จ่อฟัน! รถโม่ปูนทำเศษตกหล่นเรี่ยราดบนไหล่ถนน เกิดอุบัติเหตุ เจ็บ-ตายบ่อยครั้ง

สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี จ่อใช้กฎหมายเอาผิดรถบรรทุกโม่ปูนซีเมนต์ ทำเศษปูนตกเรี่ยราดบริเวณไหล่ถนนจุดเนินขึ้นลงเขาโค้งอันตราย ทำเกิดอุบัติเหตุบ่อย นักท่องเที่ยว ชาวบ้าน ได้บาดเจ็บและเสียชีวิตบ่อยครั้ง งัด 3 มาตรการแก้ไขด่วน

วันนี้ ( 27 พ.ค.) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ รักษาราชการแทนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุราษฎร์ธานี นายศุภเกียรติ เพชรเศรษฐ์ ปลัดป้องกันอำเภอเกาะสมุย นายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเกาะสมุย พร้อมกำลัง อส.ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณทางขึ้นลงเนินเขา ถนนสายทวราษฎร์ภักดี หรือถนนสายรอบเกาะสมุย บริเวณโค้งคอรอลโคฟ รอยต่อ ต.มะเร็ต และหมู่ 3 ต.บ่อผุด

จากการตรวจสอบบริเวณไหล่ทาง และบนนถนนตรงโค้งจุดอันตราย พบเศษปูนซีเมนต์ที่ตกเรี่ยราด เกาะแห้งติดถนน เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ จะเกิดอันตรายง่าย และอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตได้ ขณะที่ผ่านมา มีผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนนตรงจุดบริเวณดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง

ทั้งนี้ นายวิชวุทย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียน ว่า บริเวณจุดดังกล่าว เป็นจุดอันตราย ถนนทางขึ้นเนิน และเป็นโค้งอันตรายเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วหลายรายนั้น ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยว จึงได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเป็นจริงตามข้อร้องเรียน

โดยในเบื้องต้น ในเรื่องของมาตรการเร่งด่วน 3 ระยะ โดยมาตรการในระยะแรก ได้เร่งประสานงานไปที่สำนักงานแขวงการทางสุราษฎร์ธานี ที่ 2 ให้เร่งนำเครื่องจักรมาดำเนินการเจาะเศษปูนออกจากพื้นผิวถนน ส่วนมาตรการระยะที่สอง จะเร่งประสานไปที่สำนักงานขนส่ง จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบติดตาม และจับกุมผู้ที่ทำสิ่งของหกเรี่ยราดลงบนพื้นผิวถนน

ส่วนมาตรการระยะที่สาม ได้สั่งการให้ ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย เรียกประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยบนท้องถนนบนเกาะสมุย พร้อมเชิญผู้ประกอบการรถบรรทุกคอนกรีตผสมเสร็จ หรือผู้ประกอบการแพลนท์ปูนซีเมนต์ รถขนส่งและรถขนขยะ มาร่วมประชุมเพื่อหามาตรการป้องกันแก้ไขไม่ให้สิ่งของที่บรรทุกมาตกหล่นเรี่ยราดบนพื้นผิวถนน ที่เป็นการกีดขวางการจราจร ก่อให้เกิดความเสียหาย และก่อให้เกิดอุบัติเหตุต่อพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางสัญจรบนถนนเส้นนี้

ขณะเดียวกัน ฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ขอให้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากถนนเป็นถนนทางขึ้นลง มีความลาดชัน และอย่าได้ใช้ความเร็ว และหากมีรถบรรทุกอยู่ข้างหน้า ขอให้พี่น้องผู้ขับขี่ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มาก เพราะเนื่องจากอาจมีสิ่งของอาจตกร่วงลงมาจากรถบรรทุก ซึ่งในเรื่องนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ และต้องเร่งนำปัญหานี้เข้าที่ประชุมใหญ่ระดับจังหวัดเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป