ครั้งแรกในประเทศไทย อนุบาลลูกพะยูนในทะเล ป้อนนม สอนกินหญ้าทะเล เสมือนเป็นแม่

 
ตรัง - เจ้าหน้าที่จัดกำลังดูแลตลอด 24 ชม. "เจ้ามาเรียม" พะยูนน้อยวัยเกือบ 1 ปี ที่พลัดหลงกับแม่ และถูกนำมาอนุบาลยังเกาะลิบง จ.ตรัง เพื่อป้อนน้ำ หญ้าทะเล และเฝ้าระวังภัยคุกคามจนกว่ามันจะโต นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการอนุบาลสัตว์น้ำในทะเลแทนการดูแลในบ่อ

จากกรณีเจ้ามาเรียม พะยูนน้อยวัยเกือบ 1 ปี ที่พลัดหลงจากแม่ เกยตื้นที่หาดอ่าวทึง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ และเจ้าหน้าที่ได้นำมาปล่อยกลับลงสู่ทะเลที่แหลมจุโหย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรังนั้น

วันนี้ (22 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ยังคงจัดกำลังไปเฝ้าดูแลเจ้ามาเรียมตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่าจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดีแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังจำเป็นต้องอนุบาลและเป็นเสมือนกับแม่เอง คงต้องป้อนนมให้กินเสมือนกับกินนมแม่ สลับการป้อนและสอนให้กินหญ้าทะเล ซึ่งการเลือกใช้วิธีปล่อยไว้ในท้องทะเล แทนที่จะนำไปอนุบาลในบ่อ ถือเป็นครั้งแรกของไทย ที่เจ้าหน้าที่ทำเช่นนี้ และคาดว่าจะต้องทำเช่นนี้ต่อไปอย่างน้อย 6 เดือน จนกว่าพะยูนน้อยจะเติบโตพร้อมออกไปใช้ชีวิตภายนอกตามธรรมชาติ ทั้งนี้ หากทิ้งให้อยู่ตามธรรมชาติ โดยไม่ทำการอนุบาลและเป็นเสมือนแม่ให้ลูกพะยูน ส่วนใหญ่ลูกพะยูนก็จะขาดนมและตายไปในที่สุด

สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ กิจกรรมทางทะเล การสัญจรทางเรือ และเครื่องมือประมง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพะยูนน้อยได้ เช่น หากมันว่ายน้ำออกไปนอกแนวเขต ก็อาจถูกเรือชน หรือถูกใบพัดเรือ รวมทั้งอาจไปติดเครื่องมือประมงบางชนิด หรือว่ายน้ำเผลอเข้าไปเกยตื้นอีกครั้งจนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องคอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งประสานไปยังผู้นำชุมชน และชาวบ้านเกาะลิบง เพื่อขอความร่วมมือในการช่วยดูแลเจ้ามาเรียม เพื่อให้ประสบความสำเร็จ

เจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันดูแลลูกพะยูนในครั้งนี้ ประกอบด้วย ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต คณะสัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (สบทช.) ที่ 10 จ.ตรัง ผู้นำชุมชน และกลุ่มพิทักษ์ดุหยง