กอ.รมน.แจงเหตุระเบิดมุ่งสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ ชาวบ้านรวมตัวประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุ

 
ปัตตานี - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเหตุระเบิดบริเวณตลาดบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หวังมุ่งสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ในเดือนรอมฎอน ด้านชาวบ้านรวมตัวประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุ รวมพลังต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ

จากกรณีเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ก่อเหตุลอบวางระเบิดบริเวณตลาดบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย เจ้าหน้าที่ และประชาชนได้รับบาดเจ็บอีก 23 คน

ล่าสุด วันนี้ (28 พ.ค.) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้แสดงความเสียใจกับญาติ และครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยสั่งการให้หน่วยเร่งนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และช่วยเหลือจัดการศพผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเป็นการด่วน สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 15 ราย พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 8 ราย ดังนี้

พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี จำนวน 1 ราย คือ อส.ทพ.จิระศักดิ์ แก้วนพรัตน์ อายุ 27 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 43 บาดเจ็บที่ศีรษะ ผ่าตัดเรียบร้อยแล้วรอดูอาการ พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองจิก จำนวน 1 ราย คือ น.ส.นุซายาตี วาเต๊ะ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 41/1 หมู่ 2 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี บาดเจ็บเล็กน้อย พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ม.อ.หาดใหญ่ จำนวน 1 ราย คือ นายอับดุลเลาะ กาหง อายุ 34 ปี ที่อยู่ 54/2 หมู่ 6 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี บาดเจ็บที่ศีรษะ และมีเลือดคั่งในสมอง

พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จำนวน 5 ราย คือ 1.จ.ส.อ.สมพล ลิ้มประเสริฐ อายุ 56 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 43 บาดเจ็บที่ศีรษะ 2.อส.ทพ.อภิชาต รักดี อายุ 28 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 43 บาดเจ็บเล็กน้อย 3.อส.ทพ.ไซดี ยะโก๊ะ อายุ 34 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 43 บาดเจ็บเล็กน้อย 4.นางรอดือละ ดือราแม อายุ 51 ปี ที่อยู่ 45/2 หมู่ 6 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี บาดเจ็บที่ใบหน้า 5.นายอัสรี มะยีแต อายุ 36 ปี ที่อยู่ 63/4 หมู่ 4 ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี บาดเจ็บที่มือขวา
 

 
จากการตรวจสอบพบเหตุระเบิดในครั้งนี้ เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องประกอบในรถจักรยานยนต์ โดยคนร้ายนำมาจอดในบริเวณตลาดบ่อทอง ซึ่งเป็นย่านชุมชน และคนร้ายเลือกจุดระเบิดในเวลาที่พี่น้องมุสลิมออกมาซื้ออาหารเพื่อเตรียมละศีลอดในเดือนรอมฎอนเป็นจำนวนมาก ถือเป็นความพยายามของกลุ่มขบวนการสุดโต่งที่ได้รับมรดกบาปทางความคิด มุ่งก่อเหตุเพื่อสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ในเดือนรอมฎอน ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่ส่งผลต่อความรู้สึกในวงกว้าง ซึ่งอาชญากรเหล่านี้นอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายแล้ว ยังถือเป็นพฤติกรรมที่ได้ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงอีกด้วย

ดังนั้น จึงขอให้ทุกภาคส่วนได้รวมพลังอันบริสุทธิ์ต่อต้าน และประณามกันอย่างกว้างขวาง เพื่อไม่ให้กลุ่มสุดโต่งพวกนี้ได้มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป และพร้อมกันนี้ ใคร่ขอเรียกร้องให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน และภาคประชาสังคมที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ เช่น กลุ่มด้วยใจ หรือมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เป็นต้น ได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนในการพิทักษ์สิทธิมนุษยชนให้พี่น้องประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง มิเช่นนั้นอาจทำให้สังคมมองว่าเลือกพิทักษ์สิทธิเฉพาะกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ดังที่ปรากฏให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะยังคงยึดมั่นตามแนวทางสันติวิธี ภายใต้หลักกฎหมาย โดยจะเร่งรัดบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มก่อเหตุโดยเร็วที่สุด ควบคู่กับการเปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็น และความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมให้หนุนเสริมกระบวนการสร้างสันติสุขในพื้นที่ต่อไป
 

 
พร้อมกันนี้ ได้ร่วมกิจกรรมรวมตัวของผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน และนักเรียน ซึ่งมีทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธ และอิสลามในพื้นที่ ต.บ่อทอง กว่า 400 คน ได้ออกมาถือป้ายประณามต่อต้าน และเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในทุกรูปแบบ หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณตลาดนัดบ่อทองแห่งนี้ โดยมีตัวแทนของทุกภาคส่วนออกมากล่าวแสดงถึงจุดยืนในการต่อต้านความรุนแรง และเรียกร้องให้กลุ่มคนร้ายยุติการก่อเหตุที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน

ทั้งยังได้ออกแถลงการณ์การรณรงค์รวมพลังต่อต้านความรุนแรง โดยมีรายละเอียด 3 ข้อ คือ 1.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่ม หยุดการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ในการสร้างความขัดแย้งในพื้นที่ 2.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่ม หยุดทำร้ายเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และ 3.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่าง หยุดนำพื้นที่สาธารณะ เช่น ตลาด สถานที่ราชการต่างๆ มาเป็นพื้นที่ก่อเหตุความไม่สงบ