ชุมพร - สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง "ผอ.ชัย" หลัง “ครูส้ม” ครูอัตราจ้าง นักแม่นปืนทีมชาติไทย ร้องถูกกลั่นแกล้งทอดทิ้งเพราะไปคบกิ๊กครูคนใหม่ ทั้งๆที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันมานาน

จากกรณี ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ รัตนประเสริฐ หรือ “ครูส้ม” อายุ 44 ปี นักกีฬายิงปืนรณยุทธ์ทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน และเป็นครูอัตราจ้างโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สวี เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ถึงพฤติกรรม ผอ.ชัย (นามสมมติ) ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หลังสวน ที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันมานานเกือบ 10 ปี และได้ทุ่มเทให้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง ผอ.สั่งให้ตัดผมสั้นแต่งกายเป็นทอมเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาต่อสังคม เพื่อจะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผย และต่อมา ผอ.คนดังกล่าวไปมีกิ๊กคนใหม่ซึ่งเป็นเป็นครู แล้วเธอถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานาจนทนไม่ไหว จึงร้องเรียนถึงพฤติกรรมของ ผอ.คนดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อขอสัมภาษณ์ ผอ.โรงเรียนที่ถูกร้องเรียน แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ผอ.ไม่อยู่ ไปราชการต่างจังหวัด พบแต่ รอง ผอ.โรงเรียนดังกล่าว
โดยรอง ผอ. กล่าวว่า ตนเองรู้จักทั้ง 2 คน และหากถามว่าทั้ง 2 คนมีความสนิทสนมกันหรือไม่นั้น ตนเองไม่รู้ว่าจะมีความลึกซึ้งกันขนาดไหน เคยเห็นเพียงทั้ง 2 คนทำกิจกรรมยิงปืน ปั่นจักรยานร่วมกัน แต่ไม่เคยเห็นไปกันสองต่อสองจะไปกันเป็นหมู่คณะ เพราะ ผอ.ชัย มีความชื่นชอบในเรื่องของการยิงปืนอยู่แล้ว และครูส้มเองอย่างที่ทราบกันว่าเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ จึงได้ให้ครูส้มเป็นคนแนะนำในเรื่องการยิงปืนให้
รอง ผอ.กล่าวต่อไปว่า หากพูดในเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นตนไม่ได้สนใจในเรื่องส่วนตัว แต่หากพูดในเรื่องของศีลธรรมหากเป็นความจริงก็ผิดวินัยผิดศีลธรรมอยู่แล้ว เพราะทั้งสองมีครอบครัวมีลูกมีเมียอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ทั้งคู่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเอง
ด้าน นายอดุลย์ เงินศรี ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 กล่าวว่า ทราบข่าวที่นำเสนอแล้ว เบื้องตนได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาระดับจังหวัด และหน่วยงานเบื้องบนทราบแล้วถึงกรณีที่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ที่ “ครูส้ม” ไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมยังไม่ได้ส่งเรื่องมาที่เขตการศึกษาฯ จึงยังไม่ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริง ซึ่งก็เห็นจากข่าวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้นิ่งเฉยต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งได้ปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายแล้วเห็นว่าให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง
โดยคณะกรรมการดังกล่าวส่วนใหญ่จะตั้งรองประธานเขตการศึกษาฯ เป็นประธานคณะกรรมการฯ แต่กรณีนี้คงตั้งไม่ได้เพราะครูส้มร้องเรียนด้วยเช่นกันว่าร้อง ผอ.เขต ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อเรื่องที่เกิดขึ้น จึงต้องตั้งบุคคลอื่นที่เหมาะสมเป็นประธานฯ
นายอดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า ตนในฐานะผู้บริหารในเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 2 เมื่อมีการประชุมครู ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกครั้งตนจะเน้นอยู่ 2 เรื่อง ที่ตนจะไม่ยอม คือ เรื่องทุจริต และเรื่องชู้สาว การผิดลูกผิดเมียผู้อื่น หากมีหลักฐานที่ชัดเจนจะมีโทษทางวินัยที่รุนแรงถึงขั้นให้ออก ไล่ออก แล้วแต่กรณี
จากกรณี ร.ต.หญิง ฌณกฐ์ปภัสสญ์ รัตนประเสริฐ หรือ “ครูส้ม” อายุ 44 ปี นักกีฬายิงปืนรณยุทธ์ทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน และเป็นครูอัตราจ้างโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สวี เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ถึงพฤติกรรม ผอ.ชัย (นามสมมติ) ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หลังสวน ที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกันมานานเกือบ 10 ปี และได้ทุ่มเทให้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง ผอ.สั่งให้ตัดผมสั้นแต่งกายเป็นทอมเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาต่อสังคม เพื่อจะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผย และต่อมา ผอ.คนดังกล่าวไปมีกิ๊กคนใหม่ซึ่งเป็นเป็นครู แล้วเธอถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานาจนทนไม่ไหว จึงร้องเรียนถึงพฤติกรรมของ ผอ.คนดังกล่าว ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อขอสัมภาษณ์ ผอ.โรงเรียนที่ถูกร้องเรียน แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ผอ.ไม่อยู่ ไปราชการต่างจังหวัด พบแต่ รอง ผอ.โรงเรียนดังกล่าว
โดยรอง ผอ. กล่าวว่า ตนเองรู้จักทั้ง 2 คน และหากถามว่าทั้ง 2 คนมีความสนิทสนมกันหรือไม่นั้น ตนเองไม่รู้ว่าจะมีความลึกซึ้งกันขนาดไหน เคยเห็นเพียงทั้ง 2 คนทำกิจกรรมยิงปืน ปั่นจักรยานร่วมกัน แต่ไม่เคยเห็นไปกันสองต่อสองจะไปกันเป็นหมู่คณะ เพราะ ผอ.ชัย มีความชื่นชอบในเรื่องของการยิงปืนอยู่แล้ว และครูส้มเองอย่างที่ทราบกันว่าเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ จึงได้ให้ครูส้มเป็นคนแนะนำในเรื่องการยิงปืนให้
รอง ผอ.กล่าวต่อไปว่า หากพูดในเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นตนไม่ได้สนใจในเรื่องส่วนตัว แต่หากพูดในเรื่องของศีลธรรมหากเป็นความจริงก็ผิดวินัยผิดศีลธรรมอยู่แล้ว เพราะทั้งสองมีครอบครัวมีลูกมีเมียอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ทั้งคู่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเอง
ด้าน นายอดุลย์ เงินศรี ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 กล่าวว่า ทราบข่าวที่นำเสนอแล้ว เบื้องตนได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาระดับจังหวัด และหน่วยงานเบื้องบนทราบแล้วถึงกรณีที่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ที่ “ครูส้ม” ไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมยังไม่ได้ส่งเรื่องมาที่เขตการศึกษาฯ จึงยังไม่ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริง ซึ่งก็เห็นจากข่าวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้นิ่งเฉยต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งได้ปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายแล้วเห็นว่าให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง
โดยคณะกรรมการดังกล่าวส่วนใหญ่จะตั้งรองประธานเขตการศึกษาฯ เป็นประธานคณะกรรมการฯ แต่กรณีนี้คงตั้งไม่ได้เพราะครูส้มร้องเรียนด้วยเช่นกันว่าร้อง ผอ.เขต ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อเรื่องที่เกิดขึ้น จึงต้องตั้งบุคคลอื่นที่เหมาะสมเป็นประธานฯ
นายอดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า ตนในฐานะผู้บริหารในเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 2 เมื่อมีการประชุมครู ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกครั้งตนจะเน้นอยู่ 2 เรื่อง ที่ตนจะไม่ยอม คือ เรื่องทุจริต และเรื่องชู้สาว การผิดลูกผิดเมียผู้อื่น หากมีหลักฐานที่ชัดเจนจะมีโทษทางวินัยที่รุนแรงถึงขั้นให้ออก ไล่ออก แล้วแต่กรณี