คน ถือเป็นเกษตรกรกลุ่มแรกและกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง ที่ได้ปลูกหม่อนผลสดในพื้นที่จนให้ปริมาณผลผลิตถึงปีละประมาณ 1,350 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อนำไปจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 150 บาท จนทำให้ทางกลุ่มมีรายได้ถึงปีละ 142,800 บาท
นอกจากนี้ ยังได้มีการวางแผนการจัดการภายในแปลงตามหลักวิชาการ และได้รับรองมาตรฐาน GAP เนื่องจากใช้วิธีการดูแลแบบธรรมชาติ เพื่อให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพดี และปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีตลาดหลักในกลุ่มคนรักสุขภาพที่ต้องการประโยชน์ด้านการบำรุงสมองและร่างกาย ส่งผลให้หม่อนผลสดได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และขยายแหล่งจำหน่ายไปยังโรงพยาบาลและโรงเรียนต่างๆ
น.ส.สันศนีย์ เมฆหมอก นักวิชาการสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 5 จังหวัดชุมพร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่แปลงปลูกมัลเบอรี่บ้านนาเมร่ ต.นาโยงเหนือ ซึ่งสภาพต้นมีอายุประมาณ 5-6 ปีแล้ว แต่เกษตรกรไม่ได้ตัดแต่งเหมือนเสียดายกิ่ง และไม่ได้ทำสาว จึงแนะนำให้ตัดต้นไม้มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 1-1.5 เมตร หรือแล้วแต่ความสูงของตัวเกษตรกรเอง เพราะจะทำให้ง่ายต่อการเก็บผลผลิต หลังจากได้ทำการโน้มกิ่งเสร็จสิ้นไปแล้ว ขณะเดียวกัน ในส่วนของกิ่งหม่อนผลสดที่เหลือได้แนะนำให้ใช้วิธีการทำสาว นั่นคือ ตัดกิ่งแขนงออกทั้งหมด และรอให้กิ่งแตกใหม่ ในอีกประมาณ 4-6 เดือนข้างหน้า
จนกระทั่งเมื่อกิ่งเริ่มเป็นสีน้ำตาลจึงค่อยโน้มกิ่ง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตรุ่นใหม่ที่ออกมาในอนาคตมีคุณภาพและลูกโต ต่างไปจากผลผลิตรุ่นล่าสุดที่ลูกจะแคระแกร็น และดูไม่น่ารับประทานเมื่อไปวางขายแบบสดๆ ในท้องตลาด ดังนั้น เกษตรกรจึงต้องหันมาใช้วิธีการใหม่เพื่อทำให้หม่อนผลสดมีลูกที่โต ตึง และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
